เธอก็ว่าปีนี้ไม่ใช่ปีชงของเธอ เอ๊ะ หรือจะเป็นเพราะว่าเกิดดวงชะตาประเภทที่เขาว่าเป็นเบญจเพสย้อนหลังกันนะ...บุษบามินตราก็ชักจะไม่แน่ใจเท่าไรนัก
หญิงสาวกลับบ้านหลังจากนั้น โดยมีวชรวรรธนั่นแหละบังคับมาส่ง เธอหรืออุตส่าห์บอกเขาแล้วว่าเธอกลับเองได้ แต่พี่เดย์กลับไม่สนใจฟังคำพูดของเธอ แต่เลือกจะฉุดเธอออกจากโรงแรม ยัดใส่รถสปอร์ตของเขาแล้วพาเธอมาโยนส่งหน้าบ้าน แถมก่อนจะไปยังมีหน้ามาสั่งเธออีกว่า
‘นี่ รีบไปจัดการบอกพ่อให้เรียบร้อยแล้วมาขอพี่ให้ไว เข้าใจไหม’
เธอตอบกลับคำสั่งนั้นด้วยการปิดประตูรถราคาห้าสิบแปดล้านรวมภาษีมูลค่าเพิ่มของเขาดังลั่น ใจนึกอยากชูนิ้วกลางใส่แต่ระงับไว้ ไม่ใช่กลัวไม่งาม แต่กลัวพี่เดย์จะลงจากรถแล้วลงโทษเธอข้อหาหยาบคาย แม้ว่าเขาจะสมควรได้รับก็ตามที
เหอะ! ให้พ่อมาขออะไร! ไหนเขาบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้เองไม่ให้เธอต้องมายุ่งไงล่ะ!
สุดท้ายพี่เดย์ไม่ได้ลงมา ขณะที่เธอก็เข้าบ้านไป โชคดีพ่อกับแม่ของเธอไม่ซักถามอะไร พวกท่านรู้อยู่แล้วว่าเธอจะค้างที่โรงแรมที่จัดงานแต่งงานเมื่อคืนนี้ ซึ่งกลายเป็นโชคดีของเธอที่ทำให้เธอไม่โดนจำผิดว่าเหตุใดเธอถึงมีสภาพสุดโทรมอ่อนเพลียกลับมาบ้านอย่างนี้!
เมื่อมาถึงห้องนอน บุษบามินตราก็รีบกระโดดขึ้นมาบนเตียงอย่างว่องไว อาการปวดหัวเพราะเมาค้างเล่นงานเธออีกครั้ง แต่รู้ดีว่าไม่มากพอเท่ากับตอนที่เธอรับรู้ความจริงว่าเธอกับวชรวรรธมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันไปแล้วหรอก
โชคดีนะเธอจำอะไรเมื่อคืนนี้ไม่ได้เลย ถ้าเธอจำได้นะ ฮึ่ม... เธอคิดว่าเธออาจจะต้องไปกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาล้างอายอย่างแน่นอน!
บุษบามินตราคิดๆ ไปแล้วก็ได้แต่ปวดหัว เธอยอมรับว่าตัวเองนั้นแต่ไหนแต่ไรก็แพ้ทางคนอย่างวชรวรรธอยู่ด้วย แถมตอนนี้เธอก็ตกเป็นเบี้ยล่างเขาอย่างชัดเจน หลังจากที่อุตส่าห์หลบเลี่ยงเขามาได้นานหลายปีนับตั้งแต่เขาไปเรียนต่อที่อเมริกา พอเขากลับมาเธอก็เลือกพาตัวเองหลบหน้าเขา รอดพ้นมาได้เกือบปีแท้ๆ แต่สุดท้ายก็กลับกลายมาเป็นเบี้ยล่างของเขาอีกครั้งจนได้ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้หมอนี่จะมีแผนการอะไรไว้หรือเปล่านะ รู้อย่างนี้ตอนนั้นไม่น่าสติแตกแล้วยอมรับปากว่าจะเป็นฝ่ายยอมให้เขาจัดการปัญหานี้เลย
ฮือ มาคิดได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้วสินะ
หญิงสาวได้แต่เจ็บใจ มือเล็กฉวยหยิบเอาตุ๊กตาแมวตัวเก่าแสนรักของตนเองขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ด้วยความกลัดกลุ้มใจ ซึ่งตอนนี้เธอก็ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้วชรวรรธเล่นอะไรแผลงๆ เลยก็แล้วกัน!
ทว่าถึงจะภาวนาอย่างนั้น แต่พอแค่นอนหลับ บุษบามินตราก็ได้แต่เจ็บใจเพราะคนบางคนขนาดในความฝันยังตามไปรังควานเธออยู่เลย!
๐๐๐
“อ้าวมิ้นต์ ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”
คำถามจากทางเบื้องหลังพร้อมกับมือของเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่วางบนบ่าทำให้บุษบามินตราซึ่งมั่นใจว่าตนเองนั้นหลบซ่อนตัวดีแล้วถึงกับสะดุ้งโหยง
“ไนต์”
เธอเรียกชื่อเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านและเป็นทั้งเพื่อนร่วมชั้น เพื่อนสนิท รวมถึงลูกชายของเจ้านายของพ่อพลางถอนหายใจยาวหลังจากหายตกใจ
อีกฝ่ายพอเห็นท่าทางและสีหน้าของเธอเช่นนั้นก็พลันหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“อะไรกัน ที่ทำลับๆ ล่อๆ นี่คือหลบเฮียเดย์เหรอ โอ๊ย ไม่ต้องห่วงหรอก วันนี้เฮียไม่อยู่บ้าน เขามีนัดกับเพื่อนสนิทเขาล่ะมั้ง ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว”
คำตอบของตุลยวัตรทำให้บุษบามินตรามีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อบังคับให้เธอมาบ้านนี้ด้วยกัน เด็กสาวก็ไม่ค่อยอยากมาหรอก ถึงจะเป็นงานวันเกิดของใครสักคน แต่ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเธอสักหน่อยจริงไหม
“งั้นก็โล่งใจหน่อย”
บุษบามินตรายกมือทาบอกแล้วทำท่าถอนหายใจอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะยอมออกจากที่ซ่อนมุมตึกแล้วเดินตามเพื่อนสนิทต้อยๆ ตรงไปยังห้องนั่งเล่นส่วนตัวของคฤหาสน์ศิรานันท์ซึ่งอยู่บนชั้นสอง และมักเป็นสถานที่ที่เธอมักจะหลบซ่อนหมกตัวเวลามาบ้านหลังนี้ทุกครั้งนั่นแหละ
“ฉันล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมิ้นต์ถึงไม่ถูกกับเฮียเดย์ขนาดนั้น”
เพื่อนสนิทบ่นพึมพำ ขณะที่โบกมือให้เธอเดินนำเข้าไปในห้อง ส่วนเขากดกริ่งเรียกแม่บ้านแล้วจึงเดินตามเข้ามา โดยเปิดประตูห้องทิ้งเอาไว้
เธอเบ้ปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น