ตอนที่สี่

1751 คำ
ไลฟ์สดในตำนาน หลังจากที่เจ้าพ่อทัพนั่งสมาธิเสร็จแล้วหันกลับมา คนที่อยู่ชานเรือนก็นั่งกันหน้าสลอน เพราะนั่งอยู่บริเวณที่ยกสูง เขาจึงมองเห็นหน้าลูกศิษย์ได้ครบ พอกวาดตามองแล้วเขาก็สะดุดกับดวงตาสองสามคู่ที่ไม่ค่อยน่าวางใจ ในยามปกติพ่อหมอหนุ่มจะสัมผัสได้จากการสบตาว่าใครมาด้วยความเสน่หา หรือใครมาด้วยความท้าทาย แต่ลูกศิษย์คิวหมายเลขแปดนั้นกลับดูแตกต่างจากคนอื่น กับหญิงสาวคนนี้เขาเคยเจอกันผ่าน ๆ ทว่ามองลึกไปในตาแล้วกลับรู้สึกเหมือนไม่เคยพบเจอ แล้วทัพก็นึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีฝาแฝดที่ไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก คนตรงหน้าที่เขาไม่คุ้นก็คงเป็นแฝดคนที่ว่านั่นเอง ดวงตาดุคมจดจ้องไปยังดวงหน้าสวยเฉี่ยวโดดเด่นอีกครั้ง แล้วก็สัมผัสได้ว่าเธอซุกซ่อนบางอย่างไว้ในใจ บางอย่างที่ว่านั้นดูไม่สัตย์ซื่อ เมื่อเห็นสายตาเหมือนค้นคว้าของเขาแล้วเธอก็หลุบตาลง คล้ายไม่กล้าสบตาให้เขาเห็นว่ากำลังคิดอะไร หึ หลบได้หลบไป ถึงจะหลบตาในตอนนี้ สุดท้ายทัพก็จะได้รับรู้เมื่อคิวของเจ้าตัวมาถึง ไพลินที่ยังไม่รู้ตัวว่าได้รับความสนใจจากพ่อหมอกวาดตามองไหปลาร้าลาดลงมายังทรวงอกหนั่นแน่น กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นลายชัด รอยสักบนแผงอกที่มีไม่มากไม่น้อยทำให้คนที่ไม่นิยมคนมีรอยสักอย่างไพลินคิดว่าเข้ากับเขาดี พอมองกลับขึ้นมาถึงลำคอแกร่งที่รับกับรูปหน้าหล่อเหลา เห็นลูกกระเดือกที่ขยับแล้วเธอก็ดันคิดซุกซนว่าลำคอยังขนาดนี้ แล้วส่วนอื่นที่มองไม่เห็นคงเซ็กซี่น่าดู ดวงตาคู่สวยกวาดมองมาเห็นว่าแววตาที่น่าเกรงขามของพ่อหมอทัพกำลังมองมา เธอเลยรีบหลบตาเพราะกลัวอีกฝ่ายรู้ว่ากำลังคิดเลยเถิด จนเมื่ออมตะผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยเดินมานั่งประจำตำแหน่งมือขวาของเจ้าพ่อทัพความสนใจของทุกคนจึงหันเหไปที่เขาแทน "เอาล่ะทุกคน วันนี้ผมขอนำกราบไหว้ในวันเปิดตำหนักของพ่อหมอทัพบ้านดงชมพู หนึ่งเดือนจะมีหนึ่งครั้ง ลูกศิษย์ห้าสิบคิวแรกที่มาถึงตำหนักจะได้มาบูชาของขลังจากมือพ่อหมอ ส่วนลูกศิษย์ในช่องทางออนไลน์เริ่มชมผ่านไลฟ์สดแล้วกดสั่งวัตถุมงคลในระบบตะกร้าสินค้ากันได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย" ไพลินได้ยินมาว่าในส่วนของวัตถุมงคลที่วางขายออนไลน์พร้อมกับไลฟ์สดนั้นจะเน้นเป็นพวกกำไลมหาเสน่ห์ ดาบตัดกรรม สีผึ้งมงคล ส่วนของขลังอย่างน้ำมันพรายนั้นมีจำนวนจำกัด ลูกศิษย์หนึ่งคนบูชาได้หนึ่งชิ้น แล้วต้องมาบูชาที่ตำหนักเท่านั้น เพราะพ่อหมอทัพจะตรวจชะตาก่อนจะให้ลูกค้าบูชา ความตื่นเต้นของเธอเริ่มมีมากขึ้น เพราะหลังจากที่อมตะนำสวดเสร็จ ลูกศิษย์รายแรกที่มาขอบูชาน้ำมันพราย ทัพกำลังถามลูกศิษย์คนนั้นว่าคนที่จะเอาน้ำมันพรายไปป้ายนั้นยังโสดหรือไม่ "เขาบอกว่าเขาแยกทางกับเมียแล้ว กำลังดำเนินเรื่องหย่าจ้ะ" "คนที่มึงจะเอาน้ำมันพรายไปแต้มไม่เหมาะกับมึง มึงควรตัดมันออกจากชีวิต ไม่ใช่ไปดึงมันเข้ามา ไปคิดทบทวนให้ดีก่อน คิวต่อไปมาได้" เสียงทุ้มของพ่อหมอทัพเอ่ยแบบไม่แคร์ ลูกค้าคิวแรกเลยต้องกลับบ้านมือเปล่า ลูกศิษย์คิวที่สองซึ่งมาพร้อมกับคนแรกก็ถูกพ่อหมอทัพปฏิเสธเช่นกัน "อีคนนี้ริอ่านจะโกหกกู มึงจะเอาไปป้ายคนที่มีเมียแล้ว มึงไปสำนึกตัวให้ได้ก่อน คิดได้แล้วค่อยมาบูชา ใครบูชาของกูไปแล้วทำตัวชั่ว ผิดศีล ไร้ความดี ไร้เมตตา มึงไม่ต้องบูชาให้เสียเงิน เพราะของมงคลจะกลายเป็นอัปมงคลตามจิตใจของมึง" ลูกค้าคิวต่อมาเน้นบูชากำไลและกระปุกใส่เงินเรียกทรัพย์ที่ทัพปลุกเสกให้กับพวกพ่อค้าแม่ขาย ทัพจึงเจิมหน้าผากให้แล้วบอกให้ค้าขายด้วยความซื่อสัตย์แล้วจะมั่งคั่งร่ำรวย ไพลินได้ยินคนที่เข้าคิวด้านหลังแอบกระซิบกันว่า ปกติลูกศิษย์ตำหนักนาคมงคลก็รู้กันอยู่แล้วว่าเจ้าพ่อทัพเป็นพ่อหมอสายขาว คนที่มารู้อยู่แล้วว่าจะได้บูชาของขลังที่มีพุทธคุณต้องทำคุณงามความดีของขลังถึงจะทำงาน แต่ทำไมวันนี้เขาถึงพูดย้ำหลายรอบว่าห้ามบูชาของขลังไปทำความชั่ว ไพลินได้ฟังก็ยักไหล่ เธอไม่ได้คิดจะบูชาของขลังไปก่อกรรมทำเข็ญอะไรสักหน่อย เมื่อถึงคิวของเธอ หญิงสาวก็รู้สึกครั่นคร้ามเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจ้าพ่อทัพ แล้วเขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า ดวงตาคู่คมจดจ้องมานั้นทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ แต่มันก็เป็นเพียงครู่เดียว ไพลินเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง ขนาดดาราดังระดับโลก หรือนักเตะสโมสรดังที่มากินข้าวร้านอาหารไทยของป้า เธอก็เคยเผชิญหน้ามาแล้ว กับหมอผีที่น่าเกรงขามกว่าทุกคนบนโลกที่เคยเจอมา เธอรับมือไหวแหละ "วันนี้มึงมาทำอะไร" "ฉันอยากได้น้ำมันพราย และของขลังเพิ่มเสน่ห์จ้ะ" ไพลินยิ้มสู้เมื่อโดนถาม พ่อหมอตั้งใจมองหญิงสาวมากเป็นพิเศษ จนลืมสังเกตว่าอมตะส่งสัญญาณบางอย่างให้เห็น อีกทั้งหญิงสาวพูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะถาม ความสนใจของพ่อหมอจึงอยู่กับคนตรงหน้ามากกว่ามือขวาของตน "คนที่ฉันอยากได้เป็นผัว เป็นคนดี และยังโสดจ้ะ" "มึงมีความมั่นใจดี" พ่อหมอพยักหน้ารับคำขอของไพลินแม้จะยังคลางแคลงใจว่าแววตาไม่ซื่อที่เขาสัมผัสได้ในตอนแรกนั้นทำไมช่างแตกต่างจากแววตากระจ่างใสที่มองส่องไปแล้วเห็นถึงก้นบึ้งว่าไร้พิษภัย นัยน์ตาของหญิงสาวกระจ่างแวววาวราวกับลูกแก้วมณีนาคา ป้อมปราการที่เขามักจะมีเมื่อเจอคนที่ควรหลีกหนีนั้นก็ไม่ปรากฏ ตรวจวันตกฟากและวันจรของไพลินแล้ว เขาก็ยังไม่เห็นภัย พ่อหมอหนุ่มมองข้ามเสียงกระแอมไอของอมตะแล้วหยิบน้ำมันพรายไว้บนถาดเล็กตรงหน้าเจ้าตัว นอกนั้นเขาก็ยังใจดีหยิบไอเทมลับอย่างปลัดขิกไม้เนื้อแข็งออกมาตั้งตรงหน้าลูกศิษย์ผู้ที่เขาเห็นสมควรว่าเหมาะแก่การมีคู่ครอง เขามั่นใจว่าเธอจะไม่ใช้ของขลังของเขาไปสร้างเวรสร้างกรรมกับใคร มือหนาวางของขลังลงตรงพานบูชาที่กำหนดไว้ว่าลูกศิษย์จะต้องวางเงินตามกำลังศรัทธา พ่อหมอผู้เคยเห็นแค่แบงก์สีเทาปึกใหญ่ในพานที่ลูกศิษย์จัดมาบูชาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเหรียญบาทเก้าสิบเก้าเหรียญจากไพลิน อีนี่มันล้อเล่นกับระบบชัด ๆ ! "มา กูจะเจิมหน้าผากให้" พ่อหมอทัพกระตือรือร้นที่จะสำแดงเดชให้ผู้หญิงหน้าสวยที่ไม่ค่อยศรัทธาในตัวเขาเท่าไหร่ได้รู้ซึ้งว่าเขามันตัวจริงเรื่องของขลัง นอกจากจะเจิมหน้าผากและเป่ามนตร์คาถาเมตตามหานิยมแล้วเขายังร่ายคาถาพิเศษให้เจ้าตัวสมปรารถนาในเร็ววัน "ของขลังเหล่านี้มึงพกติดตัวอย่าให้ห่าง สวดมนต์ตามหนังสือสวดทุกคืน แล้วก็ไปป้ายน้ำมันพรายใส่คนที่มึงอยากได้เป็นผัว" "จ้ะพ่อหมอ" ไพลินนำกำไลมาคล้องแขน ยัดปลัดขิกใส่ในกระเป๋าสตางค์ มือเรียวงามหยิบน้ำมันพรายเป็นอย่างสุดท้าย แต่แทนที่จะถอยออกไปเมื่อได้ของที่ต้องการครบ ไพลินแกะฝาจุกขวดน้ำมันพรายแล้วก็สาดพรวดไปตรงตำแหน่งที่พ่อหมอทัพนั่งอยู่ น้ำมันสีส้มอมเหลืองกระฉูดจากฝาขวดลอยไปหยุดที่ใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะไหลย้อยลงอาบไล้ทั่วตัวของพ่อหมอ ท่ามกลางเสียงโวยวายของลูกศิษย์คิวหลังโดยเฉพาะศัตรูตัวฉกาจที่อยู่คิวท้าย ๆ ซึ่งโวยวายด่าทอดังเข้าหูว่าเธอทำเรื่องเลวร้ายและจะไม่ตายดีแต่เสียงเหล่านั้นกลับกลายเป็นเสียงแมลงหวี่แมลงวันเมื่อได้สบตากับทัพ อยู่ ๆ หูของเธอก็อื้อ ท่ามกลางความเงียบงันไร้สรรพเสียง เธอได้ยินเสียงของทัพก้องกังวานอยู่รอบตัวเธอ กูให้มึงเอาน้ำมันพรายไปป้ายคนที่มึงอยากได้เป็นผัว ไม่ใช่เอามาสาดกู!!! ไม่เพียงแต่จะรู้สึกว่าเสียงของเขาดังปรกติ เธอได้ยินเสียงนั้นสะท้อนในหัวราวกับเขาพูดกับเธอซ้ำ ๆ "ก็คนที่ฉันอยากได้เป็นผัวคือพ่อหมอนี่จ๊ะ" ไพลินตอบกลับแบบไม่สะทกสะท้านอะไร... คำพูดนี้ออกมาจากความรู้สึกอย่างจริงใจที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกศิษย์ในตำหนักที่เป็นพยานรับรู้ แต่คนที่ดูไลฟ์สดเกือบหมื่นคนต่างก็เป็นพยานในการลองของของไพลิน แน่นอนว่ามีการแชร์และพูดถึงอย่างเป็นวงกว้าง เพราะตำหนักพ่อหมอทัพมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์มาพักใหญ่แล้ว อาทิตย์ก่อนทีมผู้จัดละคร นักแสดงชื่อดังแวะมาทอดกฐินที่วัดดงชมพูก็ยังแวะมาเจิมหน้าผากและบูชาของขลังเลยทำให้ตำหนักนี้มีแสงส่องมาถึงแม้จะอยู่บ้านนอกคอกนา และเหตุการณ์ไลฟ์สดในตำนานครั้งนี้ก็เป็นเหมือนการเปิดสปอตไลต์ส่องมาที่ตำหนักแห่งนี้เต็ม ๆ ชาวโซเชียล และสื่อหลายสำนัก รวมทั้งชาวบ้านชาวช่องทั้งใกล้ไกล ต่างก็ติดตามข่าวกันแบบตาไม่กะพริบว่าตำนานบทนี้จะถูกเขียนว่าอย่างไร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม