เจ้าบ่าวไม่เข้าห้องหอ

1216 คำ
ซุนเหยาไม่รู้ว่าเธอนอนไปนานเพียงใด ในตอนนี้เธอกำลังมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย ตอนที่เธอหมดสติไปภาพเหตุการณ์ต่างๆ ไหลเข้าสมองราวกับภาพฝัน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เธอข้ามมิติมาอย่างที่เคยอ่านพบในนิยาย จ้าวซุนเหยา บุตรสาวของเสนาบดีจ้าว บิดาของนางทำงานให้กรมการคลัง มารดาของนาง เกาจิงถิง เป็นสหายสนิทกับหลีซื่อแม่สามีของนาง จึงทำให้นางแต่งเข้าตระกูลซู เพราะร่างกายของจ้าวซุนเหยานางอ่อนแอ จึงทำให้นางสิ้นใจตอนที่เกี้ยวไปรับเจ้าสาวเดินทางออกจากจวนตระกูลจ้าวได้เพียงหนึ่งเค่อ (15นาที) เท่านั้น “สวรรค์ ท่านกลั่นแกล้งฉันเกินไปแล้ว ชีวิตฉันกำลังไปได้ดี ทำไมเรื่องบ้าๆ ถึงได้เกิดกับฉัน” ซุนเหยานางพึมพำต่อว่าสวรรค์อยู่บนที่นอน โดยไม่รู้เลยว่าซูเซวียนได้ยินว่านางหมดสติจึงคิดจะเข้ามาดูนาง จึงได้ยินสิ่งที่นางพูด “หึ ท่านแม่คงเข้าใจผิดที่คิดว่าเจ้าพึงพอใจต่อข้ามาตั้งแต่เยาว์ การที่เจ้าต้องแต่งเข้าจวนตระกูลซูเป็นความผิดที่สวรรค์กลั่นแกล้งเจ้า เช่นนั้นข้าช่วยให้เจ้าได้สมหวัง” ซุนเหยาลุกขึ้นนั่ง เมื่อได้ยินเสียงของคนที่เป็นสามีของเธอ ยืนพูดอยู่หน้าประตู เธอคิดว่าเขาจะเดินเข้ามาด้านในแต่ไม่ใช่ เขาไม่ได้เข้ามาอย่างที่เธอคิด เธอจนล้มตัวลงนอนต่อ เพราะความทรงจำที่ไหลเข้าสมองของเธอ ยังทำให้สมองของเธอมึนงงไม่หาย ซูเซวียนใบหน้าเคร่งเครียด เป็นเขาในตอนแรกที่พูดไม่ดีกับนาง จึงคิดว่าตนเองมีส่วนทำให้นางเป็นลมหมดสติไป แต่พอได้ยินคำตัดพ้อของนางเขาก็เกิดโทสะขึ้นมา ถึงแม้จะรู้ว่าเรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องที่บิดามารดาต้องจัดการให้ แต่บุรุษเช่นเขาที่เลือกทางเดินด้วยตนเองมาตั้งแต่เล็ก ย่อมไม่พอใจที่ต้องแต่งให้จ้าวซุนเหยา ซูเซวียนเดินเข้าไปในห้องตำรา เขาเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้จ้าวซุนเหยา พร้อมทั้งฝากพ่อบ้านไปให้นาง หลังจากที่เขาเดินทางไปชายแดนเหนือแล้ว คืนนั้นซูเซวียนไม่ได้กลับมาที่ห้องหอ ซุนเหยานางก็ไม่คิดที่จะอยู่รอ เมื่อทานอาหารเสร็จนางก็ดับเทียนเข้านอนทันที หลีซื่อเมื่อรู้ว่าบุตรชายเดินทางออกไปที่ชายแดนเหนือแล้ว ก็ถึงกลับเป็นลมหมดสติไป รุ่งเช้านางจึงรีบมาพบซุนเหยานางที่เรือนเพื่อจะปลอบใจนาง “เหยาเออร์” นางเอ่ยเรียกลูกสะใภ้ เมื่อเข้าประตูเรือนมา ซุนเหยานางหันไปมองก็เห็นเป็นสตรีวัยกลางคน รูปร่างอวบอิ่มในหน้าดูกังวล เมื่อเดินเข้ามาหานาง “เจ้าคะ” นางคิดตกแล้ว เรื่องที่หลุดเข้ามาในมิติโบราณ จากความทรงจำเดิมของเจ้าของร่าง ช่วยนางได้มากทีเดียว ทั้งภาษา ตัวอักษรหรือศาสตร์ศิลป์ที่จ้าวซุนเหยาร่ำเรียนมาทั้งหมด “ตระกูลซูทำให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมแล้ว” หลีซื่อดึงมือของซุนเหยามาบีบไว้ นางจึงได้รู้ว่าแม่สามีของนาง รักนางจากใจจริง ซุนเหยาจึงยิ้มออกมาเพื่อให้นางคลายความกังวลลง ดีเสียอีกที่เมื่อคืนนางไม่ต้องเข้าห้องหอ สามีของนางเป็นคนเช่นไรนางก็ไม่รู้ จากน้ำเสียงดูท่าจะไม่ค่อยพอใจกับการแต่งงานครั้งนี้เสียเท่าไหร่ หลีซื่อพูดคุยกับซุนเหยาอยู่นาน เมื่อเห็นว่าซุนเหยานางไม่ได้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ จึงวางใจกลับเรือนของตนไป ไม่นาน พ่อบ้านซูก็เดินเข้ามาพบซุนเหยา สายตาของเขาอดที่จะมองนางอย่างเห็นใจไม่ได้ “ฮูหยิน ท่านแม่ทัพซูฝากจดหมายไว้ให้ท่านขอรับ” ซุนเหยาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ นางยิ้มให้พ่อบ้านซูก่อนจะรับจดหมายมาถือไว้ในมือ “ขอบคุณเจ้าค่ะ” “มิได้ขอรับ เป็นหน้าที่ของข้าน้อย” พ่อบ้านซูสะดุ้งตกใจ ที่ได้ยินคำขอบคุณของซุนเหยา เมื่อพ่อบ้านซูออกไปจากห้องแล้ว ซุนเหยาก็เปิดจดหมายออกดู นางขมวดคิ้วคิดอย่างไม่เข้าใจ เพราะสิ่งที่พ่อบ้านส่งมาให้นางมีเพียงหนังสือหย่าที่ซูเซวียนทิ้งไว้ให้นาง เมื่อนางอ่านจบก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว นอกจากสินเดิมที่นางนำติดตัวมาแล้ว ซูเซวียนยังยกทรัพย์สินในส่วนของเขาให้นางอีกครึ่งหนึ่งด้วย ซุนเหยาจึงได้เร่งฝีเท้าออกจากเรือน เพื่อตามพ่อบ้านซูไป นางจะให้เขาส่งทรัพย์สินส่วนที่นางต้องได้มาให้ที่เรือน จะได้ขนออกไปทีเดียวเมื่อต้องออกจากจวนตระกูลซู พ่อบ้านซูเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของซุนเหยาก็หยุดฝีเท้าลง “ฮูหยินมีเรื่องอันใดให้ข้าน้อยรับใช้ขอรับ” ซุนเหยานางเกาแก้มอย่างเขินอาย แม้ภพก่อนของนางจะมีสาวใช้อยู่ที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้ต้องก้มหัว พูดจานอบน้อมเช่นนี้กับนาง นางจึงทำตัวไม่ถูก นางจึงยื่นหนังสือหย่าของนางให้พ่อบ้านซู เพื่อให้เขาได้อ่านสิ่งที่เขียนไว้ “ฮูหยิน ท่านอย่าเพิ่งเสียใจขอรับ ประเดี๋ยวข้าน้อยจะไปพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าเสียก่อนขอรับ” ซุนเหยาเอ่ยรั้งพ่อบ้านซูไว้ไม่ทัน เมื่อเขาเหมือนจะรีบวิ่งไปที่เรือนของหลีซื่อ นางจำต้องเดินตามไป เพราะกลัวว่านางจะอดได้สมบัติของซูเซวียน หลีซื่อเมื่อเห็นหนังสือหย่าในมือของพ่อบ้าน นางก็เกือบจะหงายหลังล้มไปกองกับพื้น ยังดีที่ซุนเหยานางมือไว คว้าตัวหลีซื่อไว้ได้ทัน “ท่านแม่” นางเอ่ยเรียกเพื่อให้หลีซื่อมีสติ “โอ๊ยข้าทำเวรทำกรรมอันใดไว้ อาเซวียนจึงได้ทำเช่นนี้” หลีซื่อทุบอกตนเองอย่างปวดใจ “ท่านแม่ ท่านอย่าได้ทำให้ตนเองเจ็บตัวเจ้าค่ะ ไว้เมื่อบุตรชายของท่านกลับมาท่านค่อยทุบตีเขาก็ยังไม่สาย” ซุนเหยานางกระซิบบอก คนที่สมควรต้องเจ็บตัว ไม่ใช่แม่สามีนางเสียหน่อย จะตีก็ต้องตีบุตรชายตนเองอย่างที่นางบอกต่างหาก หลีซื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย นางมองลูกสะใภ้อย่างเห็นใจ หากเรื่องนี้หลุดออกจากตระกูลซูไป ไม่รู้ว่าตระกูลจ้าวจะมีโทสะมากเพียงใด หลีซื่อมองหน้าพ่อบ้านซู เขาก็รู้ทันทีว่าต้องจัดการเรื่องนี้เช่นไร พ่อบ้านซูหมุนตัวออกจากห้องโถง ซุนเหยานางรีบร้องเรียกไว้ก่อน “ท่านพ่อบ้าน ประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” “ฮูหยินมีเรื่องใดจะสั่งข้าน้อยขอรับ” “ตามที่จดหมายหย่าระบุไว้ ข้าต้องได้สมบัติส่วนตัวของท่านแม่ทัพ รบกวนท่านนำไปให้ข้าที่เรือนได้หรือไม่เจ้าคะ” “อาเหยา/ฮูหยิน” หลีซื่อกับพ่อบ้านร้องออกมาอย่างตกใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม