ทดลองทำสบู่

1190 คำ
อวี่หรันให้เสี่ยวตงไปดูว่าต้องใช้เงินมากเพียงใดกับการลงทุนในครั้งนี้ ในตอนแรกเสี่ยวตงคิดว่าเขาจะทำอยู่ที่เรือนของเขาก่อน เมื่อได้จำนวนที่มากขึ้น เขาค่อยไปเปิดร้านในเมือง แต่อวี่หรันบอกเขาว่าให้เขาทำเพียงตัวอย่างขึ้นมา สองสามชิ้น แล้วเปิดร้านเลย ทำเช่นนี้เขาจะไม่ต้องใช้เวลานาน อีกอย่างหากมีคนต้องการจริง เขาก็เพียงเก็บมัดจำไว้ แล้วนัดวันมาเอาในภายหลัง เสี่ยวตงเมื่อได้ฟังคำแนะนำของอวี่หรันก็เหมือนกับเห็นแสงสว่าง เขารีบชวนสหายขึ้นไปตัดไม้บนเขาทันที เพื่อนำมาทำตามแบบที่อวี่หรันนางวาดเพิ่มให้เขาอีกสองสามแบบ พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้ให้เขาเข้าใจอีกด้วย นางเพียงแค่เลี้ยงหยุนซีทั้งวันนางก็เหนื่อยแทบขาดใจแล้ว หลังจากที่ออกไฟมา นางก็จัดการซักผ้าอ้อมของหยุนซีด้วยตนเอง ผ่านมาเกือบสองเดือน หยุนซีก็เนื้อตัวอวบอุ่นขึ้น เพราะเขากินนมเก่งนัก จนตอนนี้อวี่หรันนางผอมลงมามีรูปร่างเท่าเดิมเมื่อภพก่อนแล้ว นางต้องซักผ้าอ้อมของหยุนซีทุกวัน นางก็เริ่มรู้สึกว่าการซักผ้าอ้อมด้วยฝักเจ้าเจี่ยว (ฝักของต้นตั๊กแตนไว้สำหรับซักผ้าหรือล้างจาน) มันดูไม่น่าจะสะอาดเสียเลย “พี่ตง ท่านหาปูนขาวให้ข้าได้หรือไม่” อวี่หรันถามเสี่ยวตง เมื่อเขามาหานางที่เรือนเช่นทุกวัน “ได้ เจ้าจะเอาไปทำอันใด” “ท่านยังไม่ต้องรู้หรอกเจ้าค่ะ เพียงหามาให้ข้าก็พอ” อวี่หรันนางยังไม่รู้เลยว่านางจะทำสำเร็จหรือไม่ เพียงแต่เคยดูตามโซเซียลผ่านตามาเท่านั้น นางยังฝากซื้อน้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันงามาอีกหลายไห เผื่อทำครั้งแรกแล้วเสียหายอย่างน้อยก็มีไว้สำรองให้ทำครั้งต่อไป “ท่าทำกล่องไม้ให้ข้าด้วยเจ้าค่ะ” อวี่หรันนางบอกขนาดที่นางต้องการให้เสี่ยวตงทำออกมาให้นางอีกหลายใบ สองวันต่อมาเสี่ยวตงก็หาปูนขาวที่นางต้องการมาให้พร้อมทั้งของทุกอย่างที่นางฝากซื้อมาจนครบ “ท่านอย่าเพิ่งไป” อวี่หรันนางไม่อาจลงมือทำได้เอง เพราะนางไม่รู้วิธีจุดเตาไฟ แล้วก็ไม่อาจทิ้งหยุนซีไว้เพียงลำพังได้ ยังดีที่ป้าฉีนางรู้มาจากเสี่ยวตงว่าอวี่หรันนางจะทำของ จึงได้มาช่วยดูหยุนซีแทนนาง อวี่หรันนางจึงเข้าไปช่วยบอกวิธีทำอยู่ข้างๆ เสี่ยวตง ในตอนแรกที่นางให้เขาต้มปูนขาวทำออกมาได้เป็นที่น่าพอใจ แต่เมื่อจะนำมาทำน้ำด่าง เพื่อจะเตรียมทำสบู่กับกลายเป็นว่าปริมาณโซดาไฟที่นางนำมาละลายมากเกินไปจึงทำให้ใช้ไม่ได้ เมื่อนำมาล้างมือจำนวนโซดาไฟที่มากเกินไปทำให้เกิดการแสบร้อนขึ้นมา อวี่หรันนางต้องคำนวณอยู่หลายวันกว่าจะทำสบู่ออกมาได้สำเร็จ แต่ก็ต้องรออีกเกือบห้าวันที่จะนำมาใช้ได้ ห้าวันต่อมา สบู่ที่นางทำขึ้นก็สามารถนำออกมาใช้ได้ อวี่หรันนางจึงแบ่งไปให้ป้าฉีเพื่อใช้อาบน้ำและใช้ซักผ้าด้วย “อาหรัน เจ้าทำได้อย่างไร” ป้าฉีเมื่อได้ลองใช้ก็อดจะชื่นชมออกมาไม่ได้ “กว่าข้าจะทำได้ ท่านก็เห็นว่าใช้ของไปมากเพียงใด” นางไม่ได้เก่งอย่างที่ป้าฉีคิด เพียงแต่นางเบื่อจะใช้เจ้าเจี่ยวแล้ว จึงได้เกิดความพยายามขึ้น “สบู่ของเจ้านำออกไปขายรับรองว่าขายดีแน่นอน” “เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถิดเจ้าค่ะ” เสี่ยวตงก็กำลังหาร้านค้าเพื่อนำเครื่องเรือนทั้งของใช้สำหรับเด็กไปวางขาย นางก็จะไม่มีคนช่วยทำงานอีก “แล้วพี่ตงได้ร้านหรือยังเจ้าคะ” “มีที่ชอบแล้ว แต่ราคาก็สูงมากนัก” ป้าฉีถอนหายใจออกมา เพราะบุตรชายของนางเข้าไปในเมืองเพื่อหาร้านค้าอยู่หลายวันแล้ว “ราคาเท่าใดเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เพราะนางเป็นผู้ลงทุน พวกเขาไม่น่าจะคิดมากถึงเพียงนี้ “สามร้อยตำลึงทอง” “แพงถึงเพียงนี้เชี่ยว” อวี่หรันเริ่มเข้าใจค่าเงินของในยุคนี้แล้ว ต่อให้นางมีเงินในมือมาก แต่ที่ป้าฉีพูดมาก็แทบจะเป็นเงินทั้งหมดที่นางมีอยู่ในตอนนี้ “เช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าฝากซีซีกับท่านด้วย ข้าจะเข้าไปในเมืองเพื่อดูร้านที่พี่ตงเขาว่าเจ้าค่ะ” อวี่หรันนางคิดว่านางไปดูด้วยตนเองจะดีกว่า อย่างไรเรื่องธุรกิจนางก็เรียนรู้มาจากคุณพ่อของนางที่ภพก่อนอยู่หลายปี การมองทำเลร้านค้าสายตาของนางไม่พลาดอย่างแน่นอน “ได้ๆ เรื่องแค่นี้ ซีซีก็เหมือนหลานชายของข้า” อวี่หรันจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ป้าฉีพูดได้อย่างไร หากเจ้าของร่างเดิมไม่มีบุตรติดท้องมา นางก็คงได้บุตรชายของนางแต่งกับเจ้าของร่างเดิมไปนานแล้ว ยิ่งมาตอนนี้เมื่อรู้ว่าอวี่หรันนางเก่งเรื่องการค้า นางก็ยิ่งไม่นึกรังเกียจถึงจะเป็นหม้ายมีลูกติด อวี่หรันกลับเข้าไปในห้อง เพื่อดูหีบที่ใส่ทรัพย์สินของเจ้าของร่างเดิมว่ามีสิ่งใดที่นำไปขายหรือจำนำได้บ้าง นางค้นใต้หีบพบหยกพกสีดำเนื้อดี จึงคิดว่าคงมีราคามากที่สุดในบรรดาเครื่องประดับที่ติดตัวของเจ้าของร่างเดิมมาแล้ว อวี่หรันจึงเก็บใส่ไว้ในถุงเงิน เพื่อพรุ่งนี้นางจะลองเอาไปประเมินราคาดู แต่หากไม่ได้ราคาที่ดีจริง นางก็จะใช้ตั๋วเงินที่มีอยู่ในมือไปก่อน ถึงอย่างไร เมื่อขายสินค้าได้ นางก็ต้องมีเงินเพิ่มขึ้นมาอยู่ดี อวี่หรันไม่เผื่อใจว่าจะขายไม่ได้ การเลี้ยงเด็กเหนื่อยมากนัก หากมีเครื่องทุ่นแรงใครบ้างไม่อยากจะซื้อ เสี่ยวตงเมื่อรู้จากมารดาว่าอวี่หรันนางจะเข้าเมืองไปพร้อมเขาในวันพรุ่งนี้ก็มาบอกนางว่าเขาจะมารับนางในยามเฉิน (07.00-08.59น.) “เช้าเพียงนี้เลยหรือเจ้าคะ” เป็นเวลาที่นางเพิ่งจะจัดการกับบุตรชายเสร็จ นางจึงอดจะบ่นออกมาไม่ได้ หากออกตามเวลาที่เสี่ยวตงบอก นางก็ต้องตื่นให้ไวขึ้น เพื่อมาจัดการกับบุตรชายของนางก่อนจะพาไปฝากให้ป้าฉีเลี้ยงดู “ไม่เช้าแล้ว เดินทางด้วยเกวียนวัวเข้าเมืองก็ต้องเสียเวลาถึงหนึ่งชั่วยาม กว่าจะพาเจ้าเดินดูร้านแล้วทำการซื้ออีก เช่นนั้นเจ้าจะถึงเรือนตอนใด” “เจ้าค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม