“เอ้า!!แล้วนั่นมึงจะไปไหน”
ไอ้ภูเรียกผมไว้ เมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้นพรวด
“ไปดูดบุหรี่ คุยกับพวกมึงแล้วหงุดหงิด”
“เอ้าไอ้นี่…”
ผมเดินออกจากโต๊ะ ไม่สนใจเสียงใดของเพื่อนอีก แค่ผมไม่มั่ว พวกมันก็เดาไปถึงขั้นว่าผมไม่ชอบผู้หญิง ใครมันจะเหมือนพวกมันละ ผมยืนสูบบุหรี่ในที่มืดสลัวของผับ พ่นควันโขมงดับความหงุดหงิดจากคำว่า‘ไม่ชอบผู้หญิง’
ปึก~
“อุ้ย!!ขอโทษค่ะ ”
และในระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ ก็มีผู้หญิงหน้าตาสะสวยเดินเข้ามาชน ผมจึงรีบกอดประคองไว้ เพราะดูแล้วเธอน่าจะเมามาก
“ว้าว!!รูปหล่อ ไปต่อกับฉันไหม ”
ผมแทบปล่อยเธอหล่นพื้น เมื่อเธอเอ่ยชวนไปต่อ ‘แม่งพึ่งเจอหน้าชวนไปต่อเลยเหรอวะ’
“เมาก็กลับบ้านไปนอน ”
ผมบอกเสียงเรียบและรีบผละออก หมุนตัวช้าๆเตรียมเดินหนี ผมไม่อยากถือสานะ เพราะเธอน่าจะเมา
“แค่คืนเดียว เราจะไม่เจอกันอีก ”
คนเมายังไม่จบ หน้าตาสวยกลิ่นตัวหอม แต่ง่ายไปป่ะ ทำตัวไร้ค่าชิบหาย ผมยังเดินต่อไม่หันกลับไปมอง จนได้ยินเสียงตะโกนตามหลังมาอีกครั้ง
“หล่อซะเปล่า ชอบผู้ชายก็ไม่บอก ”
เพียงคำนั้นทำผมหยุดเดินทันที และหันกลับมามองหน้าเธอ แล้วถามย้ำอีกครั้งเสียงติดหงุดหงิด
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ ”
ผมเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ และมองใบหน้าสวยหวานชัดๆ
“ฉันบอกว่าคุณชอบผู้ชายทำไมไม่บอก อื้อ…”
ไม่ปล่อยให้เธอพูดจบ ผมจับหน้าเธอเงยขึ้นแล้วประกบจูบอย่างแรงด้วยความโมโห มืออีกข้างจับเอวเธอไว้แน่น ก่อนดันตัวเธอชิดผนังในมุมลับตาคน ผมขยี้กลีบปากเธอแรงๆจนเธอร้องเจ็บ
“อื้ม…เจ็บ…”
เจ็บสิดีจะได้จำ จะได้ไม่ปากพล่อยเที่ยวพูดให้คนอื่นมั่วๆ
“ยะ..อย่าค่ะ..”
เธอรีบร้องห้าม เมื่อถูกจับให้หันหลัง แนบหน้าไปกับกำแพงแล้วถลกกระโปรงขึ้น ตั้งใจจะประกาศความเป็นชาย กระแทกเอ็นใหญ่สั่งสอนเธอซักหน่อย
“ห้ามทำไม อยากโดนเอาไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าปอดแหก ไม่กล้าแล้ว ”
โถ่…นึกว่าจะแน่
“ไม่ได้ปอดแหก แต่ขึ้นข้างบนดีกว่า ฉันเปิดห้องไว้ อยากรู้เหมือนกันว่าจะซักแค่ไหนกันเชียว ”
เมื่อโดนท้าทายจนหัวเสีย ผมก็จัดหนักจัดเต็มตามคำขอ ทีนี้รู้กันแล้วนะว่าผมชอบผู้หญิง
ตัดมาปัจจุบัน
“นั่นดิสัส..โทรไม่รับ แต่เดี๋ยวนะ มึงดูเหนื่อยๆ
เสื้อผ้ายับแบบมีพิรุจ อย่าบอกนะว่ามึง ”
ไอ้ภูท้วงขึ้นเสียงดัง ผมเลิกคิ้วกวนๆตอบรับความเข้าใจถูกของเพื่อนไป1ที
“ไอ้เชี้ย!!!จริงดิ!!สาวคนไหนได้ซิงมึงไปว่ะ กูอยากเห็นหน้า ”
พวกเพื่อนผมสนใจกันใหญ่ ความจริงพวกแม่งขี้เสือกนั่นแหละ
“พวกมึงจะกลับยังกูง่วง ”
ผมไม่ตอบคำถาม แต่เปลี่ยนเป็นชวนเพื่อนกลับแทน ผมก็ไม่รู้จะตอบเพื่อนว่าไง ผมเองก็ไม่รู้จักเธอ ไม่ถามแม้แต่ชื่อ เพราะเราจะไม่เจอกันอีก ผู้หญิงแบบนั้นไม่ใช่แม่ของลูกผมแน่นอน
สวัสดีครับ…ผมชื่อปอเช่ วินท์วาโย วิศวะปี4
แฝดผู้พี่ของคูเปอร์ ลูกชายของพ่อปกป้อง แม่ผ้าแพร เจ้าของบริษัทรับเหมารายใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ และยังมีพี่สาวอีก1คน นั่นก็คือพี่พิพิม มีเพื่อนสนิทซี้ปึ๊กอยู่4คน คนแรกน้องชายฝาแฝดผมเอง
ไอ้คูเปอร์ (พระเอกจากเรื่อง ยัยตัวแสบของนายวิศวะ )
ไอ้ภูภัทร (พระเอกจากเรื่อง พี่วิศวะสุดหล่อกับยัยแสบข้างห้อง )
ไอ้ธีร์(พระเอกเรื่อง ใต้เงารักวิศวะ )
และคนสุดท้ายคือไอ้วาคิม นี่ก็โสดเหมือนกันกับผมนี่แหละ ว่าด้วยเรื่องความหล่อกลุ่มผมจัดว่าฮอต และผมเองก็หล่อพอตัว แต่ผมเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยสนใจผู้หญิง จนเพื่อนในกลุ่มต่างก็แซว ว่าผมเก็บซิงไว้ชิงโชค
คอนโดมิเนี่ยมเวลาต่อมา
ซ่าาาาาา…
พอกลับมาถึงห้อง ผมก็รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ผมเป็นคนรักความสะอาดมาก
เลยไม่คิดจะมีอะไรกับผู้หญิงไปทั่ว อาบน้ำเสร็จผมก็ออกมานอน แอบเพลียนิดหน่อย ก่อนหลับไปในเวลาไม่นาน
เช้าวันต่อมา
ครืด~ครืด~ครืด~
เสียงมือถือดังขึ้นรบกวนการนอนของผมที่สุด
“เชี้ย…ใครโทรมาแต่เช้าว่ะเนี่ย ”
ผมคลำหามือถือทั้งที่ตายังหลับอยู่ ไม่น่าพลาดลืมปิดเสียงเลย ทั้งที่พึ่งนอนตอนตี3นี่เอง
“ครับ”
{ปอร์เช่…ตื่นรึยัง…}
คนที่โทรเข้ามา ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่พิพิม พี่สาวผมเอง
“ยังไม่ตื่น พี่มีอะไรรึเปล่า ห้าวววว”
{มีสิ…ไม่มีจะโทรมาทำไม }
“พูดธุระพี่มาเถอะครับ ผมจะได้นอนต่อ ”
ผมตัดบททันที ง่วงจนจะหลับคามือถืออยู่แล้ว
{วันนี้จะมีเด็กทุนที่พึ่งบินกลับจากญี่ปุ่น ย้ายเข้าไปอยู่ที่ห้องพี่นะ พี่ให้เบอร์นายไปแล้ว เห็นบอกว่าจะย้ายมาวันนี้ รอรับโทรศัพท์ด้วย }
“แล้วเด็กทุนทำไมต้องมาอยู่ห้องพี่ด้วยละครับ ผมไม่ชินหรอกนะ ที่จะมีคนแปลกหน้ามาอยู่ด้วย ถึงจะคนละห้องก็ช่างเถอะ ”
สำหรับผมแล้ว ความส่วนตัวต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เรื่องนี้ทุกคนในบ้านรู้ดี
{มันเป็นสวัสดิการของบริษัทเรา แล้วอีกอย่างอันนาเป็นเพื่อนพี่เอง ช่วงนี้นายปิดเทอมยังไงก็ต้องเข้าบริษัทอยู่แล้วหนิ พรุ่งนี้อันนาต้องเข้ามารายงานตัว ให้ติดรถนายมาด้วยละกัน}
อันนาเหรอ ผมไม่เคยได้ยิน และก็ไม่คุ้นหูด้วย เพื่อนพี่พิพิมผมรู้จักทุกคนนะ
“ทำไมผมไม่รู้จักอะ ”
{เป็นเพื่อนคนละคณะ พี่เรียนบริหาร อันนาเรียนวิศวะ}
“แล้วทำไมต้องให้ติดรถผมไป ก็ให้เธอไปเองสิ ”
{นะๆปอร์เช่น้องรัก ช่วยหน่อยนะ เอาใจเธอหน่อย โปรเจกต์ที่จะเปิดใหม่นี้ ต้องอาศัยอันนามาช่วยวางแผนโครงสร้าง เพื่อนพี่คนนี้เก่งมากเลยนะ พี่ขอให้บินกลับก่อนกำหนด ชีก็ยอมบินมา แค่ให้ชีติดรถมาเอง พี่ขอละ}
เฮ้อ…ผมถอนหายใจ ใจอ่อนให้กับพี่สาวทุกที
“มีอะไรอีกมั้ย…ผมจะนอนต่อ”
{ไม่มี นอนต่อได้เลย}
ผมวางสายจากพี่สาวแล้วนอนต่อ และหลับไปอีกครั้งเพราะความเพลียจากเมื่อคืน
-อันนา-
“โอ้ย!!ซี้ด!!”
ฉันตื่นมาพร้อมกับอาการเจ็บแปลบที่กลางกาย
เมื่อคืนยอมรับว่ามันหนักหน่วงมากจริงๆ สงสัยคงต้องไปซื้อยาแก้อักเสบมากินแล้วเนี่ย วันนี้ต้องย้ายเข้าคอนโด พรุ่งนี้ต้องเข้าไปรายงานตัวที่บริษัทอีก จะไหวรึเปล่าเหอะ ฉันหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเปิดเครื่อง หลังจากปิดไปตั้งแต่เมื่อวาน
แต่พอเครื่องติดแค่นั้นแหละ
ครืด~ครืด~ครืด~
สายเรียกเข้า : ราเมศ
หน้าจอเด่นชัด ขึ้นชื่อไอ้ผู้ชายสารเลวราเมศ
ฉันปล่อยให้มือถือดังแบบนั้นอยู่นาน
“ไม่ขี้เกียจกดโทรก็โทรไปเลย ”
ฉันเปิดสั่นไว้ก่อนค่อยๆลุกจากเตียงไปอาบน้ำ
และกลับออกมาโทรหาพิพิม ที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้าของบริษัททุน ฉันเก็บกระเป๋าและนั่งแท็กซี่มายังคอนโดของเพื่อน ก่อนกดโทรหาน้องชายของพิพิมทันที เพื่อนไม่ได้บอกนะว่าน้องชื่ออะไร
ส่วนฉันก็ลืมถาม
ครืด~ครืด~ครืด~
“บ้าเอ้ย!!โทรเป็นสิบๆสายก็ไม่รับ ”
ฉันนั่งรอที่ลอบบี้คอนโดเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ไม่กล้าโทรหาพิพิมแล้วด้วยเพราะเพื่อนบอกมีประชุม พยายามกดโทรหาน้องชายเพื่อนเป็นระยะ
ครืด~ครืด~ครืด~
{ครับ}
ผ่านไปเกือบชั่วโมง ปลายสายถึงรับ
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออันนา นักศึกษาทุนที่จะย้ายไปอยู่ห้องพิพิมค่ะ ”
ฉันรีบอธิบายอย่างเร่งด่วน
{เดี๋ยวผมลงไป จะได้ลงทะเบียนผู้อาศัยด้วย }
“โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ฉันวางสายพร้อมความรู้สึกบางอย่าง ฉันคุ้นเสียงผู้ชายคนนี้จัง เหมือนเคยได้ยินที่ไหน