เมื่อรถสปอร์ตหรูขับมาถึงประตูรั้วอัลลอยลายเถาวัลย์ดอกกุหลาบสีเทา ดอกกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่สูงประมาณห้าเมตร ขณะที่รั้วบ้านเป็นปูนสูงมีช่องกว้างที่มีเหล็กดัดสีเทาดอกกุหลาบเช่นประตูรั้ว ไม่ช้าประตูรั้วก็เปิดออก เผยให้เป็นบ้านหลังใหญ่บนเนื้อที่ห้าไร่ ตัวบ้านเนื้อที่ประมาณสองตารางวา อย่าเรียกว่าบ้านเลย เรียกว่าคฤหาสน์เสียดีกว่า บ้านหลังนี้มองดูแล้วเป็นสไตล์ นีโอ-เรอเนสซองส์ การออกแบบรูปทรงอาคารโดยได้รับแรงบันใจจากสถาปัตยกรรมอันเลื่องชื่อในฝรั่งเศส ด้วยการยุบย่ออดีตพระราชวังลูฟว์มาไว้ในพื้นที่ใช้สอยขนาดหนึ่งไร่สองตารางวา โดยมีทั้งหมด 4 ชั้น รวมถึงคอนเซปต์ของระเบียงชั้นบนที่คุณจะสามารถออกมาชื่นชมลานน้ำพุหน้าบ้าน ยังมีเขาวงกตสองฝั่งก่อนถึงลานน้ำพุ ต้นสนที่เรียงรายอยู่รั้วบ้าน ด้านหลังตัวบ้านยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่อีกประมาณหนึ่งไร่ ส่วนสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลังของบ้านด้วยเช่นกัน และมีสวนดอกไม้ตรงด้านหลังบ้านอีกด้วย
“นี่บ้านหรือวังเนี่ย” ดาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ตื่นตาตื่นใจกับคฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังในยุโรป บ้านของเธอเองใหญ่ก็จริงแต่ก็เทียบไม่ติดกับบ้านของเขาเลย
ไฟได้ยินในสิ่งที่เธอพูดแล้วเผยรอยยิ้มอย่างผ่อนคลาย
“วันหลังผมคงต้องพาคุณไปสวิสสักครั้งแล้วล่ะ บ้านหลังนี้ยังไม่ได้เสี้ยวของบ้านหลังนี้เลย” เขาบอกเธอเช่นนี้ แล้วเปิดประตูรถทั้งสองฝั่งของรถ พ่อบ้านวัยกลางคนก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้วัยยี่สิบต้นๆ
“ยินดีต้อนรับกลับครับ คุณไฟ” สันต์ พ่อบ้านพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“คุณไฟจะรับอะไรไหมคะ” แก้ว สาวใช้เอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นกัน
“ไม่” ไฟพูดกับพ่อบ้านและสาวใช้ของเขา แล้วไฟเองก็หันไปหาดาวที่ยืนใกล้ๆ เขา “เข้าบ้านกันเถอะ” ไฟพูดกับดาวด้วยรอยยิ้ม และจับมือเรียวของเธอก้าวเดินขึ้นบนตัวบ้าน ดาวเผยรอยยิ้มก้าวเดินตามมือเขาที่จูงมือเธอ
“กรณ์ ฉันไม่เคยเห็นนายพาผู้หญิงเข้าบ้านเลย” สันต์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และสงสัยในการกระทำของไฟที่ไม่เคยพาผู้หญิงเข้ามาในบ้าน นอกจากนี้เขาเองก็ไม่เคยเห็นไฟยิ้มให้ใครอีกเลยมีแต่ใบหน้าเย็นชาดุจหิมะในฤดูเหมันต์เพียงเท่านั้น
แม้จะทำงานที่นี่มานาน พวกเขาไม่เคยเห็นไฟพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้ อย่างน้อยก็ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ทำให้แววตาของไฟเปลี่ยนไป...ตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่ของเขาจากไปตลอดกาล