ตอนที่ 12

2256 คำ
ทัช ธารากร  ทันทีที่เครื่องบินแลนดิ้งลงสนามบินพวกเราสองคนก็รีบจัดแจงเตรียมตัวเดินทางไปหาแบงค์ในทันทีอย่างไม่รีรอเพราะความกังวลของผมและทอสที่รู้สึกเป็นห่วงพี่เขาจับใจเพราะกลัวว่าเขาอาจจะได้รับอันตรายจากคนเลวๆ อย่างไอ้นะ ใช้เวลาไม่เราสองคนก็ได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้าบ้านของพี่แบงค์ด้วยรถแท็กซี่ก่อนจะรีบลงจากรถแท็กซี่ด้วยความรีบร้อน "พี่ทัชเดี๋ยวผมกดกริ่งก่อนนะเผื่อมีคนอยู่ในบ้าน… ติ๊งงหน่องงๆๆ" ผมหันไปพยักหน้าตอบรับเขาขณะที่กำลังช่วยพี่คนขับยกสัมภาระออกจากท้ายรถแท็กซี่ หลังจากนั้นผมก็มายืนอยู่ข้างๆ เพื่อรอการตอบรับจากคนภายในบ้านแต่กลับไม่มีสัญญาณใดๆเลย เราสองคนก็รู้ว่าภายในบ้านของพี่แบงค์น่าจะมีคนอยู่เขาจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีโทรหาพี่แบงค์แทนแต่ก็ไม่มีการตอบรับเช่นเดิม ผมและเขาต่างรู้สึกเป็นกังวลมากจึงตัดสินใจที่จะปีนรั้วเข้าไปภายในบ้านเพื่อให้ความช่วยเหลือพี่แบงค์หากเขากำลังตกอยู่ในอันตราย ขณะที่เราสองคนกำลังลงมือปีนข้ามรั้วบ้านพี่แบงค์เป็นจังหวะเดียวที่พี่แบงค์เดินออกมาจากบ้านพอดี "อ้าว! น้องทัช น้องทอสกำลังจะทำอะไรกันครับ" "พี่แบงค์!! พี่แบงค์จริงๆด้วย” น้องทอสร้องทักคนตรงหน้าด้วยอาการดีใจทั้งน้ำตา "ก็ใช่สิพี่เอง มานี่ม่ะพี่ขอกอดหน่อย" พี่แบงค์ยืนกางแขนหลังจากที่เปิดประตูรั้วบ้านให้เราสองคน ทันทีที่เขาเห็นอ้อมแขนของพี่ชายที่กางอยู่ทอสเขาก็รีบสวมกอดพี่แบงค์ทันที ทั้งที่มีน้ำตาไหลนองหน้าอย่างไม่ขาดสาย "เป็นอะไรเนี่ยร้องไห้ทำไม พี่ปลอดภัยดี ทอสร้องไห้ทำไมบอกพี่ซิ" น้ำเสียงและท่าทางของแบงค์ดูเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือว่าเจ้านะมันไม่ได้มาหาแบงค์ที่นี่อย่างที่ผมกับทอสเป็นกังวลก่อนหน้านี้ "ผมเป็นห่วงพี่นี่ครับ พี่ไม่ได้ข่าวเเหรอครับว่าไอ้นะ พ่อค้ามนุษย์ที่มันเคยทำร้ายพี่กับผมมันหนีออกจากประเทศออสเตรเลียมาแล้วได้ข่าวเขาบอกว่ามันกลับมาที่ประเทศไทย ผมกับพี่ทัชเป็นห่วงพี่เพราะคิดว่ามันคงจะมาทำร้ายพี่" "จริงเเหรอ! มันหนีออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมพี่ไม่เห็นได้ยินข่าวอะไรเลยหรือเป็นเพราะช่วงนี้พี่ไม่ค่อยได้ดูข่าวก็ไม่รู้" หลังจากที่เราได้ยินคำยืนยันจากแบงค์ว่าไม่รู้เรื่องข่าวการหนีออกนอกประเทศของไอ้นะ เราก็รู้สึกดีใจมากที่เรื่องร้ายๆ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่เราสองคนคาดไว้แต่ก็มีเรื่องน่าแปลกอยู่หลายอย่างในขณะที่แบงค์และคนรักของผมยืนคุยกันอยู่นั้นผมก็สังเกตเห็นถึงร่องรอยอะไรบางอย่างตามลำคอ ช่วงอก แขนและตามใบหน้าหลายจุด หากไม่พยายามสังเกตให้ดีก็จะไม่เห็นร่องรอยเหล่านั้นเลย ผมคงได้แต่สงสัยไม่กล้าถามแบงค์ตรงๆ เพราะเกรงจะทำให้พี่เขาไม่สบายใจและคนที่จะแย่มากกว่าแบงค์ก็คงไม่พ้นทอสคนรักของผมอย่างแน่นอน ผมจึงเลี่ยงไม่ถามถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผมนั่งฟังทอสกับพี่ชายเพียงคนเดียวคุยกันอยู่ที่บริเวณสวนหย่อมข้างบ้านก็ได้ความว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาแบงค์ยังตกอยู่ในอาการหวาดผวาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลียมีผลกระทบกับงานที่ทำ ผู้จัดการฝ่ายจึงอนุญาตให้แบงค์กลับมาพักผ่อนเพื่อให้เกิดความสบายใจและพร้อมที่จะลุยในการทำงานเช่นปกติเสียก่อน ส่วนเรื่องไอ้นะเขายังคงยืนยันเช่นเดิมว่าไม่รู้เรื่องถึงข่าวที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าไอ้นะจะตามหาบ้านของเขาเจอ ผมและทอสเราก็รู้สึกโล่งใจสบายใจอย่างบอกไม่ถูกที่น้องทอสจะได้ไม่ต้องมาเป็นวิตกกังวลหรือหวาดระแวงถึงเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตอีก แบงค์คือทุกสิ่งทุกอย่างของผมและทอส เขาเป็นชนวนความรักของเราทั้งสองคนให้เกิดความแน่นแฟ้นมากขึ้น นอกจากนี้แบงค์ยังรู้เรื่องราวความรักของเราทั้งสองคนเป็นอย่างดีสามารถพูดพร้อมอธิบายต่อผู้ใหญ่เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นโดยเฉพาะพ่อของผม หากเมื่อใดที่ท่านรู้ของจริงถึงการกลับมาคบกันของเราทั้งสองคนอีกครั้งวันนั้นคงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอีก แหละนี่คงเป็นเหตุผลที่เราสองคนรักและเคารพแบงค์มาก ส่วนร่องรอยที่เกิดขึ้นตามร่างกายของแบงค์มันเกิดจากอะไรกันแน่ น้ำเสียงท่าทางการสนทนาของเขาก็ดูเป็นปกติเช่นทุกครั้งที่เราสามคนเคยพูดคุยกัน หากสังเกตแววตาของเขาให้ดีจะสัมผัสได้ถึงความทุกข์ที่พยายามซ่อนเร้นภายในจิตใจที่อ่อนแอเหลือเกิน ผมว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับแบงค์ชัวร์ๆ ผมต้องหาคำตอบและช่วยแบงค์ให้ได้ นะ นที  ผมแอบยืนมองคนทั้ง 3 คนคุยกันอย่างมีความสุขที่โต๊ะม้าหินอ่อนภายในสวนข้างบ้านซึ่งผมเองก็แอบอยู่หลังม่านสีฟ้าครามบริเวณระเบียงห้องนอนของเจ้าของห้องด้วยอารมณ์สงสัย โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่ทำทีพูดจาสนุกสนานมีความสุขเหมือนกำลังหลบซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายในใจจนมองไม่ออก ยิ่งผมได้เห็นทอสโจทก์เก่าของผมความรู้สึกที่อยากเอาคืนก็กลับมาอีกครั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมทั้งหมด มันเกิดจากการกระทำของเด็กหนุ่มคนนั้นเพียงคนเดียว ผมตัดสินใจเดินเข้ามาภายในห้องนอนเพื่อไม่ให้ความโมโหประดังเข้ามาในหัวของผมอีกครั้ง ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ถูกจัดวางบนโต๊ะข้างหัวเตียงของเจ้าของห้องและสิ่งที่ผมเห็นมันคือกรอบรูปขนาดถนัดมือก่อนที่ความสนใจของผมจะจับจ้องไปที่กรอบรูปอันนั้นอย่างประหลาดใจ ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปที่บริเวณโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วหยิบกรอบรูปอันนั้นขึ้นมาดูอย่างตั้งใจ ภาพที่ผมเห็นคือ เด็กหนุ่มคนหนึ่งน่าจะมีอายุประมาณเท่าไอ้ทอสเห็นจะได้ ทันทีที่ผมได้เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ผมก็รู้สึกชอบเด็กคนนี้ขึ้นมาทันทีอย่างปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้ ทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ช่างมีความน่ารักสดใสดูไร้เดียงสาเกินกว่าอายุของเขาที่เป็นอยู่ ซึ่งในภาพเด็กหนุ่มคนนี้กำลังแอ๊คท่าถ่ายรูปชูสองนิ้วคู่กับใครอีกคนที่เป็นเจ้าของห้องนอนห้องนี้ ผมพยายามคิดวนไปวนมาเพื่อหาคำตอบให้กับตนเองว่า เด็กหนุ่มคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของห้องนอนนี้อย่างไร จะเป็นน้องชายหรือหลานชายหรือลูกพี่ลูกน้อง หากจะพูดถึงความสัมพันธ์ของคนทั้ง 2 ในกรอบรูปที่อยู่ในมือผมกลับรู้สึกไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควรเพราะสิ่งที่ผมสนใจมากกว่านั้นก็คือเด็กหนุ่มคนนี้เสียแล้ว แล้วเขาคือใคร อยู่ที่ไหน ผมอยากเจอเขาเหลือเกิน วันนี้ผมต้องรู้ให้ได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เขาเป็นใครอยู่ที่ไหน ที่สำคัญกว่านั้นผมจะทำให้แบงค์พาเด็กหนุ่มคนนี้มาหาผมให้ได้เช่นกันเพราะผมรู้สึกรักเด็กคนนี้เหลือเกิน ทันทีที่แรกเห็นแม้นจะอยู่ในรูปภาพก็ตามเขาก็ดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจผมขนาดนี้หากผมได้เห็นตัวจริง ความน่ารักสดใสของเขาคงไม่ทำให้ผมเกิดอารมณ์พลุกพล่านไปทั่วเลยหรือไง ผมยังนั่งมองกรอบรูปนั้นอยู่นานบนเตียงนุ่มโดยที่เจ้าของห้องยังไม่ขึ้นมาจากการลงไปทักทายโจทย์เก่าของผมทั้งสองคน ยิ่งผมได้มองคนในรูปผมยิ่งรู้สึกรักและชอบคนในรูปมากขึ้นจนแทบจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่หรือว่าคนที่อยู่ในรูปจะเป็นเนื้อคู่ของผมจริงๆ เขาอาจคนที่ผมตามหามานานแต่ไม่ทันที่ผมจะได้ปล่อยอารมณ์ให้ตกอยู่ในภวังค์แห่งความเพ้อฝัน ไปมากกว่านั้น ผมกลับคิดได้ว่าผมจะใช้เด็กหนุ่มคนนี้บวกกับแผนที่จะเอาคืนทอสที่เป็นโจทก์เก่าของผม หากผมใช้เด็กหนุ่มคนนี้เป็นเครื่องมือต่อรองให้แบงค์พาทอสมาหาผม มันก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะค่อยๆ วางกรอบรูปนั้นลงไปที่เดิมของมันก่อนจะนอนเอนลงไปที่หมอนบนเตียงนุ่มเพื่อรอให้เจ้าของห้องกลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้ง.. เวลาผ่านไปไม่นานผมก็ได้ยินเสียงรถยนต์ขับออกไปจากบริเวณลานจอดรถหน้าบ้าน ไม่ถึง 5 นาทีประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา สีหน้าของแบงค์ที่เคยดูมีความสุขในขณะที่พูดคุยกับน้องชายของเขาที่โต๊ะม้าหินอ่อนด้านล่างกลับแปรเปลี่ยนเป็นคนอมทุกข์ขึ้นมาเหมือนกำลังแบกโลกไว้ทั้งใบอยู่บนบ่าทันทีที่เข้ามาภายในห้องนอน หากเป็นก่อนหน้านั้นผมคงจะมีน้ำโหและโวยวายใส่เขาก่อนจะระบายความต้องการของตัวเองกับคนตรงหน้าอย่างไร้ความปราณีเช่นเมื่อคืน สำหรับตอนนี้ผมกลับรู้สึกเฉยๆ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงหรือพูดอะไรกับเจ้าของห้องมากไปกว่า "ไอ้ทอสกลับไปแล้วเหรอ" ทันทีที่ผมเอ่ยถาม แบงค์รีบหันหน้ามาทางผมด้วยความตกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผมหรือเปล่าจึงทำให้ผมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ "ตกใจอะไรขนาดนั้น นะหวังว่าแบงค์คงไม่ได้เล่าอะไรให้ทอสฟังใช่ไหมว่านะอยู่ที่นี่อ่ะครับ" "แกเป็นอะไรของแก ทำไมพูดแปลกจัง ลื่นล้มในห้องน้ำเหรอ?!" เมื่อผมได้ฟังคำถามจากแบงค์ถึงกับทำให้ผมกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ "ฮ้าๆๆๆ ทำไมถามแบบนั้นล่ะ คนอย่างนะจะมาลื่นล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำเนี่ยนะ นะไม่ได้เพี้ยนหรือเป็นอะไรเหรอกนะครับ นะเพียงแค่อยากจะพูดดีๆ กับแบงค์บ้างน่ะ ไม่ดีเหรอ.." ทันทีที่ผมพูดจบเจ้าของห้องก็รีบถามสวนขึ้นทันควันอย่างสงสัย "ฉันไม่เชื่อแกเหรอกแกต้องการอะไรกันแน่บอกมาตรงๆ ดีกว่า คนอย่างแกจะมาพูดดีๆ กับคนอื่นมันคงเป็นไปไม่ได้เหรอกถ้าแกไม่ต้องการอะไรจากฉันอีก!" "อย่าสำคัญตัวเองผิดไป ตอนนี้นะไม่ได้ต้องการอะไรจากแบงค์แล้วคนที่นะต้องการคือคนนี้มากกว่า นะขอพูดตรงๆ นะจะไม่พูดอะไรมากมาย นะต้องการเด็กคนนี้ถ้าแบงค์ไม่อยากให้คนในบ้านต้องเป็นอะไรไปให้พาเด็กในรูปนี้มาหานะคืนนี้ คืนนี้เท่านั้นนะครับ ตกลงตามนี้นะ แบงค์ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรทั้งนั้น ต้องทำตามความต้องการของนะเพียงอย่างเดียวถ้าไม่อยากให้คนในบ้านต้องเดือดร้อนเพราะแบงค์ ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะเห็นหน้าน้องในรูปแล้วรู้สึกต้องการมากเลยอ่ะ ไม่ไหวแล้วพามาคืนนี้เลยนะครับเมียหลวง ห้ามลืมนะครับ" ผมอธิบายถึงความต้องการของผมก่อนจะชี้นิ้วมือไปที่กรอบรูปที่วางตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะทิ้งท้ายสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ เพราะผมรู้ว่าเขาคงไม่ต้องการให้คนในบ้านต้องเดือดร้อนแน่ๆ และเขาต้องพาเด็กหนุ่มในรูปมาหาผมอย่างแน่นอน คืนนี้ผมคงต้องมีความสุขอีกแล้วสินะแค่คิดก็มีความสุขแล้ว เย้ๆๆ แต่ก่อนที่ผมจะปิดประตูห้องน้ำผมเห็นแบงค์มีอาการยืนนิ่ง ตัวสั่นเทา น้ำตาไหลอาบแก้มมันช่างเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกินยิ่งผมได้เห็น ผมก็รู้สึกเหมือนได้เอาคืนไอ้ทอสโจทย์เก่าของผมขึ้นมากลายๆ เพราะแบงค์เจ็บก็เท่ากับไอ้ทอสต้องได้รับความเจ็บปวดไปด้วยเช่นกันหากไอ้ทอสรู้เรื่อง หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จก็ทานอาหารเย็นที่เมียอันดับหนึ่งของผมเอาขึ้นมาให้กินถึงบนห้องนอนอย่างสุขสบายและรอเวลาให้เมียอันดับหนึ่งพาเมียอันดับสองมาปรนเปรอสามีอย่างผมถึงห้องนอนต่อไปในค่ำคืนนี้ แล้วทำไมผมรู้สึกง่วงนอนแบบนี้ล่ะหรือว่าผมจะถูกวางยาซะแล้ว.. คร่อก!!  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม