สามวันผ่านไป ณ สนามแข่งของตระกูลทรัพย์หิรันสกุลหรือสนามนอกเขต KKL
เฟอร์รารี่คันสีดำสัญลักษณ์ของ ล่า ตำนานที่เคยครองอันดับหนึ่งของสนามแข่ง เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มดังก้องขณะเขาหักเลี้ยวเข้าลานจอด
ตั้งแต่แมตช์ครั้งสุดท้ายที่พ่ายแพ้ แมตช์ที่พรากทุกอย่างไปล่าไม่เคยกลับมาลงแข่งอีกเลย แต่ครั้งนี้ข่าวการกลับมาของ เจ้าสนาม กลายเป็นที่พูดถึงอย่างหนาหู คาดเดาเหตุผลไปต่างๆ นาๆ ว่าทำไมเขาถึงเลือกกลับมาหลังจากเวลาผ่านไปนาน
ร่างหนาหยิบเอาแว่นตาเลนส์ดำมาสวมใส่ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วก้าวขาเดินเข้าไปภายในลิฟต์ตัวใหญ่ เพื่อขึ้นไปยังห้องรับรองสำหรับผู้บริหาร
“พ่อถามว่าทำไมไม่เข้าบ้าน” คลื่นเอ่ยเสียงเรียบบอกพี่ชายที่ไม่ยอมกลับไปนอนบ้านนานเกือบสามเดือน ต่างกับเขาและพี่คนโตที่แม้จะมีคอนโดและเพนท์เฮาส์ก็มักจะกลับบ้านทุกครั้งที่มีโอกาส
“ถ้าอยากกลับเดี๋ยวกูก็โผล่หัวไปเอง” เสียงทุ้มตอบกลับก่อนจะนั่งกระแทกลงบนโซฟาตัวใหญ่ พลางยกมือขึ้นถอดแว่นออกไปวางไว้บนโต๊ะตรงหน้า
ล่าเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตอิสระ เกลียดการถูกตีกรอบ และเกลียดการถูกบังคับให้อยู่ในเส้นทางที่เขาไม่ได้เลือก นั่นคือเหตุผลที่เขาเลือกอยู่คอนโดมากกว่าบ้าน พราะมันเป็นพื้นที่ที่เขาสามารถกำหนดทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
อีกเหตุผลที่ล่าหลีกเลี่ยงการกลับบ้าน ก็คือเรื่องที่คนเป็นพ่อมักจะบ่นเขาไม่เว้นวัน โดยเฉพาะเรื่องที่เขามักจะควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า และเป็นข่าวอื้อฉาวจนทางบ้านต้องคอยจ่ายเงินปิดข่าวให้แทบไม่เว้นวัน
“ของเดิมพันเป็นยังไง ถูกใจสมกับที่มึงกลับมาลงสนามอีกครั้งไหม?”
“ยังไม่ได้ลอง” ล่าตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิดพร้อมถอนหายใจ ทำให้คลื่นเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
“อย่างมึงน่ะนะจะปล่อยผ่านมานานขนาดนี้” ถามย้ำ สีหน้าดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
“กูจะเป็นคนดีบ้างไม่ได้เลยว่างั้น?” ล่าถามน้องชายด้วยสายตากึ่งประชด
“มึงเคยเป็นด้วยหรอวะไอ้คนดีเนี่ย จำความได้ก็เห็นว่าเหี้ยแล้วนะ”
ล่ากลอกตาให้กับคำพูดที่เพิ่งได้ยิน ก่อนจะตอบกลับเสียงเรียบ “กูแค่อยากให้เวลา ผู้หญิงคนนั้นไม่เหมือนคนอื่น”
“ที่ว่าไม่เหมือนคนอื่นคืออะไร?”
เมื่อถูกตั้งคำถามนั้นร่างหนาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยลมหายใจยาว ดวงตาคมหรี่ลงเหมือนกำลังคิดทบทวนคำตอบ
“อย่าเค้นให้มันน่ารำคาญนักไอ้คลื่น” ล่าเอ่ยเสียงเข้ม น้ำเสียงบ่งบอกความหงุดหงิด แล้วจ้องเขม็งไปยังน้องชายที่นั่งถามคาดคั้น คลื่นยักไหล่เหมือนจะยั่วให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียยิ่งขึ้น
ล่าล้วงบุหรี่ออกจากกระเป๋ามาจุดสูบ ก่อนจะพ่นควันคลุ้งลอยวนในอากาศ ดวงตาทอดมองไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอยเหมือนกำลังใช้ความคิด เขารู้ว่าเธอมีบางอย่างเกี่ยวพันกับอดีตของเขา แต่ไม่คิดว่าความเกี่ยวพันนั้นจะลึกซึ้งถึงขนาดนี้
“สรุปเธอเป็นอะไรกับ….” คลื่นกำลังจะพูดชื่อต้องห้ามแต่ต้องชะงักไปเมื่อเห็นในตาดุดันของพี่ชาย จึงเลี่ยงการเอ่ยถึง “เป็นอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”
ล่าพ่นควันอีกครั้งด้วยท่าทางสงบนิ่ง ในตาคู่คมแฝงอารมณ์ที่หลากหลาย ก่อนจะตอบเพียงสั้นๆ “น้องสาว”
ล่ากระดิกนิ้วเคาะบุหรี่เบา ๆ กับที่เขี่ย ควันจางๆ ลอยขึ้นเพิ่มความเงียบในบรรยากาศ ดวงตาคมจ้องนิ่งไปข้างหน้า ราวกับพยายามค้นหาคำตอบบางอย่างจากความว่างเปล่า
“ซวยชิบหาย” คลื่นสบถออกมาทันทีหลังได้ยินคำตอบ อย่างนึกสงสารชะตาที่เธอคนนั้นต้องเจอ ไม่มีใครรู้ได้ว่าภายใต้สายตาเย็นชาคู่นั้นของล่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขารู้สึกได้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีนัก
“มึงจะทำอะไรกับเธอ”
“สัญญาหนึ่งปี”
“สัญญาอะไร?”
“เธอจะอยู่ในสถานะของเดิมพันแค่หนึ่งปี หลังจากนั้นจะได้อิสระคืน”
“สำหรับเธอคงจะนานเหมือนตกอยู่ในนรก”
ลมหายใจร้อนถูกพ่นออกมาโดยเจ้าของดวงตาไร้อารมณ์ เจียร์ ชื่อนั้นปรากฏขึ้นในความคิดอีกครั้ง เธอดึงดูดความสนใจจากเขาไปทั้งหมด เป็นเหตุผลที่เขาเลือกอดทนและให้เวลากับเธอมากกว่าคนอื่นที่ถ้าเล่นตัวนักก็มักจะเขี่ยทิ้งตามนิสัย
“ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจบแค่คืนเดียว”
“กูบอกมึงไปแล้วว่าสนใจ” เขาตอบเสียงเย็นก่อนจะเคาะเถ้าบุหรี่ลงเบาๆ บนที่เขี่ยอีกครั้ง
“ถามจริงๆ กับพี่เทีย ตอนนี้มึงยังรู้สึกอยู่หรือเปล่า?”
ร่างหนาบนโซฟาไม่ได้ตอบในทันที มีเพียงท่าทางนิ่งเฉยแบบคนที่เก็บความคิดทุกอย่างไว้ข้างใน พร้อมกับบุหรี่ในมือที่ค่อย ๆ มอดลงอย่างช้า ๆ
ผ่านไปครู่ใหญ่เจ้าของในตาคมถึงตอบกลับ “กับคนแบบนั้นทำไมต้องรู้สึก”
“อืมก็ดี ว่าแต่เธอชื่ออะไรของเดิมพันชิ้นโปรดของมึง”
“เจียร์”
“น่าสนใจจริงๆ อย่างที่มึงว่า” ตาคมตวัดมองน้องชายที่เอ่ยแบบนั้นทันที ด้วยความสงสัยเขาจึงถาม “ทำไม?”
“ขนาดมึงยังถูกใจ….แล้วกูจะถูกใจบ้างไม่ได้หรือไง”
ล่าหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “กว่าจะไปถึงมือมึงคงไม่น่าเชยชมแล้วคลื่น”
เขาพูดพลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ด้วยสีหน้าที่ดูไม่ใส่ใจ ล่าพูดไปอย่างนั้นเพราะเขาไม่เคยคิดจะถนอมผู้หญิงคนไหน โดยเฉพาะกับคู่นอน ไม่เคยมีความหมายอะไรมากไปกว่าความสนุกชั่วคราว
“กูแค่พูดว่าสนใจก็รีบกันท่าใหญ่เลยนะ”
“กูไม่ได้กันท่า” ล่าพูดพลางยกบุหรี่ขึ้นสูบอีกครั้ง สายตาคมจับจ้องไปยังปลายควันคลุ้ง
คลื่นหัวเราะเบาๆ เหมือนคนที่รู้อยู่แล้วว่าพี่ชายจะตอบแบบไหน “ก็เห็นมีคนเดียวที่มึงถนอมเขาฉิบหาย แต่กับคนนี้เดี๋ยวกูจะถนอมเธอเอง”
ล่าหันไปมองน้องชายอีกครั้งเมื่อเริ่มทำตัวน่ารำคาญ ปลายบุหรี่ในมือถูกกดลงกับที่เขี่ยอย่างแรงจนควันดับทันที ก่อนจะพ่นคำพูดด้วยน้ำเสียงปนข่มขู่แม้อีกฝ่ายจะเป็นน้องชายก็ตาม
“ไม่ถนอมใครมันก็เรื่องของกู…แต่ถ้ามึงกล้ายุ่ง ระวังจะไม่ได้มานั่งหัวเราะแบบนี้อีก”