7-VALEN | นอนกับฉัน

2067 คำ
"ให้คนที่เขาเป็นแฟนกันเคลียร์กันเถอะค่ะคุณแอร์บัส" น้ำอิงบอกคุณนักบินแล้วเดินไปยืนข้างๆเขา ซึ่งเขาไม่สนใจ รีบก้าวเข้ามาใกล้ๆฉันและดึงมือฉันไปหาตัวเอง "ไปเก็บของ จะได้ไปนอนกันสักที" นอน? อ๋อ...หมายถึงเขาสินะ คงง่วงเต็มที่แล้ว เมื่อฉันกำลังสับสนกับคำว่านอน คุณนักบินก็ใช้ร่างใหญ่ๆกระแทกไหล่ทิวไผ่เข้าไปในห้องทันที ก่อนที่สองคนนั้นที่พึ่งมีสติจะรีบตามกันเข้ามา "นอนอะไร? วาเลน! บอกมาผู้ชายคนนี้เป็นใคร วาเลนจะไปนอนกับมันเหรอ?" ฉันไม่ตอบ รีบเข้าห้องนอนแล้วเก็บกระเป๋าของตัวเองอย่างเร่งรีบ จนน้ำอิงเธอปรี่มาดึงกระเป๋าใบนั้นไป "เดี๋ยว! แกนอนกับคุณแอร์บัสเหรอ แกรู้จักเขาได้ยังไง ทำไมแกใจง่ายแบบนี้วาเลน!" ฉันหายใจหอบทั้งเหนื่อยทั้งโมโห ก่อนจะหันไปมองหน้าน้ำอิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ และเห็นว่าเธอกำลังไม่พอใจฉันเอามากๆ หล่อนไม่ได้ห่วงฉันหรอก หล่อนคงหวง... และแล้วประโยคที่น้ำอิงบอกฉันก่อนหน้าก็ก้องเข้ามาในหัวทันที เธอบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นนักบิน หรือว่าจะเป็นคุณนักบินคนนี้ ?! "ใช่! ฉันจะนอนกับเขา ทำเหมือนที่แกทำกับทิวไผ่เลยเป็นไง บนโซฟามันเร้าใจใช่มั้ย? ฉันจะได้ทำตาม" ทุกคนอึ้งและเบิกตากว้างรวมถึงคุณนักบินด้วย แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันแค่พูดเหยียบอกน้ำอิงเล่นเท่านั้น ออกไปจากห้องนี้เมื่อไหร่ ฉันจะเปิดห้องใหม่และกลับไทยไฟลท์เช้าเลย "พูดอะไรวาเลน ผู้ชายคนนี้รู้จักกันมาก่อนเหรอ?!! " ทิวไผ่เดินมาคว้าข้อมือฉันอีก แต่ครั้งนี้ฉันสลัดมันทิ้งอย่างไม่ใยดี "เพิ่งรู้จักเมื่อกี้ แต่เห็นว่าเขาหล่อดีเลยอยากลองนอนด้วย สนุกๆไง ไม่ได้เหรอ?" ฉันพูดประชดแล้วจ้องหน้าทิวไผ่อย่างเย้ยหยัน "ไม่ได้!" "ทำไมล่ะ ทีทิวไผ่ยังชวนให้เรามีเซ็กส์พร้อมกันสามคนเลย" "นี่! แกพูดอะไรวาเลน ไม่ใช่สักหน่อย ใครจะทำเรื่องแย่ๆแบบนั้น แกใส่ร้ายฉันจิตใจแกมันสกปรกเกินไปแล้ว" น้ำอิงรีบแก้ต่างและโยนความระยำมาให้ฉัน แต่ฉันกลับเห็นว่าตาเธอมันเลิ่กลั่ก และเหลือบมองคุณนักบินอยู่เป็นระยะ ซึ่งเขาไม่ได้สนใจเธอหรอกค่ะ เขายืนกอดอกมองฉันนิ่งๆ เห็นภาพแบบนั้นแล้วมันช่างสะใจจริงๆ จนฉันคนนี้ต้องหัวเราะในลำคอเบาๆ และเดินไปจ้องหน้าน้ำอิงใกล้ๆ "เหอะ เหอะ...เหรอ? แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่าฉันโคตรขยะแขยงพวกแกสองคน อย่าแก้ต่างให้ตัวเองดูดีเลย...มันฟังไม่ขึ้น เพราะกลิ่นเน่าเหม็นมันคละคลุ้งไปทั่ว" "วาเลน มันจะมากเกินไปแล้วนะ!" น้ำอิงแผดเสียงใส่ฉัน "ผู้หญิงใจร่านอย่างแก แค่นี้ยังน้อยไป" "วาเลน!" เพียะ! ค่ะ หน้าฉันหันไปตามแรงมือของน้ำอิง ซึ่งหน้าไม่เจ็บหรอก มันเจ็บที่ใจต่างหาก ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองต้องแตกหักกับเพื่อนรักเพียงคนเดียวเพราะเรื่องนี้ "แกเข้าใจผิดแล้ววาเลน ฉันไม่ได้คิดอะไรกับแฟนแก เราเป็นเพื่อนกัน" ตอแหลได้ไม่อายปาก ฉันหมดคำจะพูดกับคนแบบนี้แล้วจริงๆ ฉันจึงหันไปกระชากกระเป๋าคืนและชี้หน้ามันด้วยนิ้วที่สั่นระริก "แกมันเลวมากน้ำอิง ผู้ชายคนนั้นฉันยกให้ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องมาปีนต้นงิ้วลักกินขโมยกินอีก!" พอฉันพูดจบมือที่สั่นๆก็ถูกคว้าไปจับทันที ก่อนที่คุณนักบินจะดึงมือฉันออกไปจากห้อง ท่ามกลางเสียงโหวกเหวกโวยวายของทิวไผ่กับน้ำอิงที่ดังตามหลัง แต่พอออกมาจากห้องปิดประตูเท่านั้น ฉันก็ถึงกับทรุดนั่งลงที่พื้นอย่างหมดสภาพ น้ำตาที่กลั้นไว้มานานหลั่งออกมาเป็นสาย หัวใจที่เข้มแข็งเจ็บแปร๊บแทบขาดใจ ตอนนี้ฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ "ฮือๆ ฉันจะทำยังไงดี ฉันเกลียดพวกมัน เห็นมั้ยว่าพวกมันโกหกหน้าด้านๆ เห็นแก่ตัวชะมัด!" คุณนักบินถอนหายใจ แล้วนั่งยองๆมองหน้าฉัน "ลุกขึ้น เดี๋ยวฉันไปส่งที่ล็อบบี้" "ฉันลุกไม่ไหวแล้ว ฉันอ่อนแออีกแล้วฮือๆ " "เฮ้อ ทำตัวให้เก่งเหมือนเมื่อกี้หน่อย และถ้าเธอไม่ลุกขึ้น ฉันอุ้มนะ" ฉันหยุดร้องแล้วลุกขึ้นยืนทันที ก่อนที่จะดึงกระเป๋าลากไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ค่อยร้องไห้ทีหลังก็ได้อย่าถึงกับอุ้มกันเลย เพราะแค่เห็นเขาแก้ผ้าและเขาเห็นชุดชั้นในฉัน มันก็มากเกินไปสำหรับคนพึ่งรู้จักกันแล้ว แล้วเมื่อเราลงมาถึงล็อบบี้คุณนักบินก็เข้าไปติดต่อขอห้องพักให้ฉัน ส่วนฉันน่ะเหรอ...หมดสภาพ ได้แต่นั่งรอที่โซฟาของโรงแรม และมองเหม่อไปที่แผ่นหลังกว้างๆของผู้ใจบุญ พูดแบบนี้ได้มั้ย เพราะถ้าไม่ได้เขาช่วย ป่านนี้ฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้... แล้วขณะที่ฉันเหม่อคิดอะไรอยู่ คุณนักบินก็หันขวับกลับมา แล้วเดินมาหาฉันอย่างหัวเสีย "มีอะไรรึเปล่า?" ฉันรีบถามทันที "ห้องพักเต็ม-_-" "ว่าไงนะ?O_O" "ฉันบอกว่าห้องพักเต็ม ช่วงนี้มันไฮซีซั่นใบไม้เปลี่ยนสี พนักงานโทรเช็คโรงแรมรอบๆให้ก็เต็มทุกที่" พอฉันได้รู้แบบนั้นก็ห่อเหี่ยวใจขึ้นไปอีก นี่มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ย! ว่างให้ฉันแค่ห้องเดียวไม่ได้รึไง จะจองทำไมกันนักหนา! "ทำยังไงดีคุณ บินกลับไทยตอนนี้ก็ไม่มีไฟลท์" ฉันถามเขาแล้วนั่งหน้ายู่คอตก หวังว่าสุดท้ายฉันจะไม่ได้ระเห็จออกไปนอนที่ป้ายรถเมล์นะ "มีสองทางเลือก หนึ่งเธอนอนตรงนี้ สองนอนกับฉัน" ฉันเงยขึ้นมองเขาทันที ตกใจกับข้อสองจนต้องรีบโบกมือปฏิเสธ "ไม่ๆ จะบ้าเหรอ ฉันจะนอนกับคุณได้ยังไง?!" "นอนได้ อยากทำเหมือนที่บอกกับเพื่อนก็ได้นะ แค่บอกมา ฉันทำให้เอง" คราวนี้ฉันเบิกตากว้างตกใจ เพราะเขาเล่นพูดประโยคนั้นออกมาได้หน้าตาเฉยมาก ราวกับเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติที่ใครก็ทำกัน นี่ฉันคนเดียวรึเปล่าที่ยังหัวโบราณกับเรื่องนี้ คนเราจะมีเซ็กส์กันได้ ต้องรักกันสิ! "ฉันไม่มีวันทำแบบนั้นกับคุณเด็ดขาด ฉันแค่แกล้งพูดไปเท่านั้น" "ฉันก็ไม่มีวันทำอะไรเธอ ถ้าเธอไม่สมยอม" "ไม่ๆ ยังไงฉันก็ไม่นอนกับคุณเด็ดขาด" "ถ้าไม่อยากหนาวตาย ก็ขึ้นไปนอนกับฉัน" ฉันกะพริบตาถี่ๆ ไม่รู้จะตอบคุณนักบินยังไงดี เพราะฉันพึ่งรู้จักเขาวันนี้เองนะ มันไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอ "ฉันกลัวคุณทนไม่ไหว...จุดจุดจุดฉัน" "เฮ้อ~เรื่องมากฉิบ ได้โทรศัพท์คืนแล้วนี่ เอาชื่อนามสกุลฉันไปเช็คซะนะว่าฉันเป็นลูกใคร และนามสกุลดังแค่ไหน ตัดสินใจได้ก็รีบตามมา ระหว่างที่ฉันเดินไปที่ลิฟต์ ฉันให้เวลาเธอคิดสองนาที " พูดจบคุณนักบินก็เดินไปทันที ก่อนที่ฉันจะรีบหานามบัตรเขาในกระเป๋าเสื้อ และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสิร์ชชื่อดู ค่ะ แจ่มแจ้งเขาไม่ใช่แค่นักบินธรรมดา...เขาคือทายาทบริษัทซอร์ฟแวร์ยักษ์ใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ดะ...เดี๋ยวนะ?! ทำไมมีรูปพี่ชายฉันจับมือกับผู้บริหารบริษัทเขาล่ะ มีโปรเจกต์ร่วมกันเร็วๆนี้อีกงั้นเหรอ?! โอ๊ยฉันอยากอ่านข่าวมากกว่านี้ แต่เวลามีน้อยชะมัด ฉันเลื่อนอ่านข่าวอย่างรวดเร็วสลับกับเงยขึ้นมองชายร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ และเมื่อปลายนิ้วชี้เขาจิ้มไปที่ลูกศรชี้ขึ้นเท่านั้นแหละ ฉันก็ดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันที ก่อนที่รีบจะลากกระเป๋ากุลีกุจอไปหาเขา "เดี๋ยวคุณ! ฉันนอนด้วย" "เหอะ นอนแบบไหนล่ะ?" "นอนแบบขออาศัยชั่วคราว ไม่แก้ผ้า ไม่แตะเนื้อต้องตัว ไม่..." "โอเค มาสิ" ฉันรู้สึกได้...ว่าฉันหน้าร้อนผ่าว เมื่อเผลอนึกว่าตัวเองได้หลับนอนกับชายแปลกหน้าชั่วครั้งชั่วคราวแบบนั้น แต่ไม่มีวันซะหรอก เพราะฉันตั้งใจจะนอนที่โซฟา ไม่มีวันร่วมเตียงกับเขาเด็ดขาด พอฟ้าสว่างฉันจะย้ายโรงแรมทันที ไม่ก็หาไฟลท์บินกลับ แล้วเมื่อมาถึงห้องพักคุณนักบิน ฉันก็รีบปรี่เข้าห้องและชิงไปนั่งที่โซฟาเขาทันที จนเขาที่กำลังถอดรองเท้าขมวดคิ้วงุนงง "ทำไมไปนั่งตรงนั้น เข้าไปนอนในห้องสิ" "ก็ฉัน ฉันจะนอนตรงนี้" "ไปนอนในห้อง-_-^" "นอนตรงนี้!" ฉันยืนยันหนักแน่น แถมตอนนี้ยังล้มตัวนอนจับจองที่ด้วย จนคุณนักบินเขาถอดเสื้อยืดและถอดกางเกง โยนทิ้งพรึบ! พรึบ! เหลือไว้แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว แล้วเดินมาหาฉัน "ถะ ถอดทำไม?!" ฉันถามตกใจ "ฉันชอบนอนแบบนี้มันสบายดี เธอเข้าไปในห้องสิ" "ไม่ ไหนคุณสัญญากับฉันแล้วไงว่าจะไม่ทำอะไรฉัน" "ใช่ฉันสัญญา แต่ที่ฉันให้เธอเข้าไปในห้องนอน เพราะฉันจะนอนที่โซฟานั่น!" อะ...อ้าวเหรอ? ฉันลุกขึ้นและลูบท้ายทอยอายๆ ก่อนที่จะเก็บหน้า เอ๊ย! ดึงกระเป๋าเดินทางลากเข้าไปในห้องนอนแทน ซึ่งระหว่างที่เดินผ่านคุณนักบิน เขาก็แอบหัวเราะเยาะฉัน แถมยังแซวตามหลัง ว่าฉันน่ะหลงตัวเองหนักมาก เหอะ! ไม่ได้หลงตัวเองสักหน่อย เขาก็รู้ว่่ฉันพึ่งผ่านอะไรมา ฉันก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาป้ะ หลังจากที่เจ้าของห้องเสียสละไปนอนที่โซฟา ฉันผู้อาศัยก็ได้ล้มตัวนอนจริงจังตอนตีห้า ใช่ค่ะฉันนอนไม่หลับเลย เพราะคิดมากเรื่องทิวไผ่ หนำซ้ำกลิ่นกายของคุณนักบินก็ก่อกวนจมูกฉัน มันหอมติดหมอนติดผ้าห่ม ราวกับเขากำลังนอนอยู่ข้างๆฉันเลย ฉันเองก็มีพี่ชายนะ แถมมีสองคนด้วย แต่ก็ไม่เคยได้กลิ่นอะไรที่มัน... เอ่อ...หอมติดจมูกแบบนี้ เช้า 09:30 น. "กรี๊ดดดดดดดดดดดด!" "เฮ้ย! อะไรวะ!?" อะไรเล่า! นี่เขาไม่รู้ตัวเลยรึไง?! ว่าเป้ากางเกงเขามันตะลุงตุงแช่แค่ไหน! ตอนที่ออกมาจากห้องนอนฉันเกือบช็อคตาย ไม่เคยเห็นของผู้ชายคนไหนมันพุ่งขึ้นแบบนี้มาก่อน เขาคิดอะไรอยู่ถึงใส่แค่บ็อกเซอร์นอน ผ้ามันเบาและบางมากเลยนะคุณนักบิน "ทำไมไม่ห่มผ้า หรือไม่ใส่อะไรนอนดีๆ>[][]<" "เธอก็อย่ามองสิ" "ก็ไม่ได้มอง แต่...แต่มันเห็น" ฉันหลับหูหลับตาพูด พยายามแล้วนะ...พยายามสุดๆ แต่ทำไมเปลือกตามันไม่รักดี หรี่มองลงไปข้างล่างอยู่เรื่อยเลย "อืม...มันใหญ่เกินไปก็แบบนี้แหละ ใครเห็นก็สะดุดตา" เขาพูดอะไรออกมานั่น!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม