ตอนที่ 9 ออกค่ายทำใจไหวหวั่น 3/3

1406 คำ
“ถึงคุณจะรำคาญ จะไล่ขวัญยังไงขวัญก็ไม่ไปค่ะจนกว่าจะตรวจดูจนแน่ใจว่าคุณไม่เป็นอะไร หันหลังมาค่ะ”ของขวัญไม่พูดเปล่าจับเขาหันหลังมาหาตนทันที เธอไม่ทันระวังเผลอโดนบริเวณที่กรวิชเจ็บอยู่จนเขาร้องเสียงดัง “โอ๊ย เบาๆสิ” “ขอโทษค่ะ ไหนว่าไม่เป็นอะไรไงคะทำไมร้องเสียงดัง”ของขวัญได้ทีบ่นเขาคืนบ้าง คนตัวโตได้แต่นั่งนิ่งปล่อยให้เธอตรวจดูอาการเงียบๆ เมื่อเปิดไหล่ของเขาดูก็พบรอยบวมแดงบริเวณหัวไหล่ใกล้กับรอยแผลเดิมของเขา “รออยู่ตรงนี้นะคะอย่าไปไหน” ของขวัญหายเข้าไปในอาคารสักพักก่อนออกมาพร้อมผ้าห่อน้ำแข็ง “จะทำอะไร” “ประคบไหล่ให้คุณไงคะ ไหล่คุณบวมแดงขนาดนี้ถ้าไม่ประคบตั้งแต่คืนนี้พรุ่งนี้จะปวดจนทำงานไม่ได้นะคะ” “ผมทำเองได้ ขอบใจมาก”กรวิชยื่นมือเพื่อรับผ้าจากของขวัญ แต่โดนเธอดึงมือออก “หน้าที่คุณคืออยู่นิ่งๆค่ะ ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ขวัญ” เมื่อรู้ว่าปฏิเสธเธอไม่ได้กรวิชจึงนั่งนิ่งปล่อยให้เธอปฐมพยาบาลให้ “เจ็บมั้ยคะ” “นิดหน่อย” “นี่ยังโชคดีนะคะที่ไม่เป็นอะไรมาก ระวังอย่าให้โดนแผลเก่านะคะ” “เพราะใครกันล่ะที่ทำให้เป็นแบบนี้”กรวิชบ่นพึมพำเบาๆแต่ก็ดังพอที่จะทำให้ของขวัญได้ยิน “ขอโทษค่ะ” เมื่อได้ยินคำขอโทษจากเธอทำให้กรวิชรู้ตัวว่าไม่ควรพูดแบบนี้ ไม่ควรแสดงความรู้สึกอะไรต่อหน้าเธอเด็ดขาด หลังจากนั้นจึงนั่งเงียบไม่ยอมพูดกับเธออีก “นี่ยาค่ะ ขวัญจัดไว้ให้แล้วทานจนครบนะคะ เริ่มคืนนี้เลย”หลังจากประคบให้เขาเสร็จของขวัญส่งยาที่เตรียมไว้ให้เขาทานเพื่อลดอาการปวดบวม กรวิชรับยามาทานและกล่าวขอบคุณเธอสั้นๆ เมื่อหมดหน้าที่แล้วของขวัญจึงขอตัวไปพักผ่อนปล่อยให้กรวิชนั่งอยู่ตรงนั้นต่อเพียงลำพัง เมื่อของขวัญเดินออกไปแล้วกรวิชพ่นลมหายใจยาวเอามือลูบหน้าอกตัวเองให้คลายความตื่นเต้นลง ทำไมกันนะแค่เธออยู่ใกล้และสัมผัสโดนตัวแค่นิดหน่อยหัวใจเจ้ากรรมถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ ห้าโมงเย็นหลังเลิกงานพายุฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างแรงโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด "คุณหมอครับ ลุงมีเรื่องรบกวนหน่อย"ลุงกำนันวิ่งหน้าตาตื่นฝ่าสายฝนที่กำลังตกกระหน่ำเข้ามาในโรงเรียนพลางร้องเรียกหาหมอ "มีอะไรคะลุงกำนัน"ของขวัญรีบขานรับกำนัน "คือมีคนไข้ขึ้นสูงที่หมู่บ้านถัดจากโรงเรียนประมาณสิบกิโลเมตร คุณหมอพอจะไปช่วยดูคนไข้ให้ลุงได้มั้ย" "ได้ค่ะ ขอเวลาหนูเตรียมอุปกรณ์ครู่เดียวนะคะ" ของขวัญหายเข้าไปเตรียมอุปกรณ์ครู่เดียวก็ออกมาพร้อมชุดกันฝนและกำลังจะเดินไปแจ้งกรวิช แต่เห็นเขากำลังยืนพูดคุยอยู่กับลุงกำนันพอดี "ขวัญกำลังจะไปบอกคุณพอดีค่ะว่าขอตัวออกไปดูคนไข้กับลุงกำนัน" "คุณตัวคนเดียวจะไปยังไง ไม่รู้หรอว่าเส้นทางมันลำบากแค่ไหนยิ่งตอนนี้ฝนตกหนักอีก"กรวิชบอกเธอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "ลำบากแค่ไหนขวัญก็ต้องไปค่ะ ขวัญมาที่นี่เพื่อรักษาคนไข้ถึงคุณห้ามยังไงขวัญก็ต้องไป" "ผมพูดหรอว่าไม่ให้คุณไป รออยู่ตรงนี้ก่อนเดี๋ยวผมมา" กรวิชหายเข้าไปในห้องพักเพื่อบอกทีมงานคนอื่นและเดินออกมาหาของขวัญและกำนันที่ยืนรออยู่ "ผมพร้อมแล้วไปกันเลยครับ" "คะ คุณจะไปด้วยหรอคะ" "อย่าพูดเยอะขึ้นรถ คนเจ็บอยู่หมู่บ้านอะไรครับ"กรวิชบอกของขวัญขึ้นรถก่อนหันไปถามกำนัน "บ้านน้ำเชี่ยว คนมาส่งข่าวรออยู่ที่บ้านลุง คุณจำเส้นทางได้ใช่มั้ย" "ได้ครับ ลุงอยู่ที่นี่ดีกว่าครับเดี๋ยวผมไปกับหมอของขวัญและชาวบ้านที่มาส่งข่าวเองครับ" "คุณบอกว่าทางมันลำบากไม่ใช่หรอแล้วคุณขับรถเองได้หรอ" "จะไปมั้ยถ้าไปก็ขึ้นรถ"กรวิชบอกของขวัญและเดินไปขึ้นรถจี๊ปสตาร์ทรถรอเธอ ของขวัญจึงรีบเดินตามเขาขึ้นรถไป ด้วยถนนหนทางที่ยากลำบากประกอบกับพายุฝนที่ตกหนักโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดทำให้การเดินทางค่อนข้างยากลำบากระยะทางเพียงแค่ไม่ถึงสิบกิโลแต่ใช้เวลาเดินทางร่วมชั่วโมงกว่าจะมาถึงหมู่บ้าน ทันทีที่มาถึงของขวัญรีบฝ่าสายฝนเข้าไปดูคนไข้โดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเปียกหรือไม่ ท่าทางจริงจังและเด็ดเดี่ยวของเธอทำให้กรวิชที่ช่วยขนอุปกรณ์เข้ามาเผลอมุมมปากออกมา เธอตอนโตเป็นแบบนี้เองหรอของขวัญ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ขยันขันแข็ง ตอนจริงจังแบบนี้ยิ่งน่าหลงใหลมากเลยนะ "กร กร" "มีอะไร"เสียงเรียกของเธอทำให้กรวิชตื่นจากภวังค์ "วันนี้ช่วยงานขวัญหน่อยได้มั้ย" "ได้สิ จะให้ทำอะไร" "ช่วยหยิบอุปกรณ์ตามที่ขวัญบอกก็พอ" "ได้" "คุณหมอมาแล้วช่วยสามีฉันด้วยนะคะ" "คุณน้าใจเย็นๆนะคะ ขอเวลาหมอตรวจอาการของคนไข้ก่อนนะคะ ทำใจให้สบายค่ะไม่ต้องกังวล" ของขวัญและกรวิชรีบเข้าไปตรวจคนไข้ วันนี้กรวิชเป็นผู้ช่วยของขวัญได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเธอจะให้หยิบจับอะไรให้ก็ทำได้อย่างคล่องแคล่วเรียกได้ว่าเข้าขากันตั้งแต่ครั้งแรกที่ร่วมงานกัน กรวิชพลางนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เขาช่วยของขวัญติวหนังสือ ของขวัญตรวจอาการของคนไข้พบว่าคนไข้ตัวร้อนอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ลมหายใจร้อนผ่าว ปากซีด กระหายน้ำ ชีพจรเต้นแรง ความดันสูง หน้าแดง ผิวแดง ปวดกระบอกตา คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะมากและกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลา จึงสงสัยว่าน่าจะเป็นไข้มาลาเรียจึงรีบเอายาให้คนไข้ทานและเฝ้าดูอาการอยู่ไม่ห่าง "คุณหมอคุณกรมากินข้าวก่อนจ๊ะยังไม่ได้กินอะไรกันไม่ใช่เหรอจ๊ะ น้าทำกับข้าวไว้ให้แล้ว" "ขอบคุณครับคุณน้า" ของขวัญมองกรวิชด้วยท่าทางแปลกใจเพราะการพูดจาของเขากับชาวบ้านดูสนิทสนมเหมือนคนรู้จักกัน ไม่เหมือนคนที่พึ่งเคยเจอกันครั้งแรก "สงสัยอะไร" "เปล่าค่ะขวัญแค่สงสัยว่าทำไมคุณถึงดูสนิทสนมกับชาวบ้านจัง" "ก็คุณกรกับเพื่อนๆเขามาช่วยเหลือชาวบ้านเป็นประจำค่ะ ทุกคนที่นี่คุ้นเคยกับคุณเค้าดี"เจ้าของบ้านบอกของขวัญให้คลายสงสัย "ทำไมคุณไม่บอกว่าเคยมา" "คุณไม่ได้ถาม จะกินมั้ยข้าวท้องร้องแล้วไม่ใช่หรอ" "ได้ยินด้วยหรอ" "หึ เสียงดังขนาดนั้นไม่ได้ยินก็บ้าแล้ว" ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทานอาหารค่ำกันอยู่ก็มีชาวบ้านเดินมาส่งข่าวกรวิชว่าถนนทางเข้าหมู่บ้านขาดต้องรอฝนหยุดตกถึงจะซ่อมได้อย่างเร็วก็พรุ่งนี้สายๆ คืนนี้ทั้งสองคนต้องนอนค้างในหมู่บ้านก่อน กรวิชจึงวิทยุสื่อสารกลับไปบอกทีมงานว่าตนและของขวัญต้องค้างที่หมู่บ้านคืนนี้ "คุณโอเคมั้ย"กรวิชหันมาถามของขวัญหลังจากแจ้งทีมเรียบร้อยแล้ว "เราไม่มีทางเลือกไม่ใช่หรอคะ อีกอย่างฝนก็ยังไม่หยุดตอนนี้ก็สี่ทุ่มแล้วถึงถนนไม่ขาดขวัญว่าเราก็ไม่ควรออกไปอยู่ดี" "พวกเรารบกวนยืมชุดคุณน้าให้คุณหมอเปลี่ยนหน่อยนะครับ" "ได้สิคะเดี๋ยวน้าไปเอามาให้ เรื่องที่นอนรอน้าแป๊บเดียวเดี๋ยวน้าเตรียมให้พวกคุณกินข้าวเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนนะคะ" "ขอบคุณนะคะที่เป็นธุระให้" "ขอบคุณอะไรกันคะน้าสิคะต้องขอบคุณคุณหมอถึงจะถูกที่อุตส่าห์มารักษาสามีน้าถึงบ้าน"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม