บทที่ 6 "คนเจ้าเล่ห์"

1559 คำ
ฉันอึ้ง! อึ้งแบบเบิกตาค้างโตเท่าไข่ห่านเลยทีเดียว หลังจากที่ถูกดึงข้อมือแล้วล้มฟุบบนร่างกายของพี่พระพายพร้อมเอาปากกระแทกลงบนริมฝีปากของคนใต้ร่างที่ยังหลับตาอยู่แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ปากของฉันแตะกับปากของเขาแบบเนื้อแนบเนื้อเลยทีเดียว แม้แต่อากาศยังแทรกเข้ามาไม่ได้! ให้ตายเถอะหมดกัน จูบแรกของฉันที่เก็บไว้มาเนิ่นนานกว่ายี่สิบปี ตอนนี้ถูกไอ้พี่รหัสขี้เมาขโมยไปแล้ว แถมฝ่ามือใหญ่ๆ ทั้งสองข้างเขาก็ยังวางอยู่บนแก้มก้นของฉันอีกด้วย กรี๊ด!!! ใครก็ได้บอกฉันทีว่ามันเป็นแค่ความฝันไม่ใช่ความจริง! "นมเธอ..." แต่ณะที่สติของฉันกำลังฟุ้งซ่านไปไหนต่อไหน เสียงทุ้มแหบเอื่อยๆ ยานครางของพี่พระพายก็พูดขึ้นเบาๆ แทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ขณะที่ริมฝีปากของเราสองคนยังไม่ผละออกจากกัน ก่อนที่เปลือกตางัวเงียของเขาจะค่อยๆ เปิดขึ้นจ้องมองดวงตาของฉันแน่นิ่งจนฉันต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย... "นมเธอ...ทำให้ฉันมีอารมณ์ว่ะโซ" ฟุบ! เท่านั้นแหละฉันรีบเด้งตัวลุกขึ้นยืนทันที อยากกรี๊ด! ฉันอยากกรี๊ดมากเพราะประโยคที่พี่พระพายพูดมัน... ไอ้บ้าเอ้ยทำไมต้องล่วงเกินฉันด้วยคำพูดด้วยเนี่ย! ฉันเข้าใจว่าตอนที่ล้มไปทับพี่พระพายเมื่อกี้ หน้าอกหน้าใจของฉันมันกระแทกนาบลงบนแผงอกแข็งๆ ของเขาเต็มๆ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมานี่! โอ้ย ฉันทำตัวไม่ลูกเลยอะ "เห็นตัวเล็กแต่นมโคตรใหญ่เลย" แล้วดูพูดเข้า ไอ้พี่บ้านี่ เมาแล้วขยันพูดแบบนี้ตลอดเลยหรือไงเล่า "เมาแล้วก็นอนเถอะ พูดจาเพ้อเจ้ออยู่ได้" ฉันว่าคนที่ลุกขึ้นมานั่งตรงปลายเตียงท่าทางโซเซไปมาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ด้วยน้ำเสียงขึงขังไม่พอใจเบาๆ ขยันพูดไม่พอยังขยันลุกขึ้นมานั่งอีก ตัวเองทรงตัวไม่อยู่ยังไม่เจียมตัวอีก คอยดูเถอะถ้าเอาหน้ากระแทกพื้นเมื่อไหร่ฉันจะยืนดูเฉยๆ "ขอบใจนะที่ไปรับฉันมา" จู่ๆ พี่พระพายที่นั่งเงียบอยู่ที่เดิมก็เปล่งเสียงขอบคุณฉันที่ไปรับเขากลับมาจากผับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสายตางัวเงียแต่เจือไปด้วยความเศร้าเล็กน้อยในแววตาคู่นั้น ทำเอาฉันที่เผลอสบตากับเขาถึงกับต้องเบือนสายตาไปทางอื่น ก่อนที่จะพรูลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วพูดถึงเรื่องที่จะต้องไปเข้าค่ายพรุ่งนี้แต่เขากลับไปเที่ยวผับบาร์จนเมาหัวราน้ำแบบนี้แทน คือรู้แหละว่ายังอกหักอยู่แต่ความรับผิดชอบมันก็ต้องมีไง "พี่ลืมหรือเปล่าว่าพรุ่งนี้ต้องเดินทางเช้าอะ แล้วนี่ไปดื่มหนักจนเมาแทบไม่ได้สติแบบนี้ พี่ยังสติดีอยู่หรือเปล่า" เอาจริงๆ เลยนะ พี่พระพายคือพี่วินัยหรือพี่ว้ากประจำคณะ ภาพลักษณ์ต้องดี ต้องเป็นแบบอย่างให้รุ่นน้องเคารพสิ แล้วนี่เล่นเมาแบบนี้ถ้าหากพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหวหรือไปถึงสายทำให้คนอื่นต้องรอ มันจะเสียชื่อกันหมด "บ่นว่ะ นี่เป็นน้องรหัสฉันหรือเป็นเมียฉันกันแน่ หืม?" ยังติดเล่นอีก เดี๋ยวเถอะ "เป็นน้องรหัสไง เป็นทำไมเมียพี่" ฉันตอบเสียงฉุนก่อนจะยกมือกอดอกตัวเองพร้อมกลอกตาด้วยความเหนื่อยหน่ายแทน แค่เป็นน้องรหัสก็รำคาญจะตายอยู่แล้วยังจะมาแทรกสถานะเมียให้อีก "หึ ไม่สนใจเป็นเมียฉันจริงดิ นี่ระดับหัวจ่ายเลยนะ กระเป๋าหนักมาก เลี้ยงดีด้วย เดี๋ยวเปิดกระเป๋าให้ดูเลยว่ามีบัตรกี่ใบ" พูดจบพี่พระพายก็จัดการล้วงหากระเป๋าสตางค์ในกางเกงตัวเองด้วยท่าทางโซซัดโซเซทันที ก่อนจะเปิดออกมาแล้วหยิบพวกบัตรเครดิตออกมานับให้ฉันดู "มีหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด มีเจ็ดใบ สนใจสักใบไหม" เขาถามฉันเสียงยานครางเหมือนเดิม พร้อมกับยื่นบัตรเครดิตหนึ่งใบให้ฉัน รอให้ฉันรับอยู่อย่างนั้น แต่ฉันเลือกที่จะไม่เล่นด้วยไง สุดท้ายเขาก็เลยเก็บบัตรใส่กระเป๋าเหมือนเดิมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า... "เงินซื้อเธอไม่ได้สินะ เงินฉันมันจ้างให้เธอมาเป็นเมียฉันไม่ได้สินะ" "..." ฉันนิ่ง สบตาที่แทบจะลืมตาไม่ขึ้นของพี่พระพายไปเงียบๆ และเขาเองก็กำลังสบตาของฉันอย่างเงียบๆ เช่นกัน เราต่างคนต่างมองตากันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ฉันไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ พี่พระพายถึงได้กล้าพูดแบบนั้นกับฉัน เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยล้อเล่นกับฉันแบบนี้เลยสักครั้ง เขายังเมาสินะ แอลกอฮอล์ในร่างกายคงเยอะมากถึงได้กล้าพูดจาต่างจากเมื่อตอนกลางวันขนาดนี้ "นอนลงไปเถอะ โซจะกลับแล้ว" ด้วยความที่ฉันเหนื่อยจะเล่นกับคนเมาอย่างพี่พระพายแล้ว สุดท้ายฉันก็เลยปล่อยมือที่ใช้กอดอกตัวเองลง ก่อนจะบอกพี่พระพายว่าจะกลับแล้วพร้อมหมุนตัวเตรียมจะขยับเท้าเดินออกจากห้อง แต่... หมับ! "ไม่กลับได้ไหม อยู่เป็นเพื่อนก่อน สร่างเมาแล้วเหงาอะ" ฉันก้มมองลงไปที่มือของตัวเองหลังจากที่ถูกพี่พระพายจับไว้ ก่อนจะละสายตามองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังทำหน้าออดอ้อนปนเศร้าไม่ให้ฉันกลับอย่างน่าเอ็นดู เหอะ นี่คงเป็นอีกมุมที่ฉันไม่เคยเห็นใช่ไหม ผู้ชายที่ภายนอกดูน่าเกรงขามเพราะตำแหน่งพี่ว้ากที่พ่วงท้าย ใบหน้านิ่งๆ เวลาเจอรุ่นน้องที่ทุกคนต่างต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหล่อเข้มมาก ทำอะไรก็ดูดีมีเสน่ห์ไปหมด แต่เวลาเมาแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคนขนาดนี้ น่าเหลือเชื่อชะมัด! "ขาดผู้หญิงแล้วเหงาขนาดนี้เลยเหรอ" ฉันถามติดตลก พลางมองใบหน้าที่เศร้าลงของพี่พระพายกำลังเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนด้วยความฉงนใจเล็กน้อย เพราะทันทีที่ฉันพูดแบบนั้นจบ แววตาที่ดูออดอ้อนเมื่อกี้ก็เศร้าลงอย่างน่าใจหาย "เปล่า มันเคว้งอะ" โห่ แล้วดูคำตอบสิ ทำไมฟังดูอ่อนไหวขนาดนั้นอะ เวลาเมานี่กลายเป็นคนอ่อนไหวขนาดนี้เลยเหรอ หรือว่าพี่พระพายจะเป็นซึมเศร้าอย่างที่พี่การ์ดคนนั้นบอกไว้จริงๆ? "พี่เป็นซึมเศร้าเหรอ?" "หึ อย่างฉันเนี่ยน่ะจะเป็นซึมเศร้า ตลกละ" มุมปากหล่อแสยะยิ้มขำขันออกมาพร้อมเบือนหน้าไปอีกทางทันทีที่ฉันสงสัยว่าเขาเป็นซึมเศร้า ก่อนจะหันคออ่อนตามประสาคนเมากลับมาจ้องมองฉันตาปรืออีกครั้ง จ้องตาของฉันนิ่งและเนิ่นนานนับนาทีอยู่อย่างนั้นจนฉันเริ่มใจไม่ดีขึ้นมา เพราะกลัวว่าไอ้คนเมาตรงหน้ามันจะหน้ามืดลุกขึ้นมาตะครุบฉันไปกินอะ "พี่จ้องหน้าโซแบบนั้นทำไม" "เปล่า ฉันแค่มองเพราะรู้สึกว่าเธอมีเสน่ห์ไม่เหมือนใครดี แปลกแต่กลับรู้สึกสบายใจ" "..." ฉันยืนเงียบ ทบทวนประโยคหลังสุดด้วยหัวใจที่รู้สึกตื่นเต้นและวูบวาบแปลกๆ อย่างไม่เข้าใจ ฉันไม่แน่ใจว่าความหมายของประโยคนั้นมันหมายความว่ายังไง แต่ประเด็นคือฉันต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่มายืนคิดทบทวนตามคำพูดของคนเมาแบบนี้ คนเมาก็คือคนเมา คนเมาที่สติไม่ครบสมบูรณ์ ที่พี่พระพายพูดเพราะเขาเมา เขาไม่ได้เอ่ยชื่นชมอะไรฉันเพราะจิตใต้สำนึกของเขาจริงๆ สักหน่อย เพราะฉะนั้นฉันควรเลิกสนใจได้แล้ว อีกอย่างคอยดูพรุ่งนี้สิสร่างเมาดีเมื่อไหร่ เดี๋ยวร่างเดิมก็กลับมา "พี่เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว นอนเถอะโซจะกลับแล้ว" หลังจากที่ฉันเลิกคิดและว้าวุ่นกับประโยคพวกนั้นของพี่พระพาย ฉันก็เลือกที่จะขอตัวกลับก่อน เพราะมันดึกมากแล้ว ไหนจะเช้าพรุ่งนี้ต้องเดินทางไกลอีก "อืม วันหลังถ้าโดนเรียกให้มารับฉันอีก เปลี่ยนชุดก่อนออกมาด้วยนะ...ชุดนี้มันดูโป๊ไป เห็นแล้วใจหวิวๆ" ขวับ! ฉันก้มมองชุดตัวเองทันทีที่พี่พระพายทักแบบนั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาของคนเมาที่กำลังมองร่างกายของฉันอีกครั้ง และใช่ค่ะ ฉันเจอกับใบหน้าแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์จากพี่พระพายที่กำลังมองตามร่างกายของฉันอย่างฉาบโฉย กรี๊ดดดด!!! ตุบ! ฉันเลยปรี๊ดแตกยกเท้ายันหน้าอกพี่พระพายจนล้มหงายตึงบนเตียงทันที ก่อนที่จะวิ่งหนีออกจากห้องในที่สุด! ไอ้บ้าเอ้ย กับน้องรหัสก็ไม่เว้น!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม