บทที่ 4 ขอหายไปได้ไหม 1/2

793 คำ
“รับทราบค่ะท่านประธาน” เธอเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด นี่เขาไม่อยากเห็นหน้าเธอขนาดนี้เชียวเหรอ แค่ไม่ได้เป็นคู่นอนของเขา ‘ใจร้าย’ ยายเด็กดื้อมารับทราบอะไรกัน ขัดใจนัก นี่เธอคิดจะจบก็จบง่าย ๆ แบบนี้เหรอ “เสร็จแล้ว รีบออกไปจากห้องซะ ถ้าฉันไม่เรียกไม่ต้องเสนอหน้า” เขาไล่เธอไปอย่างรู้สึกหัวเสีย เธอมันเป็นผู้หญิงที่ใจทมิฬนัก ยิ่งกว่าใจดำเสียอีก แค่เขาอยากจบเธอก็ยอมจบ ไหนบอกว่ารักฉันนักหนาไง นี่เธอไม่คิดจะง้อให้ฉันคบกับเธอเลยหรือไง โธ่...เว้ย...! ข้าวของในห้องร่วงกระจายเต็มพื้นหลังเธอปิดประตูลง เธอสะดุ้งไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้ว เขานี่เอาใจยากจังเลย เธอไม่รู้ว่าจะทนได้ถึงเดือนไหม “หนูเฟื่อง บอสเป็นอะไร” เจนจิราเองก็แอบกังวลเพราะว่าบอสเกิดอารมณ์ไม่ดีแต่เช้า ทั้งพังข้าวของ ทั้งเหวี่ยงใส่น้องฝึกงาน ตั้งแต่น้องมาฝึกงานก็ไม่เคยเจอแบบนี้เลย “เขาโกรธเฟื่องค่ะ นี่ไล่ให้ฝึกงานจบเร็ว ๆ ไม่อยากเห็นหน้า” เฟื่องลดาระบายกับพี่เจน น้ำตาของเธอเริ่มปริ่มแทบจะไหลออกมารอมร่อ แม้ว่าจะเข้มแข็งขนาดไหน โดนคนที่ตัวเองรักไล่เหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้ ก็เหมือนมีมีดกรีดลงกลางใจ “โถ...หนูเฟื่อง ไม่เป็นไรนะ” เจนจิราปลอบน้อง คงขวัญเสียไม่เคยเจอเจ้านายหงุดหงิดใส่ ทั้งที่เธอทำงานดีมีความรับผิดชอบ หากบอสจ้างก็คงจะดีจะได้มาช่วยเธอทำงาน แต่นี่ใกล้จบฝึกงานกลับโมโหน้อง สงสัยความฝันที่จะได้มีคนมาช่วยงานคงต้องหยุดลงเสียแล้ว “เฟื่องจะอดทนค่ะ อีกแค่เดือนเดียวเองพี่เจน” เธอบอกรุ่นพี่ทั้งน้ำตา การที่เขาไม่รักก็เจ็บปวดมากพออยู่แล้ว การถูกรังเกียจจากคนที่รักยิ่งทำให้เธอเสียใจมากขึ้น ขณะที่ทั้งสองคนกำลังปลอบอกปลอบใจกันอยู่นั้น เสียงประตูห้องทำงานของท่านประทานก็เปิดออกมา “ผมจะไปข้างนอก อาจจะกลับบ่ายๆ” เขามายืนมองหน้าเธอจ้องเขม็ง แม้ว่าทั้งสองคนจะยืนรับคำสั่งกันทั้งคู่ แต่เมื่อเห็นใบหน้าสวยเปื้อนด้วยน้ำตา ก็รู้สึกเสียวแปลบเข้ามาที่กลางใจ เหมือนมีอะไรมาบีบ ‘ร้องไห้เหรอ’ จากที่จะใช้คำพูดเสียดแทงจิตใจ กลับผ่อนลงโดยปริยาย “คุณเจนเตรียมเอกสารสัญญาร่วมทุนให้ผมด้วย ส่วนเฟื่องลดา ไปเก็บของในห้องให้เรียบร้อย ฉันกลับมาตอนบ่ายต้องเสร็จ” เมื่อสั่งเสร็จเขาก็รีบเดินออกไป วันนี้อะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด จนไม่อยากอยู่ในห้องทำงาน “ทราบแล้วค่ะ” สองเลขาพูดพร้อมกันขณะที่ยังก้มหน้าด้วยกันทั้งคู่ ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นมา เมื่อร่างของท่านประธานเดินลับออกไป สองสาวเลขาก็แบ่งงานกันทำตามคำสั่งทันที เฟื่องลดาปาดน้ำตาทิ้งไป แล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องของท่านประธาน เพื่อเก็บข้าวของที่คนนั้นเพิ่งปาลงพื้น ร่างของชายหนุ่มมานั่งบนรถแล้วก็เปิดกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าในห้องนั้นเฟื่องลดากำลังเก็บข้าวของหรือเปล่า นี่เขาต้องมาแอบดูลูกน้องของตัวเองทำงานแล้วเหรอ เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัทนะ ได้เห็นเธอเก็บไปปาดน้ำตาไป ก็ให้รู้สึกสงสาร แต่เขาไม่เห็นใจหรอกนะ “แล้วเธอจะเสียใจที่ทิ้งคนอย่างฉันก่อน” ร่างใหญ่ขับรถออกจากบริษัทไปอย่างรวดเร็ว เขาต้องการหาที่ระบายอารมณ์ ก็ประจวบเหมาะกับที่ปาวลีโทรเข้ามาพอดี “ภัสคะ ว่างไหมคะ” ปาวลีเป็นดาราและนางแบบเบอร์ต้นของวงการ แม้ว่าพักหลังจะรับงานน้อยลงเพราะว่ากำลังทำธุรกิจก็ตาม เขาและเธอคบกันในฐานะที่ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน เมื่อวางสายภัสสกรณ์ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันที แน่นอนว่าเขาไปพบเธอ และก็คิดอะไรบางอย่างออก รอยยิ้มที่รู้สึกสนุกก็เปื้อนบนใบหน้าหล่ออีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ยิ้มมาสองวันหลังจากแม่นั่นบอกรักเขา หากเป็นคนอื่นคงจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่มีผู้หญิงมาบอกรัก แต่ว่าเธอและเขาใช้สถานะนี้ไม่ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม