07 อยากได้

1261 คำ
24:00 น. ฉันเดินออกมาจากคลับด้วยสภาพที่โซซัดโซเซเพราะความเมา แต่ก็ยังพอครองสติพาตัวเองกลับมาที่คอนโดได้ “อืม…โลกหมุนจังเลยนะเนี่ย บ้าจริง” ฉันพยายามเดินให้ปกติมากที่สุด ตลอดทางมันไม่ได้น่ากลัวอะไรเพราะมันมีร้านค้าร้านสะดวกซื้อเปิดอยู่กันเต็มไปหมดในช่วงกลางคืน เรียกว่าไม่ได้เปลี่ยวอะไรเลย “อ่าวแม่หนู ไปไหนมาล่ะนั่นทำไมถึงได้เดินเซขนาดนั้น” ขณะที่ฉันกำลังเดินกลับคอนโด แม่ค้าที่เปิดร้านขายของอยู่ข้างทางก็เอ่ยทักฉันขึ้นมา ทำให้ฉันต้องหยุดชะงักแล้วหันไปพูดกับแกด้วยน้ำเสียงที่ยานหยดย้อย “อ๋อ พอดีว่าหนูออกไปเที่ยวมาค่ะ กำลังจะกลับแล้ว” “ผู้หญิงตัวคนเดียวทำไมถึงได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ล่ะแม่หนู ไม่กลัวบ้างหรือไงสมัยนี้โจรชุกชุมจะตาย” “แหะๆ กลัวค่ะป้า ว่าแต่ป้าเถอะค่ะทำไมถึงยังเปิดร้านขายของอยู่คะ ทำไมถึงยังไม่ปิดซักทีไม่เห็นมีคนมาเดินแล้ว” “ป้ากำลังจะปิดนี่แหละแม่หนู วันนี้ขายของไม่ค่อยดีเลยก็เลยอยู่ดึก ปกติก็ปิดร้านตั้งแต่สองทุ่มแล้ว” ถึงว่าไม่เคยเห็นหน้าป้าคนนี้มาก่อนเลย ทำงานกันคนละเวลานี่เอง ป้าแกเลิกงานฉันก็หลับไปแล้ว “อ๋อ ว่าแต่คุณป้าขายอะไรคะ” “นี่ไงลูก มีหลายอย่างเลยผลไม้สดผลไม้อบแห้ง” “….” ฉันก้มลงมองดูของที่คุณป้าแกขาย มีหลายอย่างจริงๆ ด้วย “งั้นหนูเหมาหมดนี่เลยค่ะคุณป้า” “แม่หนู! ถ้าจะมาช่วยป้าเพราะสงสารป้าไม่ต้องนะลูก ป้าไม่อยากทำตัวให้ใครสงสาร” “เปล่านะคะคุณป้า พอดีว่าวันมะรืนนี้ที่บริษัทของหนูจะมีงานประชุมใหญ่ของบริษัทน่ะค่ะ แต่หนูยังหาของว่างให้พนักงานไม่ได้เลย ก็เลยมาเจอของคุณป้าพอดีนี่แหละค่ะ” “แม่หนูจะเอาอย่างนั้นจริงๆ เหรอลูก ป้าคงได้ยินมาว่าตามบริษัทเขาซื้อพวกขนมเค้กไม่ใช่หรอแม่หนู แล้วแบบนี้มันจะไปกินกับพวกกาแฟอะไรได้ยังไง ป้าว่ามันคงไม่เหมาะหรอกมั้ง” “เหมาะสิคะคุณป้า ถ้ากินไม่หมดก็ยังเอากลับไปกินที่บ้านได้แถมไม่เสียง่ายด้วย เอาเป็นว่าหนูเหมาผลไม้อบแห้งของคุณป้าหมดเลยนะคะ ส่วนผลไม้สดป้าก็เอาไว้ขายต่อ” “ได้เลยจ้ะแม่หนู” “เอ่อป้าคะ ยังไม่ต้องรีบเอาใส่ถุงก็ได้ค่ะเดี๋ยวหนูจ่ายเงินเอาไว้ก่อนแล้วพรุ่งนี้ถึงจะมาเอา วันนี้คงขนขึ้นคอนโดเองไม่ไหว” ฉันรีบควักเอาเงินแบงค์พันหลายใบยื่นให้กับคุณป้าไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าค่าของมันทั้งหมดเท่าไหร่ สภาพของตัวเองตอนนี้คงจะหอบของอะไรไปไม่ไหวหรอก แค่ตัวคนเดียวยังเอาไม่รอดเลย “ไม่ถึงพันหรอกจ้ะแม่หนู ให้ป้ามาเกินแล้ว” คุณป้าแกยื่นแบงค์พันที่เหลือคืนมาให้กับฉัน “ไม่เป็นไรค่ะป้า ป้ารับเอาไว้เถอะหนูให้” “แม่หนู….” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวกลับห้องก่อนนะคะป้า ยืนจะไม่ตรงแล้ว” พูดจบฉันก็เดินโซซัดโซเซกลับมาที่คอนโดของตัวเองทันที ฉันรู้สึกทุเรศกับสภาพของตัวเองในตอนนี้มากเลย กระเป๋าสะพายก็ถือลากกลับมาเพราะจับสะพายแล้วมันหล่นลงพื้น “คุณเดียร์คะ ให้ดิฉันพาขึ้นไปส่งไหมคะ” “อือ…ไม่เป็นไรค่ะฉันขึ้นไปเองดีกว่า” ฉันตอบพนักงานไป จากนั้นก็เดินเข้าไปในลิฟท์กดขึ้นไปยังชั้นของตัวเอง เอาเถอะตอนไปกินก็ไปกินคนเดียวนี่นา ขากลับจะให้ใครมาลำบากด้วยไม่ได้ “อือ…ตุบ ตับ ตุบ” ฉันเดินเซซ้ายเซขวาจนตัวกระแทกกับกำแพงเสียงดังตุบ แต่ฉันก็ยังประคองตัวเองเดินมาจนถึงหน้าประตูห้องจนได้ หน้าสองหลังสาม วลีเด็ดของคนเมาทุกคนหลังจากที่ดื่มไปมากเหมือนกับฉัน “อืมมม….ติ๊ด!” ฉันเตะคีย์เข้าที่หน้าห้องของตัวเองก่อนจะผลักประตูเดินเข้าไปด้านใน แต่ทว่า… พรึบ!! มีใครก็ไม่รู้เอาแขนมาขวางประตูของฉันเอาไว้ ก่อนที่เจ้าของแขนนั้นจะดันตัวเองเข้ามาในห้องของฉัน “นายเป็นใคร ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” “….” ฉันพยายามเพ่งตามองคนตรงหน้าดีๆ ก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ “คะ คิงส์!” ใช่! คนตรงหน้าของฉันก็คือคิงส์ผู้ชายที่เคยจับตัวฉันกับพิงค์ไปเมื่อหลายปีก่อน ผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่ดี ฉันจำได้ว่าเขาถูกครามสามีของอีพิงค์ส่งเข้าคุกนี่นา นี่เขาออกมาจากคุกแล้วเหรอเนี่ย แกร้ก! ประตูถูกปิดลงพร้อมกับล็อคกลอนเรียบร้อยเลยด้วย “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกยามจริงๆ ด้วย” “คิดว่าฉันกลัวเหรอ…” เขากระตุกยิ้มแล้วก้าวเดินเข้าหาฉันด้วยท่าทีที่คุกคาม ทำให้ฉันต้องก้าวขาถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ “นะ นายจะทำอะไร ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันตวาดใส่คนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน สายตาของเขามันดูน่ากลัวมาก แถมลักษณะท่าทางของคนที่เพิ่งจะออกมาจากคุกก็ดูน่ากลัวไม่น้อยเลย ทรงผมสกินเฮดผิวเข้มคิ้วเข้มมีรอยสัก “เธอเป็นใครถึงได้กล้าออกคำสั่งกับคนอย่างฉัน” “เป็นใครไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญคือนายกำลังบุกรุกในพื้นที่ส่วนตัวของฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจจับนายเข้าคุกอีกรอบ” “โถ่สาวน้อย เธอนี่คิดอะไรตื้นๆ จริงเลยนะ แต่ถ้าอยากแจ้งความก็เอาเลยเพราะฉันก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว คนที่เสียหายเป็นเธอต่างหากล่ะ อย่าลืมสิแม่นักธุรกิจสาว ถ้าเธอมีข่าวฉาวกับผู้ชายเมื่อไหร่บริษัทของเธอดับแน่” “นายนี่มัน…” “ก่อนจะว่าฉันเลว หันมองดูตัวเองก่อนนะ” “นายพูดบ้าอะไรของนาย?” ฉันไปทำอะไรมาตอนไหน เท่าที่ฉันจำได้ฉันไม่เคยไปทำอะไรที่เรียกว่าเลวเลยนะ “ก็พูดตามความจริงไง บ้านเธอไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้เหรอถึงไม่รู้โลกภายนอกเลย” “นายพูดอะไรของนาย จะพูดอะไรก็พูดตรงๆ ไปเลยฉันไม่ชอบคนอ้อมค้อม พูดจบแล้วก็ออกไปจากห้องของฉันด้วย” “ไม่ออกอย่าทำเหมือนไม่เคยสิ ตอนกลางวันฉันเห็นผู้ชายเข้าไปที่บริษัทของเธอ ตกเย็นมาก็พาเด็กฝึกงานที่บริษัทไปงานเลี้ยง ตกดึกก็ออกท่องราตรีนั่งกุ๊กกิ๊กอยู่กับบาร์เทนเดอร์ในคลับ” “ยะ อย่าบอกนะ ว่านายคอยตามดูฉันตลอด” แสดงว่าที่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมีคนติดตาม รู้สึกเหมือนว่ามีคนกำลังมองอยู่ตลอดเวลาก็เป็นความจริงน่ะสิ “ใช่ และที่ฉันตามดู ก็เพราะว่าฉันอยากได้เธอไง” “….”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม