บทที่ 5 คนอวดดี 1/2

896 คำ
“นี่เธอกล้าดียังไงมาว่าฉันแอบฟัง” คนที่โดนหญิงสาวที่เคยเป็นดั่งทาสกามของเขาด่าอย่างใสซื่อเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าอย่างที่สุด เสียงที่เปล่งออกมานั้นไม่เบาเลย จนคนที่เป็นเลขาอย่างเจนจิราต้องรีบวิ่งออกมา “มีอะไรเหรอคะบอส” เจนจิรารู้ดีว่าวันนี้เฟื่องลดาเสียน้ำตาให้กับบอสไปเยอะแล้ว จึงพยายามเข้าหาคนเป็นเจ้านายเองจะดีกว่า ไม่อยากให้น้องต้องเสียใจ ทั้งตอนกลางวันก็แทบไม่ได้ทานข้าวเลยก็ว่าได้ “คุณเจน มาก็ดีแล้ว ติดต่อทางมหาวิทยาลัย แล้วขอให้นักศึกษาคนนี้ฝึกงานจบก่อนกำหนด ภายในอาทิตย์หน้า ผมหวังว่าเธอจะไม่ได้อยู่ให้ผมเห็นหน้าอีก” เขาไม่อยากเสียหน้า ตั้งใจให้เธอขอโทษแล้วค่อยให้อภัย แต่ทว่าเสียงที่ได้ยินกลับเป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่อยากได้ยิน “ขออภัยที่เฟื่องทำให้ท่านประธานไม่พอใจ เฟื่องจะยื่นจบฝึกงานวันนี้เลยค่ะ เดี๋ยวจะติดต่อฝ่ายบุคคลให้รีบทำเรื่องค่ะ ท่านประธานไม่ต้องห่วงนะคะ” เมื่อเขาไม่อยากเห็นหน้า แล้วจะอยู่ให้รกหูรกตาทำไม เมื่อเขามีคนใหม่แล้วก็แล้วไป ขอกลับไปเลียแผลใจที่บ้านดีกว่า “ดี...อย่างนั้นก็ดี” เขาไม่ได้อยากให้จบแบบนี้ หากเป็นตัวเองที่ประกาศกร้าวออกไป จะกลืนน้ำลายก็ใช่ที่ คราวนี้ไม่ได้เห็นหน้าเธออีกแล้ว เขาจะทำอย่างไรดี เขาหันหลังเดินกลับเข้าห้อง ทั้งๆ ที่อยากมาดื่มกาแฟ แต่เป็นเวลาพักของพนักงานจึงไม่อยากรบกวน เมื่อได้ยินว่าคนที่คิดถึงมาสองวันจะหนีไปต่างประเทศก็ยิ่งหงุดหงิด คิดว่าจะหาเรื่องเธอ แต่กลับเป็นการเปิดช่องทางให้เธอหนีไปจากเขาเสียอย่างนั้น อวดดีนัก...! ดี เชิญอยากไปไหนก็เชิญ เขาจะไม่ยุ่งอีกแล้ว “หนูเฟื่อง บอสโมโหอะไรอีกแล้วนี่ พี่นี่งงไปหมดแล้ว” เจนจิราที่เห็นอยู่ว่าบอสอารมณ์ไม่ดี แต่เมื่อเห็นว่าคุณปาควงคู่มากับบอสก็คงจะอารมณ์ดีแล้ว แล้วไหนจะมาไล่น้องออกจากฝึกงานก่อนกำหนดอีก “คนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิดค่ะพี่เจน เฟื่องฝึกงานเกินจำนวนชั่วโมงที่มหาวิทยากำหนดแล้ว พอดีคุณแม่ชวนไปเที่ยวสวิต แล้วเฟื่องคุยเรื่องที่ค้างฝึกงาน บอสมาจากไหนก็ไม่รู้ พอหันมาก็ถามเฟื่องจะไปต่างประเทศเหรอ” “แล้วไงต่อ” เจนจิราฟังอย่างใจจดใจจ่อ “เฟื่องก็ถามปกติแต่ลืมคิดไปว่าเหมือนด่าบอสทางอ้อม” “ถามว่าอะไร” “แอบฟังเหรอคะ?” “โถหนูเฟื่องเอ้ย...ระเบิดลงสิ บอสเกลียดการต้องเสียหน้ามากที่สุด เจ้านายถูกเสมอจำไว้” เจนจิรารู้ทันทีเลยทำไมถึงโดนไล่ออกจากฝึกงาน “ดีแล้วค่ะพี่เจน เฟื่องอยากให้เป็นแบบนั้น อยากไปพักผ่อนจะแย่ ทำงานมาหกเดือน เงินเดือนก็ไม่ได้แถมยังต้องทนให้บอสผู้แสนร้ายกาจของพี่ยำน้องซะเละ” เธอแสร้งเป็นดีใจที่จะได้จากไปสักที แต่เปล่าเลยกำลังเสียใจต่างหาก เสียใจที่เขาไม่อยากเห็นหน้า เสียใจที่เขาไล่เธอออกจากชีวิต ทั้งๆ ที่คนที่เธออยากให้อยู่ในชีวิตคือเขา ‘ยิ่งฝืนมันก็ยิ่งแย่’ ฝ่ายบุคคลทำหนังสือจบฝึกงานพร้อมใบประกาศ แต่ทว่าบอสนั้นให้คะแนนน้องที่ฝึกงานต่ำมาก จนฝ่ายบุคคลเองก็อดสงสารไม่ได้ กลัวน้องจะเรียนไม่จบ เมื่อจัดการเรื่องเอกสารเสร็จแล้ว เขาก็ไม่ยอมให้ฝ่ายบุคคลเอาเอกสารออกไป แต่กลับเป็นเขาเองที่จะยื่นให้เธอกับมือของเขาเอง จะได้ต่อรองให้เธออยู่ หรือไม่ก็ขอโทษเขาสักคำก่อนจะไป ปาวลีที่มานั่งดูภัสสกรณ์ทำงานอยู่ในห้อง เห็นเขาเดี๋ยวย่นคิ้วเดี๋ยวคลายคิ้ว จนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นตรงขมับ ทำให้รู้สึกเครียดแทน “ภัสเป็นอะไรคะ ให้ปานวดขมับให้ไหม” หญิงสาวอาสาช่วยนวดให้อีกฝ่าย เขาเป่าปากพ่นลมหายใจออกมา วันนี้รู้สึกอึดอัดจนไม่อยากทำงานเลยสักนิดเดียว เขาคิดไม่ตกเรื่องของเธอ “ก็ดีครับ” ปาวลีเดินออกไปด้านนอก ขอผ้าเย็นให้เลขาหน้าห้องเอามาให้ ส่วนตัวเองก็เข้าไปนวดขยับให้กับชายหนุ่ม เธอกดเบาๆ แล้วก็คลึงวนเป็นวงกลม “ลุกไปนอนตรงโซฟาหน่อยไหมคะ” ปาวลีลากเขามานอนหนุนตักของเธอแล้วก็ค่อยๆ คลึง “ดีขึ้นไหมคะ” “ครับ” ชายหนุ่มตอบรับทั้งที่ยังหลับตา ก๊อกๆ !!! เสียงประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวานของเฟื่องลดา“เอาผ้าเย็นมาให้ค่ะ” เธอเอ่ยขออนุญาตก่อนจะเข้าห้อง แต่นั่นทำให้คนที่ไม่คิดจะลุกจากตักของปาวลีนอนอมยิ้ม แถมยังหยิบมือเธอขึ้นมาจูบขณะที่เฟื่องลดาเอาผ้าเย็นมาส่งให้ปาวลี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม