“ขอลองพิสูจน์”

1549 คำ
ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร กำลังกินขนมปังจิ้มกับนมอุ่น ๆ อยู่ในมือ เสียงเครื่องยนต์และเสียงค้อนดังเบา ๆ มาจากข้างล่าง พ่อกำลังงมอยู่กับรถของลูกค้าที่จอดอยู่ในลานบ้าน บ้านของฉันเป็นบ้านสามชั้น ไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่ ชั้นแรกถูกพ่อจัดให้เป็นร้านซ่อมรถขนาดเล็ก พร้อมกับออฟฟิศเล็ก ๆ สำหรับทำงานเอกสารและคุยกับลูกค้า ชั้นสองเป็นพื้นที่สำหรับรับแขก ห้องครัว และห้องทำงาน ส่วนชั้นสามเป็นห้องนอนทั้งหมดของครอบครัว แสงแดดอ่อน ๆ ส่องเข้ามาทางหน้าต่างของชั้นสอง ทำให้โต๊ะอาหารดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย กลิ่นกาแฟและขนมปังอบอวลไปทั่วห้อง ฉันหยิบขนมปังเข้าปากพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพ่อขยับตัวอยู่กับเครื่องมือพลางบ่นเบา ๆ กับตัวเองเหมือนทุกเช้า แม้บ้านจะเต็มไปด้วยเสียงเครื่องมือและกิจวัตรยามเช้า แต่กลับมีความสงบอบอุ่นแบบที่ฉันคุ้นเคย หัวใจรู้สึกอุ่นขึ้นอย่างประหลาด แม้บางทีจะมีเรื่องยุ่ง ๆ จากเมื่อวานวนอยู่ในหัวไม่หาย ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่ฉันต้องออกไปเรียนแล้ว แต่กลับรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติแล้วฉันจะให้แจมมารับฉัน ปกตินางจะมาตรงเวลาพอดี แต่วันนี้… ยังไม่มาเสียที ฉันขมวดคิ้ว คิดไปคิดมา… ให้ตายเถอะ! รถของแจมเสียซะนี่ แถมตอนนี้ก็ยังจอดทิ้งอยู่ที่ร้านของตัวเองแท้ ๆ ฉันถอนหายใจเบา ๆ พลางมองนาฬิกาบนผนัง เวลาใกล้จะออกไปเรียนเต็มทีแล้ว เอาไงดีล่ะ… จะโทรหาแจมดีไหม ความคิดวิ่งวุ่นไปหมด ขณะเดียวกันหัวใจก็เต้นแรงขึ้นเล็กน้อยจากความเร่งรีบ ฉันจัดกระเป๋าให้เรียบร้อย รีบตักขนมปังเข้าปาก แล้วหันไปมองออกไปนอกหน้าต่าง เผื่อแจมจะปรากฏตัวขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันรีบวิ่งลงจากชั้นสอง เสียงรองเท้ากระทบพื้นไม้ดังเป็นจังหวะเล็ก ๆ “พ่อ… นุ่นไปเรียนก่อนนะ!” ฉันตะโกนขึ้นเสียงดัง พ่อวางเครื่องมือแล้วหันมามอง “เออ แล้วไปยังไง ให้พ่อไปส่งไหม?” ฉันส่ายหัวเร็ว ๆ “ไม่ต้อง ๆ ขืนรอพ่อ นุ่นไปเรียนไม่ทันแน่” พ่อพยักหน้าเบา ๆ พลางยกมือโบกให้ฉันเดินออกไป ขณะที่ฉันสะพายกระเป๋าแล้วพุ่งออกจากบ้านไปท่ามกลางอากาศเช้า แสงแดดอ่อน ๆ กระทบผิวหน้าเบา ๆ ทำให้ความรีบร้อนดูคลายลงเล็กน้อย แต่หัวใจก็ยังเต้นแรงไม่ต่างจากตอนวิ่งลงบันได แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเดินพ้นรั้วบ้าน ก็สะดุดตากับพี่แทนไทที่ยืนอยู่ริมถนนพิงรถของตัวเอง เหมือนกับว่ารอใครสักคนอยู่ แล้วมายืนรอที่หน้าบ้านฉันเนี่ยนะ! พอพี่แทนไทเห็นฉัน เขาก็ยกยิ้มบาง ๆ ให้ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบแต่ฟังดูอบอุ่น “ไปเรียนเหรอ พี่ไปส่งไหม?” ฉันเลิกคิ้ว มองเขาด้วยความสงสัยทันที “พี่แทนไท… มาทำอะไรแถวนี้หรอ” เขายักไหล่ตอบสบาย ๆ “พี่แวะมาหาอะไรกินน่ะ” ฉันกลั้นหัวเราะไม่อยู่เลยเผลอแซวออกไป “อ่อออออ… แวะใกล้เชียวนะ ฮ่า ๆ” พี่แทนไทหัวเราะเบา ๆ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจงใจแกล้ง “ก็แวะใกล้แถวบ้านนุ่นนี่แหละ ไม่ดีเหรอ?” ฉันชะงักไปเล็กน้อย ใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก รีบก้มหน้าหลบสายตาคม ๆ นั้นทันที “ตอนนี้ก็ดีอยู่ค่ะ แจมมารับไปเรียนไม่ได้ รถจอดรอซ่อมอยู่ในบ้าน ฮ่า ๆ” พี่แทนไทพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาเหมือนจะกวาดมองไปที่รั้วบ้านแวบหนึ่ง ก่อนหันกลับมาที่ฉัน “ขึ้นรถสิ พี่ไปส่ง” ฉันเม้มปากนิด ๆ ยกยิ้มเก้อ ๆ “รบกวนด้วยนะค้าา” เขาแอบหัวเราะในลำคอเหมือนชอบใจที่ฉันตอบแบบนั้น ก่อนขยับเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับให้ฉันอย่างสุภาพ สายลมเช้าเย็น ๆ พัดผ่าน ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูสงบแต่หัวใจฉันกลับเต้นดังชัดขึ้นเรื่อย ๆ ฉันก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะรถ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำหอมในรถของพี่แทนไทลอยมากระทบจมูกทันที แปลกที่กลิ่นนี้กลับทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก… “ปกตินุ่นซ่อมรถเองเหรอ” เขาถามขึ้นพลางขับรถออกช้า ๆ “ก็แล้วแต่คันน่ะค่ะ แล้วแต่พ่อจะให้ช่วยดูด้วย แต่พักหลังนี่… ใช้งานนุ่นอย่างกับทาสเลย” ฉันแกล้งบ่นเสียงขำ พี่แทนไทหัวเราะเบา ๆ ก่อนเอ่ยถามต่อ “แล้วทำไมถึงเลือกเรียนคอมพิวเตอร์ล่ะ ทำไมไม่ไปเรียนเครื่องยนต์แทน” ฉันหันไปทำหน้าตกใจใส่เขาทันที “พี่ถามเหมือนพ่อเลยอ่ะ พี่เป็นพ่อหนูอีกคนรึไงเนี่ย” “อ่อออ…” เขาเว้นจังหวะเหมือนจงใจ ก่อนยิ้มมุมปาก “ไม่ได้อยากเป็นพ่อนะสิ” ฉันชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนหันมามองเขาแวบ ๆ แล้วหลุดแซวออกไป “แล้วอยากเป็นอะไรล่ะ… แฟนเหรอ” ฉันพูดจบก็หันไปเลิกคิ้วใส่เขาเหมือนตั้งใจจะแหย่ แต่พี่แทนไทกลับหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ดวงตาคมตวัดมามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองถนน “แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริง… นุ่นจะว่ายังไงล่ะ” น้ำเสียงเขาเรียบ ๆ แต่แฝงแววกวนประสาทจนฉันเผลอกลืนน้ำลาย ฉันรีบหันไปมองนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็ว แก้มร้อนวาบจนรู้สึกได้ “พี่พูดอะไรเนี้ย! ขับรถไปเลยค่ะ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก” พี่แทนไทหัวเราะในลำคออีกครั้ง คราวนี้ดังชัดเจนกว่าเดิม เสียงหัวเราะนั้นทำเอาหัวใจฉันยิ่งเต้นแรงเข้าไปใหญ่ บรรยากาศในรถเงียบลงเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ความเงียบที่อึดอัด กลับเป็นความเงียบที่ทำให้หัวใจฉันสั่นไหวอยู่ทุกวินาที… ในขณะที่ฉันยังเอาแต่แสร้งทำเป็นสนใจวิวข้างทางอยู่ พี่แทนไทก็หัวเราะในลำคอเบา ๆ เสียงทุ้ม ๆ นั้นทำเอาฉันเผลอกัดริมฝีปากตัวเองเพราะความเขิน “ถ้าเป็นแฟน… นุ่นจะยอมไหมล่ะ” น้ำเสียงของเขาไม่ได้จริงจังเกินไป แต่ก็ไม่ได้ล้อเล่นเสียทีเดียว ฉันหันขวับไปมองเขาทันที “พี่แทนไท!” เสียงฉันดังขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย ใบหน้าร้อนผ่าวจนต้องรีบก้มมองมือที่กำชายกระเป๋าแน่นแทน เขาเหลือบตามองฉันเพียงเสี้ยววินาที ก่อนคลี่ยิ้มบาง ๆ “ล้อเล่นหรอกน่า… เขินจริงด้วยสิ” ฉันยู่ปากใส่แล้วหันหน้าหนีอีกครั้ง “บ้า… ใครเขินกันเล่า” แต่ปลายเสียงดันสั่นจนปฏิเสธแทบไม่ออก “หึ… ก็เห็นอยู่ว่าเขิน” พี่แทนไทหัวเราะในลำคอ ดวงตาคมเหลือบมองฉันแวบหนึ่ง “หน้าแดงเป็นลูกตำลึงขนาดนี้ ยังจะเถียงอีกเหรอ” ฉันรีบยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองทันที รู้สึกถึงความร้อนที่ปะทะปลายนิ้วเข้าเต็ม ๆ เลยยิ่งร้อนหนักกว่าเดิม “นุ่นปัดแก้มมาค่ะ! อย่ามามั่ว” เขาหัวเราะเบา ๆ อีกครั้งเหมือนยิ่งสนุกที่แหย่ฉันได้สำเร็จ ฉันหันไปจ้องเขาตรง ๆ ตัดสินใจสวนกลับเสียงเรียบแต่แฝงรอยท้าทาย “ส่วนเรื่องนี้… พี่แทนไทเลิกเจ้าชู้เมื่อไร ค่อยมาคุยกันนะคะ” รอยยิ้มบนใบหน้าเขาชะงักเล็กน้อย แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นกว่าที่เคยเห็น ดวงตาคมนั้นจับจ้องฉันอยู่เสี้ยววินาที ก่อนเขาจะถอนหายใจยิ้มมุมปากเหมือนยอมแพ้แต่ไม่ยอมถอย “พูดแบบนี้… แปลว่ามีสิทธิ์ให้คุย ถ้าพี่เลิกเจ้าชู้ได้จริงใช่ไหม” ฉันสะดุ้งไปเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ รีบเบือนหน้าหนีมองออกนอกหน้าต่างแทน “ขับรถไปเถอะค่ะ เดี๋ยวไปสาย” พี่แทนไทหัวเราะเบา ๆ พลางส่ายหน้าเหมือนไม่อยากกดดันฉันเกินไป แต่แววตาเขากลับยังไม่ละไปจากใบหน้าฉันเลยสักนิด “ก็ได้… งั้นพี่จะลองพิสูจน์ให้ดูก็แล้วกัน” เสียงทุ้มของเขาต่ำลงกว่าเดิมนิดหน่อย แต่กลับทำให้บรรยากาศในรถเงียบกว่าที่ควรจะเป็น ฉันเม้มปากเล็กน้อย ก่อนหันไปมองเขาด้วยสายตาจริงจัง “ถ้าพี่ผ่านด่านพ่อนุ่นได้ นุ่นจะพิจารณาให้เร็วขึ้นก็แล้วกัน ขอบอกก่อนว่าพ่อนุ่นหวงนุ่นมากก… ถ้าพี่จะสู้ก็ต้องอดทนนิดนึงนะ” ฉันเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงนิ่งแต่ท้าทาย “เพราะว่าพี่… ก็ไม่ใช่คนเดียวที่จะมาพิสูจน์ใจนุ่นเหมือนกัน” คำพูดฉันทำให้มุมปากของพี่แทนไทคลี่ยิ้มขึ้นอย่างไม่ปิดบัง รอยยิ้มที่ไม่ได้เจือความกวนเหมือนทุกที แต่เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยแรงผลักดันบางอย่าง เหมือนคนที่ยิ่งถูกท้าทายก็ยิ่งมีไฟ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม