แม่ทัพเหวินซูแต่งกายด้วยชุดลำลองอย่างชาวบ้าน เสื้อผ้าเนื้อหยาบสีดำสนิท สวมปลอกแขนทำจากผ้าเนื้อนุ่ม สวมรองเท้าเช่นชนชั้นแรงงาน พ่อบ้านจวนแม่ทัพได้แต่กลอกตาไปมาเมื่อเห็นผู้เป็นนายแต่งกายเช่นนั้น
แม่ทัพเหวินซูออกมาจิบชา รับประทานอาหารเช้าอยู่หน้าเรือนใหญ่ เรือนย่อยว่างเปล่าอีกห้าเรือนล้วนถูกทำความสะอาดอย่างดี บ่าวไพร่สาวใช้ไม่มากไม่น้อยราวยี่สิบคนช่วยดูแลจวนใหญ่ขนาดหกเรือนนอนได้อย่างสะอาดเอี่ยม
พ่อบ้านฮงซื่อถงลอบมองแม่ทัพตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ท่านแม่ทัพจะไปที่ใดรึขอรับ เหตุใดจึงแต่งกายเช่นนี้"
"ข้าจะไปโรงเลื่อย"
"ท่านจะไปทำอะไร" พ่อบ้านถามไปอย่างนั้น พ่อบ้านฮงรู้อยู่แล้วว่าแม่ทัพจะไปทำอะไร เขาเองเป็นคนขับรถม้าพาแม่ทัพเหวินซูไปแอบดูสามีภรรยาหยอกเย้ากันถึงที่ดินรกร้างของลี่ชิง
"ข้าจะไปเอาไม้ที่เฉินเซียวหลางสั่งเลื่อยไว้ ไปช่วยลี่ชิงสร้างเรือนพัก"
"เอ่อ...ได้ข่าวว่านางสูญเสียความทรงจำ แล้วท่านจะไปในฐานะอะไรขอรับ นางคงจำท่านไม่ได้" พ่อบ้านฮงขยับไปอีกสองก้าวเมื่อกล่าวประโยคนี้ เกรงว่าผู้เป็นนายจะฟาดหลังมือใส่บนกบาล
"ก็ไปในฐานะหัวหน้าคนงานอย่างไรเล่า"
พ่อบ้านถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง พ่อบ้านวัยหกสิบปีส่ายหัวเล็กน้อยกับการกระทำอันซับซ้อนของแม่ทัพ เหตุใดต้องปลอมตัวเป็นหัวหน้าคนงาน ไม่เดินเข้าไปบอกลี่ชิงตามตรง เรื่องราวระหว่างแม่ทัพเหวินซูกับลี่ชิง พ่อบ้านฮงรู้ดียิ่งกว่าใคร เขาให้ความช่วยเหลือแม่ทัพเรื่องดูแลนางเมื่อครั้งบาดเจ็บจากหอนางโลม
ฮงซื่อถงหยิบตั๋วเงินออกมาจากกล่องไม้แกะสลักราวสิบใบ
"นี่เป็นตั๋วเงินที่ท่านแม่ทัพมอบหมายให้ข้านำไปให้นางใช้จ่ายทุกเดือน ระหว่างท่านไปรบหัวเมืองซางเจี่ยน"
"เหตุใดนางจึงไม่รับไว้"
"หลังจากท่านไปรบได้สองเดือน ไม่ทราบนางตัดสินใจอย่างไรจึงย้ายไปอยู่ในจวนสกุลเฉิน"
"เจ้าไม่ได้ไปพบนางตามที่ข้าสั่งหรอกรึ"
"ข้าไปขอพบนาง แต่เฉินเซียวหลางไม่ให้ข้าเข้าพบ บอกว่านางกำลังตั้งครรภ์ สุขภาพครรภ์อ่อนแอ ไม่สะดวกออกมาพบ"
เหวินซูกระตุกยิ้มมุมปาก นึกไปถึงบุรุษนามว่าเฉินเซียวหลาง เขารู้จักเฉินเซียวหลางดียิ่งกว่าใคร
"ยามนี้เฉินเซียวหลางไม่อยู่ที่ตระกูลเฉิน อีกหลายวันกว่าจะกลับ" เหวินซูให้หน่วยเหยี่ยวเงินสืบข่าวความเคลื่อนไหวของสกุลเฉิน รู้มาว่าเฉินเซียวหลางออกไปตรวจสาขาร้านค้าทางภาคกลาง ใช้เวลาเดินทางไปกลับราวหกวัน
"ขอรับ วันนี้แม่นางลี่ชิงจะออกไปดูการปลูกเรือนพักตามแบบที่นางร่างไว้"
"ดี ดียิ่ง ข้าจะออกไปช่วยนางคุมงานทำเรือนพัก"
"เหตุใดท่านจึงไม่พูดกับนางตามตรง"
"พ่อบ้านฮงบอกข้าเองใช่หรือไม่ว่านางความจำเสื่อม จะพูดกับนางให้มันได้อันใดขึ้นมาเล่า"
".........." ฮงซื่อถงไร้คำจะกล่าว สิ่งที่แม่ทัพทำอยู่ก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน
'บางครั้งหัวใจก็สั่งให้ผู้คนทำการอันโง่เขลา และไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าทำสิ่งนั้นไปเพื่ออะไร'
เหวินซูกำตั๋วเงินจำนวนหนึ่งใส่ในอกเสื้อ เงินจำนวนมากพอจะซื้อไม้สร้างเรือนให้คนทั้งหมู่บ้าน เขากระโดดขึ้นม้าควบออกไปทางโรงเลื่อย
เมื่อถึงโรงเลื่อย แม่ทัพใหญ่สั่งการให้เกวียนเทียมม้าเข้ามาจอดรออยู่ห้าคัน เหล่าทหารที่แต่งกายเช่นแรงงานก่อสร้างต่างช่วยกันขนไม้ที่เลื่อยเสร็จเรียบร้อยขึ้นรถ
เหวินซูมองแผ่นไม้ที่ลี่ชิงสั่งให้เลื่อยแบบพิเศษพร้อมขัดเงาไม้หลี่ทุกแผ่น รูปแบบแผ่นไม้ช่างประหลาดตายิ่งนัก
"ตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึง คงเพียงพอสำหรับไม้เหล่านี้" เขายื่นตัวเงินให้เจ้าของโรงเลื่อย
"ไม้หลี่เหล่านี้เป็นของคุณชายเฉิน"
"ข้าเป็นสหายกับคุณชายเฉิน ไม้เหล่านี้จะนำไปสร้างเรือนพักบนที่ดินของลี่ชิง ถูกต้องหรือไม่"
"อย่างนั้นเองรึ เชิญคุณชายขนไม้เหล่านี้ไปได้เลย หากคุณชายเฉินกลับมาให้บอกว่าอย่างไร หากมีผู้จ่ายเงินซื้อแผ่นไม้ไปล่วงหน้าก่อนเช่นนี้"
"ไม่ต้องบอกอะไร บอกเพียงสหายของคุณชายเฉินซื้อไปก็พอแล้ว"
"ขอรับ"
เจ้าของโรงเลื่อยรับตั๋วเงินจำนวนมากมาถือไว้ในมือ ตามองเกวียนเทียมม้าลากแผ่นไม้หลี่เหล่านั้นไปทางที่ดินของฮูหยินน้อยตระกูลเฉิน เงินจำนวนมากขนาดนี้สามารถซื้อไม้หลี่จำนวนเท่ากันได้อีกสามเท่า กำไรเห็น ๆ หากเฉินเซียวหลางโวยวาย เจ้าของโรงเลื่อยคิดแผนการไว้แล้วว่าจะนำไม้หลี่ในโรงเลื่อยทดแทนให้เพียงเท่านี้ก็ได้กำไรอีกมากโข
แม่ทัพเหวินซูในอาภรณ์เช่นชาวบ้านควบม้านำหน้าขบวนเกวียนขนแผ่นไม้ไปทางแผ่นดินของลี่ชิง ยิ่งใกล้ถึงที่ดินของนาง หัวใจของเขายิ่งเต้นกระหน่ำจนผิดจังหวะ เกือบหนึ่งปีที่เขาไม่ได้กอดนางในอ้อมแขน กลับมาครานี้ยิ่งดูเหมือนอ้อมกอดของนางยิ่งลอยห่างไปสุดสายตา
ลี่ชิงพร้อมสาวใช้เสี่ยวหยุนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เหลือไว้เพียงต้นเดียวเพื่อทำเป็นร่มเงา นางยืนมองขบวนรถลากแล่นเข้ามาในบริเวณที่ดินของนางจนฝุ่นตลบ สายตาของลี่ชิงจับจ้องอยู่ที่ชายร่างสูงแกร่ง แต่งกายด้วยอาภรณ์เนื้อหยาบสีดำ เขารวบผมขึ้นผูกผมด้วยผ้าสีเดียวกัน ใบหน้าหล่อเหลาเนียนละเอียด ดวงตาดุดันคมกล้าอย่างดวงตาอินทรีย์ ท่าทีองอาจห้าวหาญมีรัศมีผู้นำ มีกลิ่นไอฆ่าล้างอำมหิตเจืออยู่ในแววตาคมดุคู่นั้น เขาควบม้าเข้ามาหยุดตรงหน้านางห่างไปเพียงสามจั้ง ร่างสูงกระโดดลงจากหลังม้า เดินเข้ามาหาลี่ชิงกับเสี่ยวหยุน
"เจ้าคงเป็นแม่นางลี่ชิง"
"ข้าเอง" ลี่ชิงมองสำรวจบุรุษผู้สง่างามตรงหน้า
'โอยยยย โคตรหล่อเลย ทำไมบุรุษยุคโบราณนี่มีแต่คนหล่อๆ หล่อลากวัวตาย ลากควายล้ม หล่อแบบไม่บันยะบันยัง '
เหวินซูมองสำรวจใบหน้าและเรือนร่างของหญิงสาว มองดวงตากลมโตที่ไร้แววห่วงหาอาทรดังเดิม นางจ้องมองหน้าเขาเหมือนเห็น 'คนอื่น'
ลี่ชิงยิ้มให้เขาครั้งหนึ่ง 'ยิ้มให้คนหล่อถือว่าไม่ผิด'
เหวินซูเก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย แม้คิดถึงรอยยิ้มนั้นแทบบ้า
"ข้าเป็นหัวหน้าคนงาน ข้าขนไม้หลี่ที่เลื่อยเสร็จมาช่วยเจ้าสร้างเรือนพัก"
"สามีของข้าสั่งไว้ใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นก็ดียิ่ง ข้าได้รับจดหมายตั้งแต่เมื่อวานยามเซินว่าจะมีผู้มาช่วยสร้างเรือนพักเป็นพวกเจ้าเองรึ"
"สายแล้วรีบลงมือเถิด ขอข้าดูแบบแปลนที่เจ้าวาดได้หรือไม่" เขาไม่ตอบรับว่าผู้ใดสั่งการมา เหวินซูปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อได้ยินลี่ชิงเรียกเฉินเซียวหลางว่าสามี
ลี่ชิงเดินเข้ามาใกล้ ยื่นแบบแปลนบ้านไม้ทรงโมเดิร์นในกระดาษให้เหวินซู
"แบบเรือนพักอาจดูประหลาดไปบ้าง แต่ง่ายต่อการก่อสร้าง สามารถสร้างเสร็จภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์"
"เจ้ามีความรู้ด้านการก่อสร้างด้วยรึ"
"อ่อ พอมี แต่ข้ามีความรู้ด้านการเพาะปลูกมากกว่า"
ป้าสมหญิงคุมการก่อสร้างบ้านหลังเล็กของตนในภพก่อนตามประสาคนไม่มีผัว หินกี่คิว ปูนกี่คิว ไม้ฝาหนาบาง ตะปูกี่ตัวแทบจดจำได้ขึ้นใจ เพราะงกเค็มคุมช่างเองเสร็จสรรพ ชาตินี้จึงมีความรู้ติดตัวมาบ้าง นางสั่งให้เลื่อยไม้ตามแบบที่ต้องการ
"ท่านเป็นหัวหน้าคนงานที่หล่อมาก" นางเอ่ยชมเขา
"เจ้าก็งดงามมาก" แม่ทัพเหวินซูหน้าแดงก่ำ
"ที่ข้าชมเจ้าเพราะเจ้าต้องช่วยข้าทำงานหนักทั้งวัน ทำงานให้ข้าดี ๆ ด้วยเล่า" ลี่ชิงเดินไปกลางแดด มองคนงานเริ่มขุดหลุมฝังเสาเรือน
"แล้วลูกๆ สบายดีหรือ" เหวินซูเอ่ยถาม
"หมายถึงลูก ๆ ของข้าน่ะรึ" ลี่ชิงเอ่ยตอบด้วยสายตาเป็นประกาย ยังไม่ได้ฉุกคิดว่าเหตุใดหัวหน้าคนงานจึงรู้เรื่องของนางมากขนาดนี้
"ใช่ ข้าหมายถึงลูกทั้งสองคน"
"เจ้าก้อนแป้งยักษ์น่ารักมาก ลูกข้าน่ารักที่สุด ข้ารอวันที่ลูกเรียกพ่อกับแม่ได้" นางคุยไปเรื่อยเปื่อย
"......" เหวินซูทำหน้าครุ่นคิดบางสิ่ง
"หลุมให้ขุดกว้างและลึกกว่านี้หน่อย ข้าจะให้ก่ออิฐเผาด้วย ทั้งเสาทั้งคานต้องรับน้ำหนักได้ดี" ลี่ชิงเอ่ยสั่งการ
"เจ้าไปพักเถิด อธิบายแบบแปลนที่เจ้าต้องการให้ข้าฟัง ข้าจะคุมงานต่อให้เอง"
ลี่ชิงอธิบายสิ่งที่อยู่ในกระดาษให้แม่ทัพเหวินซูฟัง แม่ทัพผู้กลายเป็นหัวหน้าคนงานชั่วคราวฟังรอบเดียวก็สามารถจดจำได้ เขามองแบบเรือนพักที่นางวาด มองกองอิฐกับรูปแบบไม้หลี่ ลี่ชิงเดินเข้าไปนับก้อนอิฐ เดินตรวจตราดูจำนวนแผ่นไม้
เขารู้สึกได้ว่านางไม่เหมือนเดิม
ร่างสูงสง่าคุมงานก่อสร้างกลางแดดแทนนาง เรือนพัก (ใจ) อย่างน้อยเมื่อนางมาพักที่เรือนนี้คราใดอาจนึกถึงคนช่วยสร้างมันขึ้นมา
ลี่ชิงหันมายิ้มหวานพร้อมส่งแก้วน้ำเปล่าให้แก้วหนึ่ง คุณป้าลี่ชิงสมหญิงยกนิ้วโป้งธัมบ์อัพ สื่อความหมายว่าเยี่ยมมาก ทำให้เหวินซูถึงกับงงเล็กน้อย
"มันหมายความว่าดีมาก" ลี่ชิงอธิบาย
"....."
คนตัวสูงไม่ตอบสิ่งใดเพียงแต่ลอบมองหน้าหวานนวล บนกรอบหน้าของนางมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามกรอบหน้า
เหวินซูทำหน้าเฉยชาเช่นเดิม ทั้งที่ใจอยากเอื้อมมือไปใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้านาง
เขาได้แต่มองลี่ชิง..เพียงได้แค่มองเท่านั้น...