ตอนที่ 2 เพื่อนโสด ผู้ก็งานดี เลยอยากเป็นแม่สื่อ

1226 คำ
"หนาม..." เฌอแตมเงยหน้าขึ้นมองหลังจากอ่านข้อความล่าสุดที่รุ่นพี่สถาปัตย์ส่งมาในห้องแซต "พี่ปาล์มชวนกินข้าวอะ" "อือ พี่มันชวนมึงก็ไปดิ" กิ๊กมึงปะ ถามกูเพื่อ "ตกลงมึงไปกะกูนะ กูจะได้คอนเฟิร์มพี่ปาล์มว่ามึงโอเค" "โอเคไร?" หนามเตยสงสัย ยังไม่ได้พูดว่าโอเคสักคำปะ มีแต่บอกว่า "ไม่ไป" “ไปเหอะ พี่ปาล์มบอกจะชวนพี่ทามไปด้วย” “ไม่อะ ยังไม่อยากคุยกับใคร” โสดแบบนี้ก็สบายดี อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องพูดต้องบอกต้องขอใครให้ยุ่งยาก เธอยังไม่คิดที่จะคบใครตอนนี้ “หนาม...” “ไม่” "หนามเตยคนดี หนามเตยคนสวย หนามเตยคนน่ารัก หนามเตยผู้มีจิตใจเมตตาดุจเทพธิดาองค์น้อยๆไปเป็นเพื่อนกูหน่อยนะ นะหนาม กูไม่กล้าไปคนเดียวอะ เขิน" หนามเตยเบะปากมองบนเมื่อเห็นจริตจะก้านที่พยายามทำตัวน่ารักจนล้นของคนพูด กล้าพูดเนอะ ไปกินข้าวกับเขามาสามครั้ง ครั้งที่สี่มึงก็ชวนเขาขึ้นห้องแล้วปะ แล้วมาบอกว่าเขิน กูคงเชื่อหรอก "เขินก็ไม่ต้องไป" "ได้ไงพี่มันอุตส่าห์ทักมาชวน มึงก็รู้ว่าคนนี้สเปคกู" "สเปคมึงทุกคนแตม" คนก่อนมึงก็พูดงี้ "แต่คนนี้สเปคกูที่สุดไง นอกจากหล่อ เก่ง สปอร์ตแล้วฐานะทางบ้านก็ดีมั่นใจเลยว่ากูไม่ต้องจ่ายค่าข้าวแทนพี่มันแน่ๆ นะหนามไปเป็นเพื่อนกูหน่อย กูยอมเลี้ยงข้าวมึงทั้งอาทิตย์เลยอะ" เฌอแตมอ้อนวอนสุดฤทธิ์ กับคนก่อนเธอก็ไม่ได้เปย์อะไรมากมาย ก็แค่จ่ายค่าข้าวให้มันทุกครั้ง เติมน้ำมันรถให้มันทุกอาทิตย์ ซื้อเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ให้มันทุกเดือน รู้แหละว่าเต็มใจเปย์มันเอง ทว่าพอถูกผู้ชายที่คุยด้วยเปย์บ้างมันก็อดที่จะปลื้มปริ่มไม่ได้ไง ใครบอกว่าผู้หญิงสวยไม่ต้องเปย์ผู้ชาย บอกเลยว่าไม่จริง “กูไม่ไป ไม่ว่าง จะกลับไปซักผ้า ไปชวนอีดี้ดิ” ซักผ้าคือข้ออ้าง ความจริงคือเธอจะรีบกลับไปนอน บอกเลยว่าตอนนี้โคตรง่วง "กูไม่ว่างต้องรีบไปรับน้องที่สนามบิน บอกพวกมึงแล้วนี่" แคนดี้พูดขึ้นหลังจากวางสายจากมารดาที่โทรมาย้ำเตือนให้เธอไปรับน้องสาวที่สนามบินที่เพิ่งกลับมาจากบ้านย่าที่ภูเก็ต บอกเลยว่าตอนนี้ดอนเมืองรถโคตรติด รู้งี้ไม่น่าบอกเลยว่าจะกลับบ้านวันนี้ "กูก็ไม่ว่าง ต้องรีบกลับไปซักผ้า" “พรุ่งนี้วันหยุดมึงค่อยซักพรุ่งนี้ดิ” "ไม่ได้ พรุ่งนี้กูกลับบ้าน บอกป๊าไว้แล้ว" คนมีแพลนกลับบ้านบอกเพื่อน “งั้นกูพามึงกลับไปซักผ้าที่คอนโดก่อน ชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้วปะซักผ้าอะ” “เหอะๆ ไม่ไป” หนามเตยแสยะยิ้ม ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าขึ้นถือเมื่อเห็นฟืนลุกออกจากโต๊ะ "พวกมึงกูกลับก่อนนะ เจอกันวันจันทร์" พูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้องเรียนทันที ทำเอาเพื่อนทั้งสองได้แต่มองตามตาปริบๆ "มันจะรีบวิ่งทำไมยังไงไอ้ฟืนมันก็รออยู่แล้วปะ" แคนดี้สงสัย เฌอแตมทำหน้าเซงทว่าก็พยักหน้าเห็นด้วย "นั่นสิ" ส่วนเรื่องไปกินข้าวกับพี่ปาล์มก็คงต้องไปคนเดียว ระดับนี้ไม่มีหรอกคำว่าเขิน ที่บอกหนามเตยแบบนั้นเพราะอยากให้มันไปด้วยก็เท่านั้นเอง เพื่อนโสด ผู้ก็งานดี ผิดตรงไหนที่เธออยากเป็นแม่สื่อให้เพื่อน บอกเลยว่าไม่ผิด... แล้วทำไมอีเพื่อนของเธอมันไม่สนใจ หนามเตยที่วิ่งออกมาทันฟืนที่หน้าลิฟต์รีบซอยเท้าเข้าไปยืนข้างร่างสูงทันที เสียงหายใจเหนื่อยหอบบอกให้รู้ว่าการวิ่งร้อยเมตรเมื่อกี้ทำให้เธอเสียพลังงานไปมาก นอกจากจะเหนื่อยหอบก็ยังปวดขาขั้นสุด ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะเธอไม่ได้ออกกำลังกายนาน ทั้งที่คอนโดของเธอก็มีฟิตเนสส่วนกลางให้ใช้ จ่ายค่าบริการปีหนึ่งก็หลายหมื่น ช่างเป็นการจ่ายเงินที่สูญเปล่าจริงๆ "กลับด้วย" หนามเตยหันไปพูดกับฟืนด้วยน้ำเสียงหอบหน่อยๆ ลำบากเนอะคนขับรถไม่เป็น ต้องอาศัยนั่งรถเพื่อนไปโน้นมานี่ตลอด แล้วถามว่าเธออยากจะไปเรียนขับรถไหม คำตอบก็คือไม่.. หนามเตยยังไม่อยากเรียนขับรถตอนนี้ และยังไม่มีแพลนที่จะไปเรียนในระยะเวลาใกล้ๆนี้ เอาไว้วันไหนที่เธอไม่สามารถนั่งรถฟืนมาเรียนได้ก็ค่อยว่ากัน ตอนนั้นก็อาจจะอยากเรียนขึ้นมา "เมื่อไหร่จะไปเรียนขับรถ" ฟืนถาม และคำถามนั่นก็ทำให้หนามเตยเลิกคิ้วขึ้นสูงเพราะสงสัย "เรียนทำไม?" หนามเตยถามกลับ เลิกคิ้วมอง ก่อนถึงบางอ้อ "อ่อ...ทำมะอาศัยนั่งรถมาเรียนด้วยแค่นี้ไม่ได้ไง ใจดำไปปะฟืน" หนามเตยบึนปาก มองคนข้างๆ อย่างหงุดหงิด คอนโดก็อยู่ใกล้กันแค่เนี่ย ห่างกันไม่ถึงสองร้อยเมตร ให้เดินไปหากันยังได้ หรือจะให้เธอช่วยออกค่าน้ำมันรถก็ไม่ติดขัดอะไรนะ เธอเต็มใจจ่ายเองทั้งหมดด้วยซ้ำ เคยเสนอแล้วด้วยทว่าเจ้าของรถปฏิเสธ บอกไม่รับ แล้วอยู่ๆ มาบอกให้เธอไปเรียนขับรถนี่นะ บอกเลยว่าไม่เรียน ใครจะทำไม "กลับเองมั้ย?" "ไม่ กูจะกลับกับมึง แล้วจะนั่งรถมึงมาเรียนทุกวันจนกว่าจะจบด้วย" หนามเตยปฏิเสธเสียงแข็ง ใบหน้างอง้ำ ริมฝีปากเม้มคว่ำอยากจะหยุมหัวคนใจดำ ทว่าสิ่งที่ทำคือการขยับเข้าไปยืนชิดร่างสูงให้ใกล้ยิ่งกว่าเดิม กลัวอีกฝ่ายจะกระโจนเข้าลิฟต์แล้วหนีหายกลับก่อน เป็นไปได้อยากจะคว้าลำแขนแกร่งมาจับไว้ให้มั่น แต่ติดที่เจ้าของแขนยังเล่นโทรศัพท์อยู่ ไม่รู้ว่าเล่นเกมหรือว่าคุยกับใครอยู่ "ฟืน" "..." "ช่วงนี้เห็นติดโทรศัพท์ เล่นเกมเหรอ? เกมไรอะ สนุกปะอยากเล่นด้วย ขอดูหน่อยดิ" เรียกไม่ตอบถามเลยแล้วกัน ที่ถามก็ไม่ได้อยากรู้หรอกว่ามันเล่นเกมอะไร อยากรู้ว่ามันทำอะไรมากกว่า ถ้าเล่นเกมจริงก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ใช่ก็อยากรู้อีกนั่นแหละว่ามันคุยกันใคร... "ยุ่ง!" “อะไรอะ ถามแค่นี้ก็ต้องด่าด้วย” หนามเตยบ่นอุบ ทว่าสายตายังพยายามมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ของฟืนที่เจ้าตัวยังระรัวนิ้วไม่หยุด เมื่อเห็นเป็นเกมยอดนิยมที่ตัวเองเพิ่งหัดเล่นได้ไม่นานก็ยิ้มกว้าง จิตใจร่าเริงขึ้นมาทันที เกมนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่เล่น ทว่าที่หนามเตยได้โหลดมาไว้ที่เครื่องตัวเองเพราะเคยยืมโทรศัพท์ฟืนเล่นแล้วรู้สึกว่ามันสนุกดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม