ตอนที่ 5
ความใส่ใจ
“ชิน..หยุด”
เกวลิน ปรามเสียงสั่นระริก เมื่อความวาบหวิวแผ่ซ่านไปทั่วร่าง แขนขาของเธอเริ่มจะไร้เรี่ยวแรง และเธอควรจะหยุดเด็กโฮสต์รูปหล่อคนนี้แต่เพียงเท่านี้
“อืม พี่ผ่อนคลายออกมาก่อนซิครับแล้วผมจะหยุด”
ชินกระซิบเบาๆ นิ้วเรียวเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ หน้าหล่อเหลาโน้มลงดูดทรวงอกอิ่ม จนเธอต้องขยุ้มบ่าหนาเขาไว้แน่น ร่างเล็กของเธอแอ่นโค้งขึ้นอย่างยั่วยวน และกระตุกเกร็งอีกครั้งปลดปล่อยน้ำหวานฉ่ำวาวออกมาจนเลอะเปรอะเปรื้อนต้นขา
“อื้อ..”
เขายิ้มมุมปาก ถอดถอนนิ้วออกมา ก้มลงเลียละเลียหยาดน้ำหวานที่ปลายนิ้ว และมองเธอด้วยแวววตาปรือเชื่อม หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยนะครับพี่ลิน”
ผ่อนคลายอะไรละ เธอรู้สึกเหมือนเพิ่งไปวิ่งร้อยเมตรมาด้วยเวลาอันรวดเร็ว จนลมหายใจติดขัดไปหมด
“.....”
ก่อนที่จะเอ่ยอะไรต่อ มือถือของชินในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้น ชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมาดูและมองหน้าจอเพียงครู่ ก่อนจะก้มหน้าให้เธอเล็กน้อย
“โทษทีครับ ผมขอรับสายแปป”
หญิงสาวพยักหน้าและรีบลุกขึ้น ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ด้านล่างและรีบเดินหันหลังไปเข้าห้องน้ำด้วยความเขินอาย ได้ยินเสียงเขาคุยมือถือที่ฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ด้านนอก
สักพักเธอได้ยินฝีเท้าเขาเดินเข้ามาใกล้
“พี่ลินครับผมกลับไปที่ผับก่อนนะครับ ไว้ยังไงผมจะไลน์หานะครับ หรือมีเรื่องด่วนโทรหาผมได้เลยตลอดเวลา”
“จ้ะ”
“หลับฝันดีนะครับ”
เอ่ยเสร็จเสียงฝีเท้าก็ดังออกห่างจากห้องไป เมื่อประตูปิดลงได้สักพักนั่นแหละ เกวลินถึงเปิดประตูห้องน้ำออกมา และเดินมาย่อกายนั่งลงบนโซฟาที่เขาและเธอนั่งด้วยกันเมื่อสักครู่
กลิ่นน้ำหอมสะอาดของเขายังคงวนเวียนอยู่รอบตัว
...เด็กโฮสต์ที่เร่าร้อนคนนั้น
.
.
“นี่มันอะไรกันครับคุณเชษฐ์”
วิชิต ประธานใหญ่ของกริลล่าเอสเตท ผู้เป็นบิดาของเกวลินเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเอกสารข้อเสนอจาก สุรเชษฐ์ ลูกเขยคนโปรดและยังเป็นผู้บริหารของแอคคว่ากรุ๊ปที่เป็นพันธมิตรหลักด้านอสังหาอีกด้วย
“คุณพ่อก็เห็นรายละเอียดชัดอยู่แล้วนี่ครับ”
ลูกเขยกิตติมศักดิ์ยักคิ้วเล็กน้อยเมื่อหรี่ตามอง เกวลิน ภรรยาในนามที่นั่งอยู่ตรงข้าม หญิงสาวเหลือบมองเอกสารที่ตนได้รู้ก่อนหน้านั้นแล้ว ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย
“เราคุยกันตั้งแต่แรกนี่แล้วค่ะ ว่าสัดส่วนหุ้นทั้งหมดจะยังคงเดิมแต่หากว่าทางแอคคว่าเพิ่มทุนเข้ามาเกินหกสิบเปอร์เซ็นต์เราจึงจะจัดสรรหุ้นใหม่”
เกวลิน เอ่ยเสียงราบเรียบ เมื่อเห็นข้อเสนอที่ต้องการหุ้นกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ให้ใส่เป็นชื่อของสามี
“ฮึ” สุรเชษฐ์เหยียดยิ้ม “นั่นผมหมายถึงว่าเราแต่งงานกัน และธุรกิจของกริลล่าไปได้ดีต่างหากละลิน แล้วนี่อะไรมีแต่ดิ่งลงๆทุกวัน จะให้ผมเอาเงินลงไปอุดโดยไม่รู้ว่าจะไปรอดหรือเปล่านี่นะ”
“นั่นเป็นข้อตกลงก่อนที่เราจะแต่งงานกันนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยเสียงสูง แต่พยายามปรับโทนเสียงให้ราบเรียบ ด้วยแม้จะเป็นห้องประชุมไพรเวทในกริลล่าเอสเตท แต่เธอก็ไม่ต้องการให้เสียงเล็ดรอดอออกไปให้พนักงานด้านนอกได้ยินแม้แต่น้อย
“แล้วยังไง?” สุรเชษฐ์เหยียดกายลุกขึ้น “คุณก็รู้แต่แรกแล้วว่างานแต่งงานของเรามันก็แค่ฉากบังหน้า ที่ผมกับคุณเองก็รู้ๆกันอยู่ว่าเพื่ออะไร เราเป็นผัวเมียกันจริงเสียที่ไหนกัน”
“ก็ใช่ไง! ก็เมียตัวจริงของคุณก็นอนกกกันอยู่ทุกวัน”
ไอ้เลว! นอกจากจะไม่ทำตามสัญญายังตอกย้ำในสิ่งที่สร้างความรู้สึกแย่ในใจเธออีก
“ฮึ! ในสัญญาก็ระบุแล้วว่าผมกับคุณเป็นอิสระในเรื่องเซ็กซ์ต่อกันคุณไม่มีสิทธิ์เอาเรื่องนี้มาบรัฟผมกลับแม้เพียงนิด”
“ถ้างั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์บิดพลิ้วสัญญาที่คุยกันไว้”
หน้าสวยเชิดขึ้น โดยไม่ใส่ใจสายตาปรามของบิดาที่นั่งกุมขมับอยู่ข้างๆ
“ผมไม่สนใจกริลล่าแล้ว แต่ถ้าอยากจะดีลกันต่อผมต้องได้หุ้นเกินสี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่เช่นนั้นผมจะไม่อัดเม็ดเงินลงไปเด็ดขาด และหากไม่ได้...ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นผัวเมียกันในนามต่อไปเพื่ออะไร?”
“เชษฐ์” เสียงบิดาของเธอแผ่วเบาลง ทว่าเกวลินกำมือเข้าหากันแน่น นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
“คุณจะไม่เพิ่มทุนเข้ามาในกริลล่าใช่มั้ย?”
“ไม่”
“งั้นเราก็หย่ากันเถอะ”
.
.
“ชาอู่หลงร้อนๆค่ะคุณลิน”
ชาร้อนถูกยกเข้ามาในห้องโดย ยิ้ม เลขาคนเก่งของเธอ หญิงสาวเงยหน้ามองและพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
“ขอบใจมากนะยิ้ม”
เลขาสาวโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป สักพักก็ชะโงกหน้าเข้ามาใหม่
“คุณลินคะ มีสายนอกจากน้องชินค่ะ”
คิ้วเรียวสวยของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้เลขาสาวต่อสายเข้ามาในห้อง
(ชินครับ)
“ทำไมถึงโทรเข้าออฟฟิศ” เสียงรองประธานสาวเข้มขึ้นกึ่งดุ ด้วยไม่คิดว่าเด็กโฮสต์ที่เจอกันคืนก่อนจะกล้าโทรเข้าสำนักงานของเธอ “ทำไมไม่โทรเข้ามือถือหรือไลน์มา”
ปลายสายเงียบไปสักพัก
(ผมขอโทษครับ แต่ผมโทรไปหลายสายแล้วครับ ทั้งโทรทั้งไลน์แต่พี่ไม่รับสายและตอบไลน์ผมเลย ..จะให้ผมอย่างไงละครับ) น้ำเสียงเขาอ่อยลง คล้ายจะสะอื้นเล็กน้อย
จนเกวลินอึ้งไปชั่วครู่ ด้วยคิดว่าตัวเองคงตะคอกแรงไป
“โทษทีนะชิน ช่วงนี้พี่ยุ่งมาก..งานพี่มีปัญหา” หญิงสาวเอ่ยเบาๆอย่างเหนื่อยอ่อน “ตอนนี้พันธมิตรที่จะร่วมลงทุนก็เหมือนจะถอนตัวกระทันหัน แผนที่จะไปพัฒนาที่ดินชานเมืองของกริลล่าคงต้องพับ หุ้นคงจะร่วงอีกแน่”
คิดแล้วเธอก็อยากจะกินยาให้นอนหลับยาวๆไปซะ
ชินเงียบไปอีกครั้งก่อนจะถามกลับ
(พันธมิตรที่ว่าคือบริษัทของผัวพี่ใช่มั้ยครับ)
คำถามตรงๆนั่น ทำให้เกวลินอึ้งแต่ก็ไม่คิดจะปฎิเสธอย่างใด เพราะคนทั่วไปก็พอจะทราบดีอยู่แล้ว "อืม”
(พี่อยากได้ที่ดินชานเมืองตรงคลองห้าใช่มั้ยครับ)
“อืม ..แต่คงจะยากแล้วละช่างมันเถอะ”
แค่ลำพังโครงการในมือที่มีอยู่ตอนนี้ ก็ไม่รู้สายป่านเงินทุนที่มีอยู่จะบริหารไปได้นานอีกสักเท่าไหร่ “พี่คิดอะไรไม่ออกเลยตอนนี้ มึนหัวไปหมด”
(เดี๋ยวผมพาไปหาอะไรอร่อยกินกันครับ)
“ไว้วันหลังนะชิน วันนี้พี่คงไม่ได้แวะไปที่แอดร็อคหรอก”
เธอรีบปฎิเสธ ด้วยวันนี้รู้สึกล้าเหลือทน ทว่าปลายสายกลับหัวเราะในลำคอและตอบกลับเสียงนุ่มกลับมา
(ผมรอพี่อยู่ด้านล่างแล้ว ..ลงมาได้เลยครับ)
*****************