หลายวันผ่านไป
ปัณณวิชญ์กลับมาเยี่ยมผู้เป็นแม่ หลังจากที่เขาไปนอนค้างที่คอนโดติดต่อกันมาหลายคืนจนไม่ได้กลับบ้าน
"นึกว่าจะไม่กลับบ้านกลับช่องอีกแล้ว แกเลี้ยงอีหนูไว้อีกหรือเปล่าตาปัณณ์?" เสียงของผู้เป็นแม่ถามขึ้น เมื่อเห็นหน้าลูกชายเพียงคนเดียวของนาง
"โอ้ยแม่ครับ ผมไม่เลี้ยงใครอีกแล้ว เข็ดแล้ว ไม่เอาแล้ว ไปนอนคอนโดเพราะผมขี้เกียจขับรถกลับบ้านหรอก คอนโดมันใกล้ที่ทำงานเท่านั้นเอง"
"ให้มันจริงเถอะย่ะ เข็ดแล้วก็จำให้ขึ้นใจนะ แล้วนี่ทำไมหน้าตาดูตึงเครียดขึ้นมาอีกแล้วล่ะ ทะเลาะกับหนูขวัญมาหรือไง?" คุณหญิงพราวฟ้าสำรวจตรวจจับผิดชีวิตลูกชายเป็นเรื่องปกติแบบนี้อยู่แล้ว นางยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้จนปัณณวิชญ์ต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน
"ไม่ได้ทะเลาะครับ ผมกับขวัญไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องทะเลาะกันหรอก"
"แล้วทำไมดูเหมือนชีวิตกำลังมีปัญหาแบบนี้ด้วยล่ะ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า ปรึกษาแม่ได้นะ แกก็รู้นี่นาว่าแม่หวังดีและรักแกมากกว่าใครบนโลกใบนี้"
ปัณณวิชญ์หันไปมองจ้องหน้าสบตากับผู้เป็นแม่อีกครั้ง เหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไม่บอกกล่าวอะไรเลย
"ผมรู้ว่าแม่รักผมที่สุดครับ ผมก็รักแม่ที่สุดเหมือนกัน"
ปัณณวิชญ์โผเข้ากอดมารดาอีกครั้ง ตั้งแต่เลิกลากับรัญชิดา ชีวิตเขากลับมาอยู่บ้านมากกว่าออกไปอยู่ข้างนอกเหมือนแต่ก่อน คนเป็นแม่ก็สุดแสนจะมีความสุข ลูกชายพูดง่ายและเชื่อฟังนางดีแทบจะทุกอย่าง
เพราะชีวิตที่มีกันเหลือเพียงแค่สองคน ทำให้นางหวงและห่วงลูกชายมากกว่าอะไร พยามเลือกหาว่าที่สะใภ้มาให้ลูกชายได้เลือก จนกระทั่งปัณณวิชญ์มาถูกใจขวัญชนกลูกสาวเจ้าของอสังหายักษ์ใหญ่และคบหากันอย่างเปิดเผยตั้งแต่นั้นมา นางถึงกับดีใจเนื้อเต้นที่ลูกชายชอบพอกับคนที่เพรียบพร้อม ไม่เสียแรงเลยสักนิดที่ทำให้ผู้หญิงคนเก่าออกไปจากชีวิตของลูกชายนางได้
"ทำไมไม่ชวนหนูขวัญมากินข้าวเย็นที่บ้านด้วยนะวันนี้"
"ขวัญเขาต้องเดินทางไปแอลเอหนึ่งอาทิตย์น่ะครับแม่ เห็นว่าจะเดินทางพรุ่งนี้นะ"
"อ้าว แล้วทำไมไม่ถือโอกาสนี้ไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันเลยล่ะลูก หนูขวัญเขาจะได้มีเพื่อน เผื่อแกอยากมีโลเคชั่นสวย ๆ โรแมนติก ๆ ขอหนูขวัญแต่งงานด้วยไง"
นางยังคงคะยั้นคะยออยากให้ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาให้เร็วที่สุด แต่เป็นปัณณวิชญ์ที่ยังคงไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้ เขายังคงปฏิเสธมาโดยตลอด ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทั้งที่ก็คบหาและดูชอบพอขวัญชนกมากขนาดนั้น
"แม่อยากให้แกแต่งงานสร้างครอบครัวนะปัณณ์ แม่ก็นับวันยิ่งแก่ขึ้นเรื่อย ๆ อยากอุ้มหลาน อยากให้แกได้มีคนดี ๆ อยู่เคียงข้าง ที่แกไม่ยอมแต่งเพราะแกยังรอใครอยู่หรือเปล่าฮะ?" นางถึงกับมองจ้องหน้าลูกชายตาไม่กระพริบ
ปัณณวิชญ์ส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง
"จะให้ผมรอใครล่ะแม่ ไม่มีหรอกครับ"
"งั้นเหรอ ฉันนึกว่าแกยังคิดถึง ยังอาลัยอาวรณ์นังเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้นอยู่ ยิ่งแกกลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว ฉันนึกว่าแกยังนึกถึงมันน่ะสิ"
เฮ้อ...
เสียงปัณณวิชญ์หายใจออกมาแรง ๆ เขาไม่อยากพูดถึง ไม่อยากได้ยินแต่ผู้เป็นแม่ก็คอยแต่ย้ำเตือนให้เขาจดและจำกับสิ่งที่ผ่านมา
"ผมกับรัญจบกันไปนานแล้วนะแม่ ผมไม่อยากพูดถึงอีก" ปัณณวิชญ์ถึงกับส่ายหัวไปมาเบา ๆ
"ก็แหงล่ะ ลองแกอยากกลับไปหามันสิ ฉันคนหนึ่งนี่ล่ะจะไม่ยอม ผู้หญิงอะไรทำตัวสำส่อนน่ารังเกียจ เลี้ยงไม่เชื่อง เนื้อร้ายแบบนั้นตัดทิ้งไปได้ก็ดี ขืนแกเลือกมันมาอยู่ร่วมวงศ์ตระกูลด้วย ชื่อเสียงที่สั่งสมมาคงป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแน่ ๆ ฉันบอกฉันเตือนมาตั้งนานแล้ว แต่แกน่ะจะเป็นจะตาย รักมันหลงมันจนโงหัวไม่ขึ้น 2 ปีที่แกบ้ากับความรักจอมปลอมที่มันแสดงออกให้เห็น รู้สึกเสียเวลาชีวิตทิ้งบ้างหรือเปล่า ที่ฉันบอกสอนแกเพราะฉันมองผู้หญิงแบบนั้นออก แกก็หาว่าฉันใส่ร้าย ไม่ชอบเพราะมันจน อคติมากเกินไปบ้างล่ะ แล้วเป็นไงล่ะ หึ!!"
"แม่! แล้วจะมาพูดเรื่องเดิม ๆ อีกทำไมล่ะ ผมก็ตาสว่างแล้วไงครับ ถึงจะโง่งมมาตั้ง2ปีก็เถอะ แต่ก็นั่นแหละถือว่าเป็นบทเรียนชีวิตผมเอง ต่อไปนี้คงไม่มีใครมาหลอกอะไรผมได้อีก"
"งั้นก็แต่งงานกับหนูขวัญซะ ผู้ใหญ่ฝั่งนั้นเขาก็ทวงถามแม่มา แกควงลูกสาวเขาออกหน้าออกตามาสองปีกว่าแล้วนะ นอนกับเขาแกก็นอนแล้ว ทำไมไม่ทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไปล่ะลูก"
"จริง ๆ ผมก็วางแพลนแล้วนะครับว่าผมจะแต่งงานกับขวัญเร็ว ๆ นี้"
ทำเอาคุณหญิงแม่ยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ จ้องมองหน้าลูกชายเพียงคนเดียวด้วยแววตาที่เป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง
"แกพูดจริงเหรอปัณณ์"
"ครับ มันคงถึงเวลาแล้วอย่างที่แม่บอก ขวัญเขาดีกับผมมากเหลือเกิน ผมควรจะทำให้เขาเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลกจริง ๆ สักที ผมควรให้เกียรติเขา จริงไหมครับแม่?"
ปัณณวิชญ์มองจ้องหน้ามารดาก่อนจะยิ้มตอบเพียงเล็กน้อย เขาคิดมาดีแล้วว่าเขาควรจะแต่งงานกับขวัญชนกสักที มันได้เวลาที่เหมาะสมและผู้หญิงอย่างรัญชิดาจะได้เห็นว่าเขามีความสุขกับชีวิตมากแค่ไหน
คุณหญิงพราวฟ้ายิ้มปลื้มยิ่งกว่าลูกชายร้อยเท่าพันเท่า สิ่งที่นางลงทุนลงแรงทำไปเมื่อสามปีก่อนไม่เสียดายเปล่าเลยในตอนนี้ แม้วันนั้นจะต้องจ่ายเงินจ้างให้รัญชิดาออกจากชีวิตลูกชายไปถึงเจ็ดหลัก นางเคยคิดว่ามากเกินไปสำหรับผู้หญิงแบบรัญชิดาด้วยซ้ำ แต่ในวันนี้นางกลับรู้สึกว่าไม่มีค่าเทียบเท่ากับตอนนี้ที่ลูกชายลืมอดีตได้ทั้งหมดแล้ว
บางครั้งยังมีแอบคิดหากว่าปัณณวิชญ์รับรู้กับสิ่งที่นางทำเอาไว้เข้า ลูกชายจะโกรธเกลียดนางหรือเปล่า เพราะวันนั้นไม่ใช่แค่ใช้เงินฟาดหัวรัญชิดาให้ออกจากชีวิตปัณณวิชญ์ไป แต่เหตุการณ์มันร้ายแรงยิ่งกว่า เพราะนางทำให้รัญชิดาแท้งลูกในครรภ์ไปด้วยความไม่รู้ตัว
ใครบอกให้ผู้หญิงคนนั้นต่อต้านและท้าทายนางก่อน ยื่นข้อเสนอให้ดี ๆ กลับไม่อยากรับ จนทำให้ต้องลงไม้ลงมืออย่างรุนแรงด้วยเกินกว่าเหตุ ถ้าไม่แท้งลูกจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดรัญชิดาคงไม่ยอมรับเงินและเดินจากไปง่าย ๆ แบบนั้นแน่
แต่เรื่องนี้จะเป็นความลับตลอดไป เพราะถ้าไม่มีใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกก็จะไม่มีใครได้รู้เลย และนางก็เชื่อว่ารัญชิดาจะไม่กลับมาให้ลูกชายได้เห็นหน้าอีก เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ข้อเสนอที่นางยื่นให้ไปสามข้อ ครั้งต่อไปมันจะไม่ใช่ข้อแรกที่หญิงสาวเลือกแน่ ๆ เพราะครั้งแรกข้อแรกที่นางมีให้รัญชิดาได้ถูกใช้สิทธิ์นั้นไปแล้วเรียบร้อย แต่นางไม่ได้กลัวหรือหวั่นใจ เพราะสามปีที่ผ่านมาแล้วไม่เคยได้เห็นหน้าอีกฝ่ายเลย เพราะเจอกันครั้งสุดท้ายนางจัดหนักและจัดเต็มให้จนไม่มีวันลืมได้ลงเสียขนาดนั้นเพราะรัญชิดาคงเกรงกลัวกับชีวิตที่จะไม่ได้มีลมหายใจได้อยู่ดูโลกนี้ต่อ....
"แม่ แม่ครับ แม่" เสียงเรียกของลูกชายที่กำลังเขย่าแขนนางด้วย ทำเอาสติที่กำลังล่องลอยกลับคืนมาอยู่กับตัวอีกครั้ง
"แม่เป็นอะไร คิดอะไรอยู่เหรอครับ เห็นนิ่งไปนานเชียว"
"เปล่านิ แม่ก็แค่คิดว่าจะให้สินสอดฝั่งนั้นเท่าไหร่ดี จัดงานกี่วัน ต้องเชิญแขกกี่คน ลูกชายคนเดียวจะแต่งงานทั้งทีนะ แม่ต้องทุ่มสุดตัวเลยล่ะงานนี้"
"แม่ดูจะตื่นเต้นมากเลยนะครับ ผมยังไม่ขอขวัญแต่งงานเลยนะ คงอีกหลายเดือน"
"ยังไม่ขอก็รีบขอซะนะลูก หนูขวัญเหมาะสมกับลูกชายแม่ทุกประการ ดีไม่มีที่ติ คนนี้แม่ปลื้มและเชียร์สุดใจ"
"ครับ งั้นแม่ก็ตัดชุดรอเลยนะครับ ไม่รอเก้อแน่ ๆ ผมเองก็อยากมีครอบครัวแล้วเหมือนกัน"
"ให้มันได้อย่างนี้สิลูกแม่"
สองแม่ลูกโผเข้ากอดกันอีกครั้ง เพราะมีกันอยู่เพียงแค่สองคนแล้ว ถ้าอะไรที่ทำให้คนเป็นแม่มีความสุขได้ เขาก็ควรจะทำให้เร็ว เพราะไม่รู้ว่าแม่จะอยู่ด้วยไปอีกสักกี่ปี เขาอยากให้แม่เห็นหน้าหลาน ได้อุ้มหลานที่แม่อยากให้มีแล้วเหมือนกัน