บทที่ 4 "เวรกรรมในรูปแบบพี่รหัส"

1466 คำ
หลายนาทีต่อมา... @ห้างสรรพสินค้า "ไปค่ายอะ เขาต้องเตรียมอะไรไปบ้าง" ขณะที่ฉันกำลังเดินมองดูของตามร้านไปเรื่อยเปื่อย จู่ๆ ไอ้คนตัวสูงที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ ฉันก็เปล่งเสียงถามฉันขึ้นมา ฉันก็เลยต้องเงยหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่าตัวเองหลายเซนอยู่แวบหนึ่ง คือฉันกำลังคิดว่าไอ้พี่พระพายพี่รหัสของฉันที่มีคนเล่าลือกันว่าเขาเรียนเก่งนักเก่งหนาได้เอทุกตัวตั้งแต่ปีหนึ่งของเอกอะ กับอีแค่เรื่องไปค่ายแค่นี้เขาจะไม่รู้เลยเหรอว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้างอะ นี่ฉลาดจริงปะเนี่ย? "อะไร มองฉันแบบนั้นกำลังด่าอะไรอีก" ทีอย่างนี้กลับรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่กับเรื่องที่จะไปเข้าค่ายกลับไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ฉันเหลือจะเชื่อ "โซกำลังด่าพี่ว่าโง่อะ" "เธอว่าไงนะ เธอนี่มัน..." "ก็พี่โง่จริงไหมล่ะที่ไม่รู้ว่าไปค่ายต้องเตรียมอะไรไปบ้างอะ" "คนเรามันก็ไม่ได้รู้ไปซะทุกอย่างไหมวะ อะ ถ้าเธอฉลาดนักงั้นก็บอกมาดิว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง" ถามฉันเสร็จพี่พระพายก็ทำหน้ากวนโอ๊ยกลับมาพร้อมรอฉันตอบคำถามของเขา "เตรียมถุงยางไปมั้ง" ฉันก็เลยเลือกที่จะตอบประชดประชันกลับไปแทน ก่อนจะชิงเดินนำไปก่อน เพราะรำคาญไอ้สีหน้านั่นของพี่พระพายมาก เอาจริงๆ เลยนะเขาไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรไปหรอก แต่เขาแค่ต้องการกวนฉัน ลากฉันมาก็เพื่อต้องการยั่วโมโหฉันเฉยๆ "ในป่าในเขาแบบนั้น มันไม่เวิร์คหรอก จัดท่ายาก" อี๋ ไอ้คนโรคจิต ฉันเดินทิ้งห่างมาขนาดนี้ยังอุตส่าเดินตามมากระซิบข้างหูฉันอีก แล้วประเด็นคือพูดเรื่องสิบแปดบวกได้ไม่กระดากปากเลยด้วย "พี่อย่ามาพูดจาน่าขยะแขยงแถวนี้ได้ปะ ได้ยินแล้วจะอ้วก" ฉันหันไปแหว่เสียงดุ แต่ดูคนที่โดนฉันมองตาขวางใส่เถอะ "เธอเริ่มก่อนนะ อย่าลืมสิ" โอ้ย ช่วยด้วยช่วยเอาไอ้พี่รหัสบ้านี่ไปโยนทิ้งที่ไหนก็ได้ ฉันเริ่มจะปรี๊ดแตกจนเส้นเลือดในสมองจะแตกแล้วนะ ย้อนเก่งมาก "เออ งั้นก็เจ๊ากันโอเคไหม แล้วก็ช่วยรีบไปซื้อของได้แล้วเถอะ เดินจนเมื่อยขาแล้วเนี่ย" "เธอก็เดินนำไปที่ร้านที่คิดว่าจะต้องซื้อของไปที่นู่นสิ" ได้ยินคนที่ยืนพูดด้วยรอยยิ้มกวนๆ บอกฉันจบ ฉันก็กลอกตาใส่ทันทีก่อนจะเดินนำไปที่ร้านที่ขายของเกี่ยวกับของใช้ต่างๆ ที่ต้องใช้พรุ่งนี้ ตอนเดินเข้ามาในร้านฉันก็ไม่ลืมที่จะไปเอารถเข็นซื้อของมาเข็นไปด้วย เพราะของที่จะซื้อน่าจะเยอะใช้ได้ แต่ไอ้คนที่เดินตามหลังฉันมากลับแย่งรถเข็นของฉันไปเข็นเองซะงั้น ฉันก็เลยยืนทำหน้ามู่ทู่แทนก่อนจะเตรียมหมุนตัวไปเอารถเข็นคันใหม่มาเข็น แต่... หมับ! "ใช้ด้วยกัน" เสียงทุ้มบอกฉันแค่นั้น ก็ดึงแขนฉันจนตัวปลิวไปกระแทกสีข้างของเขาเต็มๆ ก่อนจะดันร่างกายของฉันให้มายืนอยู่ด้านหน้าของเขาแล้วเข็นรถไปด้วยกัน แต่ให้ตายเถอะ นี่มันท่าทางเข็นรถในซูเปอร์มาร์เกตที่พวกเป็นแฟนกันชอบทำกันนี่ แต่ฉันกับพี่พระพายไม่ได้เป็นแฟนกันนะ ฟึบ! "คิดถึงเมียเก่าพี่หรือไง ถึงได้ดึงโซไปทำแบบนั้น" "สีหน้าฉันมันบอกแบบนั้นหรือไง ที่ดึงให้มาอยู่ด้านหน้าของฉันเมื่อกี้เพราะเธอขวางทางคนอื่นอยู่ต่างหาก" ใช่เหรอ? แต่ฉันจำได้ว่าเมื่อกี้ไม่มีใครเดินผ่านมานะ "รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวต้องกลับไปจัดของอีก" พี่พระพายบอกแค่นั้น เขาก็เดินนำไปเฉยเลย ฉันที่ยังทำหน้าสงสัยอยู่ก็เลยต้องหยุดสงสัยแล้วเดินตามพี่รหัสตัวเองไปเงียบๆ ระหว่างทางเจอของที่ต้องซื้อก็หยิบสองชิ้นใส่รถเข็นไปตลอดทาง ใช่ค่ะ ฉันหยิบเผื่อคนที่กำลังเข็นรถเข็นนั่นแหละ ใช้เวลาเดินซื้อของจนได้ของที่จะใช้ครบแล้ว ฉันกับพี่พระพายก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน แยกของใช้ของใครของมันเสร็จก็รอพนักงานคิดเงิน...แต่จู่ๆ ไอ้คนตัวสูงข้างๆ ฉันก็เรียกสายตางงงวยของฉันให้ไปมองเขา เมื่อเขาพูดกับพนักงานว่า... "คิดเงินรวมกันเลยครับแต่แค่แยกถุงกัน" "พี่จะคิดเงินรวมกันทำไม คิดแยกสิ" "ฉันจ่ายให้เอง ถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่ช่วยฉันเลือกซื้อของ" เหอะ นิสัยรวยชอบเปย์สาวสินะ "ก็ได้ โซเข้าใจว่าพี่ติดนิสัยรวยชอบเปย์สาว ขอบคุณนะคะ" ฉันพูดแค่นั้นก็ฉีกยิ้มการเมืองไปหนึ่งทีก่อนจะกลอกตาใส่ในวินาทีต่อมา แต่... "จริงๆ ถ้าเธอได้ผัวรวยแบบฉันไปครอบครองเนี่ย กระเป๋าตังค์ของเธอแทบจะไม่ต้องใช้เลยนะ สนใจเอาฉันไปนอนกอดไหม หืม?" แต่ฉันโดนสู้กลับด้วยประโยคสุดทะลึ่งนี่สิ ไอ้พี่รหัสบ้าเอ้ยทำไมทะลึ่งได้กลางร้านแบบนี้เนี่ย พูดจาประเจิดประเจ้อที่สุด แล้วพูดที่ไหนไม่พูดมาพูดต่อหน้าพนักงานอีก ฉันอยากจะบ้าตาย "พี่หยุดพูดทะลึ่งเดี๋ยวนี้เลยนะ มันใช่ที่ที่จะมาพูดเรื่องแบบนี้ไหม ถึงพี่จะไม่อายแต่โซอาย" "อะหึ่ม ขออนุญาตค่ะคุณลูกค้า เราทำการคิดเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ทั้งหมดหนึ่งหมื่นสองพันบาทค่ะ" "นี่บัตรครับ" พนักงานที่แอบอมยิ้มให้กับฉันและพี่พระพายยื่นมือรับบัตรจากมือพระพายเสร็จก็ทำการรูดบัตรให้ ใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ฉันก็เลยชิงเดินนำออกจากร้านมาก่อน อาย ฉันอายมากที่พี่พระพายพูดแบบนั้นให้พนักงานได้ยิน สนใจรับเขาไปนอนกอดเหรอ อี๋~ แค่คิดฉันก็ขนลุกแล้ว "จะรีบเดินไปไหน ไม่หิวข้าวหรือไง เรียนเสร็จยังไม่ได้กินข้าวเลยไม่ใช่เหรอ" เสียงพี่พระพายที่เดินตามหลังออกมาจากร้านเอ่ยถามฉัน เออใช่ จริงด้วยฉันลืมไปเลยว่าเรียนเสร็จฉันยังไม่ได้ทานข้าวเลยนี่ แต่ถ้าหากว่าต้องไปนั่งหันหน้ากินข้าวด้วยกันกับพี่รหัสที่ฉันไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไหร่อะ ฉันจะกลืนข้าวลงเหรอ ไม่กินดีกว่า... "ไม่ดีกว่า เดี๋ยวโซค่อยกลับไปกินที่ห้อง กลับกันเถอะค่ะ" ฉันหมุนตัวตอบพี่รหัสของตัวเอง "แต่ฉันหิว อยู่ห้างแล้วก็กินให้มันเสร็จๆ ไปเลยเถอะ" ไม่ทันที่ฉันจะตอบตกลงอะไร พี่พระพายก็เดินเข้ามาดึงข้อมือของฉันไปจับไว้อย่างเรียบร้อย จากนั้นก็พาฉันเดินเข้าร้านอาหารระดับห้าดาวไปแบบชิวๆ โดยไม่สนใจว่าฉันจะอยากกินไหม . . . @คอนโดโซดา 21.00น. หลังจากที่ทานข้าวกับพี่พระพายที่ร้านอาหารในห้างเสร็จเรียบร้อย พี่พระพายก็ขับรถมาส่งฉันที่มหาลัยอีกครั้งแยกขึ้นรถกันเสร็จฉันก็ขับตรงกลับคอนโดทันที เพื่อจะได้รีบกลับมาจัดเก็บของที่ต้องใช้ในวันพรุ่งนี้เข้ากระเป๋าใบใหญ่ที่เตรียมไว้ให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ซึ่งทุกอย่างที่ไปซื้อที่ห้างวันนี้ถูกบรรจุใส่กระเป๋าเดินทางทุกชิ้นโดยไม่ลืมแม้แต่ชิ้นเดียว และเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันก็หมุนตัวเดินไปเข้าห้องน้ำต่อ เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดก่อนเข้านอน อาบน้ำเสร็จฉันก็ออกมาทาครีมบำรุงหน้าบำรุงผิวเพื่อเตรียมขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่มๆ หอมๆ ของตัวเองต่อ แต่หัวยังไม่ทันได้ถึงหมอน จู่ๆ ก็มีข้อความปริศนาส่งเข้ามาในโทรศัพท์เสียก่อน... Unknow : มารับไอ้พระพายที่ผับCหน่อย มันเมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม