ไม่อยากเสี่ยง 2

1762 คำ
ไม่อยากเสี่ยง “พี่เทมส์ พี่เทมส์ใช่ไหมคะ” คิ้วหนาของธัชพลขมวดเข้าหากันนิด ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างนึกสงสัยว่าเธอรู้จักเขาได้อย่างไร น้อยครั้งนักที่เขาจะบังเอิญเจอคนรู้จักที่ไม่ใช่เพื่อนตอนออกมาข้างนอก สาเหตุหนึ่งมาจากเขาไม่ค่อยออกงานสังคม ส่วนสาเหตุที่สองเขาไม่ค่อยชอบผูกมิตรกับใครสักเท่าไร “แหม ไม่ต้องทำหน้างงหรอกค่ะ วารู้จักพี่เทมส์เพราะคุณแม่ทัดดาวเป็นคนแนะนำให้รู้จัก บอกว่าจะนัดให้เจอกันเร็ว ๆ นี้ ไม่คิดว่าจะบังเอิญมาเจอก่อนแบบนี้ ตัวจริงพี่เทมส์หล่อกว่าในรูปเยอะเลยนะคะ” ถ้ารู้ว่าจะหล่อและงานดีขนาดนี้เธอจะไม่เล่นตัวเลยสักนิด ภิญญาพัชญ์คิดต่อในใจ ส่วนคุณแม่ทัดดาวที่เธอพูดถึงนั้นคือมารดาของชายหนุ่มนั่นเอง สิ่งที่ผู้หญิงตรงหน้าพูดทำให้ธัชพลเริ่มเข้าใจว่าทำไมเธอถึงรู้จักเขา และพอจะคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพราะก่อนหน้านี้มารดาของเขาก็เคยมาเปรย ๆ อะไรทำนองนี้ไว้เหมือนกัน ในสถานการณ์ตอนนี้คงจะมีแค่วิลาสินีคนเดียวที่ยังไม่เข้าใจ เธอมองหน้าชายหนุ่มที่ยังจับมือเธอไว้แน่นสลับกับน้องสาวต่างมารดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ยายเด็กนี่พูดถึงเรื่องอะไรกัน ? “ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะพี่วิว อีกหน่อยพี่วิวก็คงจะเข้าใจทุกอย่างเองนั่นแหละ” ภิญญาพัชญ์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของวิลาสินี เธอหลุบตามองมือพี่สาวที่ถูกกุมโดยมือใหญ่ของธัชพล ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วยิ้มเหยียด “เอาเป็นว่าวันนี้วาไม่มีธุระอะไรแล้วก็ได้ค่ะ ไว้เจอกันที่งานวันเกิดคุณย่านะคะ หวังว่าปีนี้พี่จะไปร่วมงานด้วย ตั้งแต่ถูกไล่ออกจากบ้านไปก็ไม่ได้ร่วมงานหลายปีแล้วนี่เนอะ ไปหน่อยนะคะ เดี๋ยวคุณย่าจะเสียใจที่หลานรักหายหน้าหายตา ไปละ วาไปก่อนนะคะพี่เทมส์” พูดจบภิญญาพัชญ์ก็หันไปส่งสายตาและยิ้มหวานให้ธัชพล ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปด้วยความรู้สึกสะใจนิด ๆ ทิ้งให้วิลาสินียืนกำมือแน่น มองตามแผ่นหลังของคนที่เธอเกลียดเข้าไส้ด้วยความโกรธ ระหว่างทางที่นั่งรถกลับคอนโดมิเนียมด้วยกัน ทั้งคู่ต่างก็นั่งเงียบไม่มีใครพูดหรือถามอะไร และพอมาถึงที่พักวิลาสินีก็เดินไปเก็บของทุกอย่างเข้าที่ เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เธอใช้เวลาอยู่ในนั้นราว ๆ ชั่วโมงกว่าก็เดินออกมา ธัชพลมองร่างเพรียวระหงที่ยืนทาสกินแคร์อยู่หน้ากระจกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทว่าในใจกลับมีความรู้สึกบางอย่างแทรกซึมเข้ามา ชายหนุ่มไม่รู้ตัวว่าเผลอมองเธอนานเท่าไร รู้ตัวอีกทีก็เสียงเธอบอกให้เขาเข้าไปอาบน้ำ “ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้คุณต้องไปทำงาน” ทันตแพทย์หนุ่มพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร สืบท้าวเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำทันที ใช้เวลาไม่นานก็อาบเสร็จ เขาเดินไปปิดไฟทุกดวงให้เหลือเพียงโคมไฟหัวเตียงสองฝั่งเท่านั้น ก่อนจะก้าวขึ้นเตียงไปนอนข้าง ๆ หญิงสาว วิลาสินีขยับเข้าหาความอบอุ่นที่คุ้นชิน สอดแขนกอดเอวสอบแล้วซุกใบหน้าเข้ากับหน้าอกแกร่งอย่างที่ชอบทำทุกครั้งที่เขามาค้างด้วย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอรู้สึกสบายใจยามที่ได้อยู่ใกล้เขาแบบนี้ ไม่ต้องมีคำพูด หรือคำปลอบใจที่สวยหรู ไม่ว่าในแต่ละวันเธอจะเจอเรื่องอะไรมา หนักหนาแค่ไหน เพียงแค่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่ไม่มีใครต้องการอย่างเธอ สักพักมือเล็กของหญิงสาวก็เริ่มซุกซน ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังหนั่นแน่น ค่อย ๆ ลากลงไปวนเวียนที่ขอบกางเกง สักพักก็ค่อย ๆ สอดเข้าไปแล้วเลื่อนมาข้างหน้า ลูบ ๆ คลำ ๆ แก่นกายที่ยังไม่แข็งตัว ใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวไร้เครื่องสำอางเงยขึ้นไปสบกับนัยน์ตาดำขลับที่ก้มมองเธอด้วยแววตาไม่เข้าใจ มุมปากเธอยกยิ้มขึ้นนิด ๆ ก่อนจะยืดตัวขึ้นไปจูบริมฝีปากได้รูปเบา ๆ แล้วผละออกมาสบตาอีกครั้ง ไม่นานก็แนบเข้าไปอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับไม่ใช่แค่การจูบเบา ๆ ปากอิ่มบดเคล้าอย่างดูดดื่มพลางเรียกร้องให้เขาตอบรับ พร้อมกับมือที่เริ่มขยำแก่นกายภายใต้กางเกงผ้าเนื้อดี จนได้ยินเสียงทุ้มครางครืนออกมาเบา ๆ ในลำคอ ธัชพลสลัดทุกความรู้สึกทิ้งไปและเหลือไว้แต่ความปรารถนาที่มีต่อหญิงสาวที่กำลังปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้ลุกโชน มือทั้งสองข้างดันไหล่เปลือยแนบลงกับที่นอน ก่อนจะขยับขึ้นไปคร่อมทับ ริมฝีปากหยักแนบเข้ากับกลีบปากอิ่มอีกครั้งแล้วบดจูบ เลาะเล็มขอบปากอย่างละเลียดลิ้มชิมความหวานที่โปรดปราน “อื้อ...” วิลาสินีเปล่งเสียงออกมาอย่างพึงพอใจกับสัมผัสที่เขาตอบรับ รู้สึกได้ถึงความเป็นชายในมือที่มันแข็งขืนขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ต้องปลุกเร้าอะไรมาก เช่นเดียวกับจุดอ่อนไหวกลางกายของเธอ ที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่จูบและสัมผัสนิดหน่อย ก็มีน้ำหวานหลั่งรินออกมาให้ช่องทางชุ่มฉ่ำเพื่อรอคอยให้เขาเข้ามาเติมเต็ม ชายหนุ่มเพิ่มแรงจูบให้หนักหน่วงขึ้น เลื่อนมือหนาเข้ากอบกุมอกอวบพลางขยำและบีบเคล้นผ่านเนื้อผ้าบางเบาที่เธอชอบใส่นอนเป็นประจำ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะค่อย ๆ เลื่อนต่อลงไป แวะซุกไซ้ตวัดเลียซอกคอหอม สูดดมกายสาวอย่างหลงใหล จากนั้นก็ขยับลงไปอีกจนถึงหน้าอกเต่งตึง เขาถอดชุดนอนเพียงชิ้นเดียวของเธอออกไปอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นเม็ดถันสีหวานชูชันล่อตาล่อใจ ทำให้เขาอดใจไม่ไหวรีบอ้าปากครอบและดูดดึงอย่างดูดดื่ม ส่วนอีกข้างก็ใช้นิ้วสะกิดเบา ๆ สลับเคล้าคลึงไปตามแรงอารมณ์ “อื้อ ทะ...เทมส์” วิลาสินีครางหวิว นิ้วเรียวสอดเข้าไปในกลุ่มผมดำดก ออกแรงขยุ้มเบา ๆ ให้เขารู้ว่าเธอเสียวซ่านมากแค่ไหน ส่วนอีกมือก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่ข้างล่าง ยังรูดรั้งเป็นจังหวะ มีหยุดชะงักไปบ้างตอนที่ลิ้นร้อนตวัดรัว แต่ก็ยังไม่ถือว่าละเลย ความรุ่มร้อนวิ่งพล่าน เลือดลมสูบฉีดไปทั่วสรรพางค์กายเมื่อเขาเลื่อนมือลงมาสัมผัสจุดอ่อนไหว หญิงสาวครางเสียงหลงเมื่อเขาขยี้เบา ๆ บนปุ่มกระสันกึ่งกลางกาย สะโพกยกลอยแอ่นรับกับมือของเขา ก่อนที่ขาทั้งสองข้างเธอจะถูกจับแยกออกจากกันโดยคนบนร่าง “อ๊ะ อื้อ สะ...เสียว” วิลาสินีส่ายหน้าไปมาเมื่อเขาสอดนิ้วเข้าช่องทางอ่อนนุ่มราวกับกำมะหยี่ เอวเล็กเด้งขึ้นเป็นจังหวะยามเขาขยับนิ้วเข้าออก เธอดึงมือออกจากตรงนั้นของเขา เลื่อนขึ้นจับไหล่แกร่งอย่างหาที่ยึด แก้มนวลร้อนผ่าวเมื่อเขาขยับนิ้วถี่ขึ้น ทำให้ร่างกายเธอหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปรอะเปื้อนเต็มโคนขาด้านใน สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวจนต้องเรียกร้องให้เขาเข้ามาเติมเต็ม “ทะ...เทมส์ วิวไม่ไหว เข้าเลยได้ไหม” หญิงสาวส่งสายตาเว้าวอน นิ้วเขามันก็ดีอยู่หรอก แต่จะดีกว่าถ้าได้อะไรที่ใหญ่และถึงใจมากกว่านั้น ธัชพลยกมุมปากขึ้นนิด ๆ อย่างพึงพอใจ ก่อนจะยืดตัวขึ้นไปดึงลิ้นชักข้างเตียงออก หากแล้วก็ต้องชะงักเมื่อสิ่งที่เขาต้องการ...มันไม่มี “s**t!” ชายหนุ่มสบถคำหยาบคายออกมาเบา ๆ นึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจ เป็นความผิดพลาดของเขาเองที่ลืมซื้อมาเก็บไว้ สามชิ้นที่เหลืออยู่เขาก็ใช้หมดไปตั้งแต่เมื่อวาน ตั้งใจว่าวันนี้จะแวะซื้อตอนขากลับ หากก็ลืมจนได้เพราะมัวแต่พะวงกับสภาพจิตใจของหญิงสาว “หมดเหรอคะ” วิลาสินีเงยหน้าขึ้นถาม ครั้นเห็นเขาพยักหน้าเธอก็ถอนหายใจด้วยรู้สึกเซ็งสุดขีด เพราะกฎข้อเดียวของการมีเซ็กซ์สำหรับเธอคือต้องป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งโดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น หากไม่มีทุกอย่างก็คือจบ แต่ในเมื่ออารมณ์มันจุดติดแล้ว ทางเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือ… “งั้นก็แค่ข้างนอก...” ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบประโยค เขาก็พูดขึ้นมาเสียก่อน “วิว” เสียงเรียกนุ่มทุ้มพร้อมกับสายตาของเขาที่มองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอราวกับต้องการร้องขออะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ถามอะไร เขาก็ชิงถามขึ้นมาก่อน “ถ้าไม่ใส่...ได้ไหม” เกิดความลังเลขึ้นมาในใจของวิลาสินีทันทีที่เขาถามจบ หากเป็นคนอื่นเธอคงจะปฏิเสธได้โดยไม่ต้องคิด แต่เพราะเป็นเขา...จึงทำให้เธอรู้สึกไขว้เขว เหตุผลร้อยแปดถูกดึงขึ้นมาถกเถียงกันในหัว สมองถูกแบ่งออกไปสองฝั่ง ฝั่งแรกยืนหยัดว่าอย่างไรก็ต้องใช้ถุงยางเท่านั้น แต่ฝั่งที่สองกลับไม่ยอม มันโต้เถียงกลับมาว่าเขาสะอาดและที่สำคัญตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา เขามีแค่เธอคนเดียว ขณะที่ในสมองกำลังทุ่มเถียงกันอย่างหนัก จู่ ๆ ก็มีความรู้สึกหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเมื่อได้สัมผัสได้ถึงความหนักแน่นในดวงตาคมสีดำขลับของเขา ทำให้เธอพยักหน้าลงช้า ๆ เพื่ออนุญาตให้เขาเข้ามาโดยปราศจากเครื่องป้องกัน เพราะเป็นเขา...เธอจึงเชื่อใจ เชื่อใจว่าเขาจะไม่สร้างปัญหาให้เธอหลังจากนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม