ณ โรงพยาบาล
“อาการของคุณแอนนาเบลล์ค่อนข้างสาหัส ตอนนี้เราเพิ่งผ่าตัดช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าเธอพ้นขีดอันตรายหรือยัง เพราะนอกจากบาดแผลที่ถูกยิงบริเวณหัวไหล่แล้ว เธอถูกรถชนด้วยส่งผลให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน ท่อนขาทั้งสองข้างหัก และแรงกระแทกก็ส่งผลต่ออวัยวะภายในของเธอทำให้มันบอบช้ำพอสมควร”
ถ้อยคำรายงานของผู้เป็นแพทย์ยาวเหยียด และนั่นทำให้คนเป็นพี่ชายที่ได้รับฟังถึงกับใบหน้าซีดเผือด ดมิทรีผินไปหน้าไปยังห้องไอซียู เห็นร่างเล็กของคนเป็นน้องสาวจมหายไปกับเตียงผู้ป่วย ข้างกายนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้ยื้อชีวิตหญิงสาวและทั่วร่างเธอก็เต็มไปด้วยสายระโยงระยางไปหมด หัวใจของคนเป็นพี่ปวดแปลบ กายสูงใหญ่สั่นสะท้านจนต้องกำมือเป็นหมัดแน่นเพื่อไม่ให้เขาสติหลุดจนอาละวาดกับตัวต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวของเขาเป็นแบบนี้
“แล้วเธอ...มีโอกาสที่จะหายเป็นปกติไหมครับ”
บาราฟเอ่ยถามแทนผู้เป็นนายที่ยืนนิ่ง
“คงต้องขึ้นกับร่างกายของผู้ป่วยด้วยครับ” นายแพทย์วัยกลางคนที่เป็นเจ้าของไข้ตอบ “ตอนนี้ร่างกายของเธอค่อนข้างอ่อนแอ และเธอบอบช้ำภายในค่อนข้างหนัก ตอนนี้ที่เราต้องรอคือให้เธอฟื้นขึ้นมาเพราะจากการทำ MRI แล้วพบว่าเธอยังมีเลือดคั่งอยู่ในสมองด้วย...”
“บัดซบ! ไอ้สารเลว! ถ้าฉันรู้ว่าเป็นฝีมือของใครฉันสาบานเลยว่ามันจะต้องเอาชีวิตมันมาสังเวยน้องสาวฉันให้ได้!” ดมิทรีโมโหจัดจนโพล่งขึ้นมาเป็นภาษารัสเซียยาวเหยียด บาราฟมองผู้เป็นเจ้านายด้วยสายตาเห็นใจ ก่อนจะซักถามคุณหมอต่อไปว่า
“ว่าแต่คุณหมอพอจะทราบไหมครับว่าคุณแอนนาเบลล์มาโรงพยาบาลได้ยังไง”
“อืม…” แพทย์ชาวอเมริกันใช้ปลายนิ้วไล้ปลายคางตนเองด้วยท่าทีครุ่นคิด ก่อนจะตอบในที่สุด “ดูเหมือนว่าจะมีคนโทรแจ้งหมายเลขฉุกเฉินแล้วทางนั้นส่งเธอมาที่โรงพยาบาลนะ”
“ใครเป็นคนโทรแจ้งเหรอครับ” บาราฟซักต่อไป ขณะที่คนเป็นนายยืนนิ่ง เขาคล้ายกับไม่สนใจฟังแต่ที่จริงดมิทรีได้ยินคำพูดทุกคำ
“อืม…พลเมืองดีน่ะ เธอผ่านไปเห็นเหตุการณ์พอดีเลยโทรแจ้ง” นายแพทย์วัยกลางคนตอบ ก่อนจะขอตัวไปเมื่อได้รับโทรศัพท์เรียกตัว
บาราฟเอ่ยขอบคุณแพทย์ชาวอเมริกันก่อนจะหมุนตัวหันไปทาง
ดมิทรีที่ห่างออกไปสองสามก้าว ตอนนี้เจ้านายของเขาเอาแต่จ้องมองร่างของน้องสาวที่ยังอยู่ในห้องไอซียู บาราฟเองไม่พูดอะไรปล่อยให้เจ้านายอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองต่อไป กระทั่งผ่านไปได้สิบนาที สองนายบ่าวยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แล้วเป็นดมิทรีที่หันไปทางบาราฟ ดวงตาสีมรกตของเขาในยามนี้เข้มจัดด้วยความแค้นที่แน่นสุมอก
คนที่ทำให้น้องสาวของเขาเป็นอย่างนี้ต้องชดใช้!
“นายรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงเบรฟ?”
มาเฟียหนุ่มถามลูกน้องของตนเองด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น ขณะที่บาราฟกระตุกยิ้มเหี้ยม เขาปรายตามองคุณหนูแอนนาเบลล์แวบหนึ่งแล้วจึงหันไปพยักหน้ารับ
“ผมจะตามล่าคนที่มันทำกับคุณหนูเองครับ คุณดีนไม่ต้องห่วง” เขายืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ดี…หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
“ผมรับรอง...ผมจะล่าตัวมันมาให้คุณโดยเร็วที่สุด!”
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมพึงพอใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของดมิทรี...และบัดนี้โฉมหน้าอันเยือกเย็นของปีศาจร้ายได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว!