ของตายยังไงก็ไม่รัก

2407 คำ
1 ของตายยังไงก็ไม่รัก “สามปีแล้วนะคะที่หนูอยู่กับคุณในฐานะเด็กของคุณปลื้ม” “อือ แล้วยังไง” “เจอกันก็บ่อย อยู่ด้วยกันแทบทุกวัน หนูทำให้คุณหวั่นไหวไม่ได้เลยเหรอคะ” “ทำไมช่วงนี้เธอถามแบบนี้บ่อยจัง และทุกครั้งมันก็จบที่คำตอบเดิมเสมอ เรื่องของเรามันไม่มีความรักมาเกี่ยวข้องก็ย้ำไปหลายรอบแล้วนี่อิง ฉันไม่รักใครและจะไม่รัก เธอน่ารักแต่...” เสียงขรึมค้างไว้เหมือนสมองก็หาคำมาเติมไม่ได้ ดวงตาหญิงสาวที่นั่งจ้องอยู่ตรงหน้าก็หาได้คาดหวังให้เขากล่าวจบประโยค เรียวปากอมชมพูคลี่ยิ้มก็จริง แต่เด่นภูมิกลับรู้สึกเหมือนเธอกำลังเศร้า ทำไมถึงคาดหวังความรักจากเขาทั้งที่ก็ชัดเจนอยู่ทุกครั้ง “แต่ไม่เป็นไรค่ะ อิงก็ถามไปงั้นแหละ ไม่ได้ต้องการอะไรซะหน่อย สามปีมานี้มันดีมากๆ เลย และตอนนี้สัญญาของเราก็ใกล้จะจบแล้วนะคะ หนูคงคิดถึงคุณ” เด่นภูมิชะงักกาแฟที่ยกจรดริมฝีปาก จริงสินะ สัญญาระหว่างเขาและเธอกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว รู้สึกวูบหวิวที่ใจอย่างบอกไม่ถูกเลยแฮะ “ฉันก็คงคิดถึงเธอเหมือนกันแหละ” อิงดาวหวนถึงบทสนทนาระหว่างเธอกับเด่นภูมิ ขณะยืนมองวิวเมืองยามค่ำคืนผ่านระเบียงคอนโดฯ บนชั้นสามสิบ ช่วงนี้เธอถามทำนองนั้นบ่อย เหตุเพราะเวลาที่มีกันกำลังจะสิ้นสุดลง สามปีที่อยู่ด้วยกันอิงดาวพยายามอย่างมากกับการเป็นคนที่ถูกรัก แต่จนแล้วจนรอดก็เขย่าหัวใจผู้ชายคนนั้นไม่ได้ มีค่าต่อเขาก็แค่ตอนอยู่บนเตียง อิงดาวคงไม่ใช่สเปคของเด่นภูมิ ไม่มีดีพอจะเข้าไปอยู่ในหัวใจดวงนั้น สามปีที่ยอมเป็น ‘ของเล่น’ เพื่อหวังว่าความใกล้ชิดจะเปลี่ยนสถานะให้เป็น 'ของรัก' แต่สิ่งที่อิงดาวได้รับก็เพียงแค่ช่วงเวลาที่น่าจดจำของเขาและเธอ คนไม่ใช่ ทำอย่างไรก็ไม่ใช่สินะ หญิงสาววัยยี่สิบสองปีถอนหายใจพร้อมถอนสายตาจากกลุ่มดาวบนน่านฟ้า แล้วถอยมานั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง นิ้วเรียวกดรับสายวิดีโอคอลที่ก่อนหน้านี้เธอปล่อยดังจนสิ้นสุดสัญญาณไปแล้วหนึ่งรอบอย่างไม่สนใจ “หวัดดีครับอิง ยุ่งอยู่เหรอถึงไม่รับสายธันย์” ชายหนุ่มวัยเดียวกับเธอส่งเสียงสดใสพร้อมโปรยยิ้มอย่างไม่ถือสาผ่านกล้องโทรศัพท์ที่สัญญาณคมชัด “อืม อิงไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์น่ะ ว่าแต่ธันย์มีอะไรเหรอ” “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากโทร.หาตามประสาคนอยากจีบ” ธันย์คือเพื่อนร่วมสถาบันที่เปิดตัวจีบเธอคนแรก หลังจากอิงดาวปิดใจมานานหลายปีเพราะอยากซื่อสัตย์กับนายทาสเพียงคนเดียว แต่ไม่กี่วันก่อนอิงดาวรู้ซึ้งแล้วว่าถึงอย่างไรเด่นภูมิก็ไม่รัก ดังนั้นเพื่อหลีกหนีจากการจมปลักจึงเปิดใจรับผู้ชายที่อยากครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเธอ “ตรงๆ เลยนะ” “ตรงๆ เลยดิ แอบชอบแอบมองอิงมาตั้งแต่ปีสาม แต่อิงไม่เปิดใจอะ พอเพื่อนอิงบอกอิงไม่อยากโสดแล้ว เราก็เลยขอเป็นคิวแรก” อิงดาวยิ้มกับกล้องก่อนเปลี่ยนสีหน้าเป็นตกใจเหวอ ประตูระเบียงที่แง้มไว้อยู่แล้วถูกมือหนึ่งผลักบานเลื่อนไปชนกับกรอบประตู ซึ่งความแรงในระดับนั้นอาจทำให้กระจกแตกได้ อิงดาวเงยมองคนที่ยืนหน้าถมึงทึงตรงนั้นอย่างรอดูเชิง ไม่รู้เขากลับมาตั้งแต่ตอนไหน หรือเธอมัวแต่เหม่อจนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง อิงดาวไม่เห็นเขาพูดหรือทำอะไรนอกจากยืนหน้าเข้มเช่นเดิม ดังนั้นจึงกลับไปคุยสายต่อ “มีอะไรหรือเปล่าอิง” “เปล่าหรอกจ้ะ แล้วนี่ธันย์ทำอะไรอยู่เหรอ” “นอนคิดถึงอิงอยู่” อิงดาวยิ้มเขินกับกล้อง ก่อนเปลี่ยนสีหน้าเป็นตกใจอีกครั้งเมื่อเด่นภูมิเตะขาโต๊ะตรงหน้าเธออย่างแรง พร้อมสั่งการโดยไร้เสียงว่าให้เธอวางสาย อิงดาวไม่อยากสนใจเขา แต่ก็กลัวธันย์สงสัย “เอ่อ ธันย์แค่นี้ก่อนได้ไหม พอดีอิงปวดท้องน่ะ เดี๋ยวไว้โทร.หาใหม่นะ” “อ่อ งั้นเหรอ โอเคครับ ฝันดีนะ” “จ้ะ ฝันดี” อิงดาวโบกมือกับกล้องแล้วรีบกดวางสาย ก่อนลุกขึ้นยืนเท้าเอวเอาเรื่อง “เป็นอะไรคะ” “เป็นผัวเธอไงจำไม่ได้เหรอ กล้าดียังไงถึงคุยกับผู้ชายคนอื่น” “คุณเมานี่” ยิ่งร่างสูงสืบเท้าเข้ามาใกล้ กลิ่นแอลกอฮอล์ยิ่งกำจายชัดเจน “แล้วการที่หนูคุยกับคนอื่นมันผิดยังไงคะ ในเมื่อสัญญาของเรากำลังจะสิ้นสุด เราไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากความสัมพันธ์ชั่วคราว ที่ผ่านมาคุณปลื้มก็ไม่ได้ห้ามหนูมีใครนี่คะ เป็นหนูเองที่เลือกจะไม่สนใจคนที่เข้ามาจีบเพราะอยากซื่อสัตย์กับคนคนเดียว แต่ตอนนี้เรากำลังจะเป็นอิสระต่อกัน หนูก็เลยหาคนคุยแก้เหงามันผิดตรงไหน” “ผิดตรงที่ฉันไม่ชอบ! เธอยังเป็นของฉัน ฉันยังไม่ได้ทิ้ง” อิงดาวราวกับโดนหมัดเสยเข้าปลายคาง ทั้งเจ็บและมึนจนดวงตาเกิดผ่าวร้อนฉับพลัน เขาพูดเหมือนเธอไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก เขาพูดประหนึ่งเธอเป็นแค่วัตถุสิ่งของ “งั้นก็ช่วยทิ้งตอนนี้เลยได้ไหม หนูเคยบอกว่าจะเป็นของเล่นของคุณจนถึงวันที่เรียนจบ ซึ่งวันนี้ก็ไปรับวุฒิมาแล้วเรียบร้อย ดังนั้นถือว่าวันนี้คือวันสิ้นสุดสัญญา” อิงดาวสาวเท้ากลับเข้าไปด้านใน มุ่งหน้าสู่ห้องนอน หยิบคาร์ดิแกนมาสวม ลากกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วรวบเสื้อผ้าของตนที่อยู่ในตู้ใส่ลงไปอย่างลวกๆ “ทำอะไร!” ร่างสูงตามมากระชากเสียงถาม “ไปจากที่นี่ ไปแล้วไปลับจะไม่กลับมาอีก” “ต่อสัญญาอีกสักปีดีไหม คราวนี้ฉันเพิ่มเงินให้มากกว่าเดิมสองเท่าเลย สมัยนี้งานไม่ได้หาง่ายนะหนู” อิงดาวละมือจากเสื้อผ้าเงยดวงตาเอ่อคลอขึ้นมอง “คิดว่าอิงง่ายมากใช่ไหม เห็นกันเป็นของตายสินะ” “แล้วไม่ใช่เหรอ? เธอเองก็เอาแต่พร่ำเพ้อเหมือนอยากได้ความรักนักหนา ที่ทนอยู่ด้วยกัน ซื่อสัตย์มาตลอดไม่ใช่เพราะรักฉันหรอกเหรอ ต่อหน่อยไหมล่ะสักหนึ่งปีก็พอ” เวลาเขาไม่เมาก็ไม่ปากมอมขนาดนี้ แต่ถึงแม้อยู่ในภาวะสติไม่สมบูรณ์ กระนั้นอิงดาวก็ไม่เอามาหักล้างที่เขาพูดจาแย่ๆ ใส่ ร่างบางลุกยืนประจันหน้า ไหนๆ ก็โดนว่าเสียดสีจนใจพรุนเละหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เอาให้เจ็บจนถึงที่สุดไปเลยละกัน “ต่อสัญญาอีกสักปีก็ได้ค่ะ” “หึ! ดีมาก ให้มันได้อย่างนี้สิเด็กดี” “แต่ครั้งนี้ไม่เอาเงิน ขอเป็นความรักจากคุณปลื้มแทนได้ไหมล่ะคะ” เด่นภูมิชักสีหน้าหน่าย พ่นลมหายใจหนักอย่างบ่งบอกระดับอารมณ์ “จะเอาให้ได้เลยใช่ไหมความรักเนี่ย ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีให้ ถ้าจะรักก็รักไปนานแล้ว เธอเป็นของตายที่ยังไงฉันก็ไม่รัก” เจ็บกว่าที่คิดไว้ เหมือนโดนของแข็งกระแทกอกจนกระอักเป็นลิ่มเลือด น้ำตาที่พยายามห้ามไว้คราวนี้ไหลมาอย่างง่ายดาย อิงดาวก้มหน้าแล้วรีบปัดทิ้ง อย่าให้เขาสมเพชไปมากกว่านี้ “โอเค รับทราบค่ะ ไม่ต้องทำหน้ารำคาญขนาดนั้นก็ได้ ไม่คิดจะตื๊อขอความรักจากคนไร้หัวใจอยู่แล้ว เอาเป็นว่าวันนี้เราลาขาดกันเลยนะคะ” อิงดาวหันไปเก็บกระเป๋าต่อ แต่เรียวแขนถูกกระชากเข้าหาร่างสูง “อยากไปมากเลยเหรอ” “ก็แล้วจะอยู่ทำไมล่ะ” นอกจากไม่ได้หัวใจ ยังมีแต่ความเย็นชาและคำพูดทิ่มแทง ใครมันจะอยากอยู่ต่อ “ถ้างั้นก่อนไปก็ทิ้งทวนสักหน่อยสิ” เด่นภูมิดึงร่างเล็กมากอดพร้อมฝังจมูกตรงซอกคอ อิงดาวผลักไสไม่เต็มใจรับสัมผัส หัวใจเธอเจ็บขนาดนี้คงมีอารมณ์อยากนอนด้วยหรอกนะ “คุณปลื้มหยุดนะ อิงไม่ต้องการ” “เธอก็รู้ว่าเวลาโมโหฉันเป็นยังไง ฉันจะไม่ยอมลงให้ใครจนกว่าฉันจะได้ในสิ่งที่ต้องการ” “อิงก็ไม่รู้ว่ารักคนแบบนี้ไปได้ยังไง” เสียงอู้อี้ผสมไปกับความสั่นเครือร้องบอกขณะมือเล็กพัลวันผลักไส เด่นภูมิหยุดเล็กน้อยแต่ไม่ปล่อยเป็นอิสระ ดวงตาคู่นั้นแดงเรื่อและหยาดเยิ้มอย่างคนที่เมาหนัก “ก็ต้องรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเองนะ อย่าลืมนะอิงว่าเธอเป็นคนที่เข้าหาฉันก่อน เธอเป็นคนทำให้เรามาไกลถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นอย่าคิดจะตีจากง่ายๆ” “มันก็ถูกแล้วนี่คะ เป็นฝ่ายเข้าหาก่อน ก็ต้องเป็นฝ่ายออกไปเอง แต่ที่คุณพูดมานั่นกำลังสื่อว่าหนูง่ายใช่ไหม...ก็คงใช่แหละไม่น่าถาม” “ฉันปวดหัวมาก เลิกพูดและทำให้ฉันพอใจ” “แต่หนูไม่อยากนี่ อีกอย่างหนูเกลียดกลิ่นเหล้ามากคุณก็รู้” “ทนไป เดี๋ยวมันก็จบ” เด่นภูมิไม่สนอะไร ตวัดอุ้มร่างบางแล้วโยนบนเตียงอย่างไม่ถนอมก่อนตามไปคร่อมทับ เด็กเลี้ยงของเขาพยศหนัก มือไม้ตบตีจิกผิวเนื้ออย่างไม่ยำเกรง จนเขาต้องพึ่งจูบดูดดื่มที่ราวกับประสงค์พรากวิญญาณ ประกบปากเร่าร้อนและกดหนักแช่นานอย่างไม่ยอมให้สมองเธอคิดอะไรอื่นอีก กระทั่งสิ้นฤทธิ์หยุดขัดขืน คนใต้ร่างถูกเติมด้วยเชื้อเพลิงเสน่หาจนต่อต้านไม่เป็นภาษา เด่นภูมิปลดเปลื้องทุกปราการที่ขวางกั้นระหว่างสองร่าง ก่อนจู่โจมไม่ปราณี อีกทั้งสัมผัสนี้ยังทิ้งห่างจากความอ่อนโยนอย่างเช่นทุกครั้ง “เอาซะให้พอนะ แล้วหลังจากคืนนี้ไปคุณจะไม่ได้เห็นหน้าอิงอีก” พอริมฝีปากได้อิสระเธอก็ตอกใส่หน้าเขาทันที แต่คนเมาไม่รับรู้เลยว่าในความเกรี้ยวโกรธนั้นผสมด้วยความตัดพ้อถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ “ฉันจะถือว่าที่เธอพูดมาคือความท้าทาย” เสียงลอดไรฟันสะกดบอกพร้อมสอดท่อนอุ่นเข้าไปในร่องรักอย่างไม่ผ่านการเล้าโลมที่เหมาะสม “อึก! คุณปลื้มอิงเจ็บ” อิงดาวครวญครางหน้าเหยเก แรงกระแทกที่มากเกินไปบวกกับร่างกายยังมีความต่อต้านเล็กน้อยเลยทำให้ธารรักยังไม่พรักพร้อมเท่าที่ควร “เด็กดื้อก็ต้องลงโทษให้เจ็บให้จำ คอยดูนะอิง เธอดื้อแบบนี้ฉันจะล่ามเธอไว้ไม่ให้ออกจากห้องนี้ได้อีกเลย” เอวสอบขยับโยกพร้อมเสียงขู่คำรามลอดไรฟัน “จะกักเธอไว้เป็นทาสบำเรอเซ็กซ์แบบนี้โดยไม่ต้องมีสัญญาอะไรอีก พอใจเมื่อไหร่ก็จะปล่อยเธอไปเมื่อนั้น” “คุณไม่เคยพอใจ อ๊ะ อื้อ!” มิเช่นนั้นเขาจะลากสัญญาคู่นอนมาจนถึงสามปีเหรอ จากตอนแรกที่ล่อลวงให้เธอขึ้นเตียงกับเขาแค่สองสัปดาห์ แล้วจากนั้นมาเขาก็ตื๊อเสนอสัญญาที่ยาวนานมาจนป่านนี้ “ก็กับเธอมันไม่พอ เธอยังอ่อนหัดอยู่มากขนาดเอากันแทบทุกคืนแท้ๆ” เด่นภูมิดึงขาข้างหนึ่งของเธอพาดบนบ่าบึกบึนเพื่อออกแรงอย่างถนัดถนี่ ท่อนอุ่นใหญ่ใส่พลังดุดันเต็มที่ ทำอิงดาวเสียวแปลบที่ท้องน้อยจนเปล่งเสียงครางไม่หยุดพัก กัดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือด เด่นภูมิยิ้มอย่างพอใจที่คนพยศสิ้นฤทธิ์กับความสุขที่เขาปรนเปรอ อิงดาวเห็นยิ้มนั้นก็พลันหยุดครางและฝืนซ่อนความเสียวซ่านไว้สุดใจ “รู้สึกดีมากใช่ไหมที่เป็นฝ่ายควบคุมอยู่เหนือกว่าหนู” ฝ่ามือเล็กดันอกแกร่งให้หยุดกระแทกร่างกายเข้าออก ก่อนเปลี่ยนเป็นฝ่ายคร่อมนั่งอยู่เหนืออาวุธของท่านชาย เด่นภูมิก็ยินดีให้เธอรับบทเป็นนายหญิงคุมทาส “เอาเลย เอาให้เต็มที่” “เต็มที่แน่นอนค่ะ เพราะมันจะเป็นครั้งสุดท้ายของเราสองคน” ร่างระหงเอวคอดกิ่วบดขยับเกร็งขมิบกลีบผกา จนเด่นภูมิครางกระเส่าดังขึ้นตามระดับความเสียวที่เธอสร้างให้ ร่างสูงปล่อยคนตัวเล็กควบขี่จนเสร็จสม และพออิงดาวทำท่าจะคลานลงจากเตียงเขาก็รีบตวัดรั้งเอวบางไว้ “อะไรกัน? พอเสร็จแล้วก็จะทิ้งง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ” “ใช่ค่ะ แยกย้ายกันแค่นี้ ปล่อยเลยนะ” “จบง่ายไปไหมหนู ไม่รู้ล่ะคืนนี้ของเรายังอีกยาวไกล” “แต่หนูเสร็จแล้ว” “ก็เสร็จได้อีกเรื่อยๆ ถุงยางก็ไม่ต้องใส่ ยาคุมเธอก็ไม่ต้องกิน เอาให้ท้องให้ได้” “บ้าเหรอ! จะทำแบบนั้นทำไม ปล่อยนะคุณปลื้ม” อิงดาวดิ้นขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ คนที่พละกำลังเหนือกว่าดันร่างเล็กให้นั่งคุกเข่า แล้วส่งเจ้าท่อนรักเข้าไปทักทายอีกครั้ง “ได้! จะ ‘ปล่อยใน’ ให้สะใจไปเลย และนับจากวันนี้เป็นต้นไปฉันจะทำให้เธอท้องให้ได้ ยาคุมเธออยู่ตรงไหนฉันจะเอาไปทิ้งให้หมด!” อิงดาวรู้ว่าเขาโกรธมากผสมไปกับแอลกอฮอล์ที่ก่อกวนประสาท เด่นภูมิกลายเป็นคนในอีกเวอร์ชั่นที่อิงดาวไม่ปรารถนา เธอจะสมยอมเป็นครั้งสุดท้ายและนับตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเขาจะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อว่าอิงดาวในชีวิตอีก ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะโอบรับเขาไว้ในเรือนร่างและหัวใจ เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ จากนี้อิงดาวจะหายไปจากชีวิตเขาตลอดกาล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม