ร่างระหงในชุดเดรสสูทสีดำพอดีตัวอวดทรวดทรงส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาเน้นโชว์ผิวใสมากกว่า รองเท้าส้นสูงขนาดสี่นิ้วรับน้ำหนักของเธอที่ก้าวออกจากลิฟท์อย่างมั่นใจก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าประตูบานคู่สไตล์ฝรั่งเศษหน้าเพนท์เฮ้าส์หรูห้องหนึ่งที่เธอได้ทำการนัดหมายไว้
ติ่งต่อง ติ่งต่อง นิ้วเรียวยาวได้ยื่นไปกดออดหน้าห้องเพื่อบ่งบอกการมาของตัวเองพร้อมกับยืนรอเจ้าของห้องเปิดมันให้กับเธอ
“เข้ามา” เสียงเข้มดังขึ้นจากหน้าประตูโดยคนด้านในพูดผ่านจอมอนิเตอร์นั่นทำให้มือบางยื่นไปบิดประตูห้องเปิดออกและเดินเข้าไปด้านในด้วยตัวเอง
ภายในห้องโอ่อ่าหรูหรา เฟอร์นิเจอร์และโทนสีห้องถูกไล่เฉดตั้งแต่สีขาวไปที่เทาตามระดับความอ่อนไปเข้มจนถึงดำอย่างลงตัว ความหรูหราและยิ่งใหญ่นี้เธอไม่สงสัยเลยสักนิดในเมื่อคนที่เธอมาเข้าพบเป็นถึงศิลปินดังที่มีงานรัดตัวและค่าตัวสูงติดหนึ่งในสามมาตลอดช่วงเวลาหลายปีมานี้โดยไม่สามารถมีใครมาโค่นล้มเขาได้แม้กระทั่งช่วงนี้ที่มีข่าวออกมาว่าเขาอยู่ในช่วงงดรับงานและถยอยทำงานเก่าให้จบ แต่ทั้งความนิยมและชื่อเสียงของเขากลับไม่เคยลดลงเลยแต่ยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น
อย่างบริษัทเธอเป็นต้น
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชามีนมาจากบริษัทสกินเพอร์ค่ะ” หลังจากเดินตามโถงมาหยุดที่ชุดโซฟากลางโถงสูงพร้อมกับร่างสูงที่เธอเคยพบเห็นเขาตามหน้าทีวีและหนังสือมากมายจึงเอ่ยทักทายขึ้นตามมารยาท
“ชื่ออะไรนะ?” ร่างสูงเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามชื่อเธอออกไปอีกครั้งราวกับต้องการความแน่ใจ
“ดิฉันชื่อชามีนค่ะ” ชามีน ตอบออกไปอย่างไม่ได้คิดอะไร
“อ้อ ชามีน... นั่งก่อนสิ” เวย์ไทม์ ขานรับด้วยท่าทีสบาย ๆ
“ตามที่ดิฉันได้ติดต่อมาก่อนหน้านี้แล้ว วันนี้จึงเอาเอกสารสัญญาเพิ่มเติมมาให้คุณเวย์ได้อ่านตามความต้องการค่ะ”
ชามีนนั่งลงโซฟาพูดพร้อมกับวางแฟ้มในมือที่เป็นเอกสารสัญญาและข้อเสนอต่าง ๆ ให้กับคนตรงหน้าตามที่ผู้จัดการส่วนตัวของเขาได้แจ้งไว้
“เธออยากให้ฉันเซ็นสัญญาไหม” แต่เวย์ไทม์กลับไม่ได้มองเอกสารตรงหน้าเลยสักนิดพร้อมกับเอ่ยถามชามีนออกไปแทน
“ต้องอยากอยู่แล้วสิคะ” ชามีนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม อย่างแรกคือเขาเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ และเป็นไอดอลให้กับชายหนุ่มมากมาย การที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์กับผลิตภัณฑ์ตัวไหน สินค้าตัวนั้นก็ไม่พอขายเลยทีเดียว ซึ่งใคร ๆ ก็ต้องการตัวเขาเป็นเรื่องแน่นอน
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือตำแหน่งงานของเธอ หากเธอทำงานนี้สำคัญ หากเธอสามารถเอาเขาไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทได้ ตำแหน่งผู้จัดการแผนกก็จะเป็นของเธอตามสมควร
“เธอว่า ฉันหล่อไหม” แล้วอยู่ ๆ เวย์ไทม์ก็ถามคำถามหนึ่งออกมา คำถามที่ทำให้ชามีนถึงกับชะงักอย่างไม่อยากเชื่อในคำถามของเขาทันที
“ต้องถามอีกเหรอคะ” แต่เธอก็ดึงสติตัวเองกลับมาก่อนจะย้อนกลับไป อย่างเขาไม่เรียกหล่อหรอก แต่เรียกหล่อมากเลยแหละ ทั้งหุ่นที่สมส่วนและขาที่สูงยาว ผิวขาวเนียนจนผู้หญิงอย่างเธอเกือบอาย คิ้วเข้มหนาดูเจ้าชู้ ดวงตาคมเฉี่ยวดูล้ำลึกจนยากจะอ่านออก จมูกโด่งเป็นสันอย่างชัดเจน ริมฝีปากบางหยักได้รูป ใบหน้าเห็นสันคม
นี่เรียกว่าลูกรักพระเจ้ายังได้เลย
“แล้วเธอ ชอบคนหล่อไหม” แล้วเวย์ไทม์ก็ถามออกมาอีกครั้งพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างรอคำตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งจนเดาไม่ออกว่าเขาต้องการคำตอบแบบไหน
“เอ่อ ทุกคนก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว...”
“ไม่ ไม่ต้องอธิบายอะไร แค่ตอบมาคำเดียว ว่าชอบคนหล่อหรือไม่ก็พอ” ชามีนที่กำลังหาคำพูดที่ดูเป็นกลางที่สุดเพื่ออธิบายความคิดของเธอออกไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจคนตรงหน้า แต่ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบก็ถูกเขาแทรกขึ้นก่อน
“ก็ต้องชอบอยู่แล้วสิคะ” ชามีนที่นิ่งอึ้งไปสักพักสุดท้ายก็ตอบออกมาด้วยรอยยิ้มราวกับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรกับการที่คนจะชอบคนหล่อคนสวย แต่ก็อย่างที่เธอพูดไปก่อนหน้านี้ว่าทุกคนมีเสน่ห์และความดูดีต่างกัน อยู่ที่ใครจะชอบแบบไหนและมีบรรทัดฐานของตัวเอง
แต่ทั้งนี้เราก็ไม่ควรตัดสินใครว่าคนนั้นหล่อหรือไม่ สวยหรือเปล่า เพราะความคิดเราไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นหล่อของเธอเธอย่อมชอบมองก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่...
“หึ!! นั่นสินะ คำถามที่รู้คำตอบอยู่แล้วไม่น่าเสียเวลาถามมันออกมา...”
“ส่วนเรื่องงาน ถ้าหากเธออยากให้ฉันรับงานนี้ก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่เธอ แก้ผ้าขึ้นเตียงแล้วฉันจะพิจารณาให้”