วันนี้ฉันนัดไอ้มี่มาดื่มหลังจากที่ทำแต่งานจนนานๆ จะได้เจอเพื่อนรักสักที เพราะต่างยุ่งด้วยกันทั้งคู่
“ไงมึง?”
ฉันเดินเข้ามาในร้านเหล้าร้านประจำของพวกเราที่เคยนั่งดื่มกันตั้งแต่สมัยเรียน และมันก็เอ่ยถามฉันขึ้น
“แม่ง! งานยุ่งเหรอมึง ขนาดอยู่คอนโดเดียวกันยังไม่มีเวลาเจอกันเลย”
“เออดิ...งานกูหนักบางอาทิตย์ต้องออกไปต่างจังหวัดด้วย” ไอ้มี่มันพูดพร้อมแสดงอาการเหนื่อยๆ ออกมา
“วันนี้เต็มที่มึงพรุ่งนี้หยุด”
“แล้วไอ้แบงค์ล่ะ?”
“ไปสัมมนาต่างจังหวัดว่ะ”
“พวกมึงใกล้แต่งงานกันแล้วดิ”
“เออ...สิ้นปีนี้ มึงทำตัวให้ว่างมางานแต่งกูด้วยล่ะ”
“เออ...กูไม่พลาดแน่”
“มึงชวนใครหรือยัง?”
“ยัง...กูบอกมึงคนแรกเลย”
“ไอ้ดรีม โต๊ะข้างๆ มองมึงว่ะ”
ฉันหันไปก็เจอเข้ากับชายหนุ่มสามคนที่กำลังนั่งมองมาทางโต๊ะฉันอยู่
“กูว่าไอ้แบงค์มันปล่อยมึงให้คาดสายตาไปไหนไม่ได้เลยว่ะ...มีแต่คนจ้องจะกินมึงนะ 555 สมกับที่เคยเป็นดาวมหาลัยนะคะเพื่อนสาว”
ใช่ถ้าวันนี้แบงค์ไม่ไปสัมมนาเธอคงไม่ได้มาดื่มกับเพื่อนแน่ๆ
ไอ้มี่มันพูดมาอย่างหยอกล้อ ทำให้ฉันมั่นใจในความสวยของตัวเองขึ้นไปอีก
“ไม่ลองหน่อยเหรอวะ?”
“ลองเชี้ยไร...กูจะแต่งงานแล้ว”
“เออ! กูลืม”
“มึงเนี่ยนะ กูพึ่งชวนมึงไปงานแต่งเมื่อกี้เองทำเป็นลืม แล้วชีวิตรักมึงเป็นไงบ้างวะ?” ฉันหันไปถามไอ้มี่ เพราะตอนนั้นเห็นมันคั่วอยู่กับเอ็มเด็กวิศวะแล้วก็เงียบๆ ไป
“กูเหรอ หึ!” มันพูดแล้วหัวเราะออกมาในลำคอ พร้อมสาดเหล้าลงคอจนหมดแก้ว
ปัง! ฉันต้องสะดุ้งโหยง เพราะเพื่อนตัวดีกระแทกแก้ว ลงโต๊ะอย่างแรงและเกิดอาการตาขวาง
“เป็นไรว่ะมึง?”
“ก็ไอ้เหี้ยเอ็มแม่ง...มันทิ้งกูไปแล้วนะสิ มันบอกมันไปทำใครท้องก็ไม่รู้ แม่ง!”
“ห๊ะ....แล้วมึงโอเคอยู่ใช่ไหม?”
“เออ...กูโอเค ตอนนี้ยังไม่แก่ ยังมีเวลาหาใหม่ และตอนนี้ก็เหมือนกูจะเจอแล้วด้วย”
ฉันมองตามสายตาไอ้มี่ มันมองไปที่โต๊ะข้างๆ อย่างสนใจ พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นทำท่าชนแก้วกับผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่
“มึงนี่ก็นะ มูฟออนไวมาก” ฉันมองหน้าเพื่อนสาว แล้วต้องส่ายหัวให้กับคนจัดการความรู้สึกเก่งอย่างมัน
“อย่าไปดิ่งกับ...กล้วยอันเดียวดิวะ! มันยังมีอีกตั้งหลายกล้วย ที่รอเราอยู่ตั้งเยอะแยะ ความหรรษาอยู่ตรงหน้ากูอีกแล้วว่ะไอ้ดรีม” ไอ้มี่พูดพร้อมยิ้มกริ่มอย่างมีความหวัง
ตอนนี้ไอ้มี่ มันไม่สนใจฉันเลย มันมองแต่ผู้ชายโต๊ะข้างๆ มันอย่างเดียว และตอนนี้มันก็เดินไปชนแก้วกับเขาแล้วด้วย
เป็นตามที่ไอ้มี่มันหวังไว้จริงๆ มันลากผู้ชายคนนั้นมานั่งที่โต๊ะพร้อมคุยกันอย่างสนิทสนมหลังจากนั้นฉันก็แยกย้ายกับมันกลับคอนโด แต่ไอ้มี่ฉันไม่รู้ว่ามันลากผู้ชายคนนั้นไปกินที่ห้องหรือเปล่าเพราะไม่ได้กลับรถคันเดียวกัน
หลังจากที่แบงค์กลับมาจากงานสัมมนาบริษัท เขาก็ดูแปลกๆ แบงค์ชอบเหม่อลอย และพอสะดุ้งออกจากภวังค์ แบงค์จะบอกรักฉันทันที
"แบงค์...กินข้าวก่อนสิ เหม่ออะไร คิดอะไรอยู่?"
"แบงค์รักดรีมนะ รักมากด้วย"
เขาพูดแววตาเศร้า แถมรอยยิ้มของเขาก็เปลี่ยนไป ไม่สดใสร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
"ดรีมรู้แล้วว่าแบงค์รักดรีม กินข้าวก่อนเถอะ"
ฉันต้องทำตัวร่าเริง ให้เขาสบายใจ แบงค์คงโหมงานหนักเพื่อมาสร้างเรือนหอ และคงจะเคลียดกับงานมากแน่ๆ
ฉันนั่งทานข้าวจนหมด แต่แบงค์เหมือนเขามีเรื่องให้คิด และกินข้าวน้อยลงกว่าปกติมาก
"มานี่แบงค์...เหนื่อยไหม มาเรานวดให้" ฉันดึงมือแบงค์มานั่งที่โซฟา พร้อมถอดเสื้อเขาออก และบีบนวดให้ทั้งตัว
เขาหลับตาพริ้ม และเหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมาตรงหางตานิดหน่อยฉันพอจะสังเกตเห็น
"แค่เมียนวดให้ถึงกับซึ้งน้ำตาไหลเลยเหรอคะที่รัก?"
"อืม" เขาตอบและมองหน้าฉันด้วยสายตาที่มันปลื้มปริ่ม พลางเอามือมาลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน
1 เดือนต่อมา
วันนี้เราสองคนต้องไปลองชุดแต่งงานด้วยกัน และต้องถ่ายพรีเวดดิ้งในวันนี้ด้วย
“รูปสวยดีนะแบงค์”
ฉันกับแบงค์เปิดอัลบั้มรูปดูด้วยกันสองคนตอนนี้ฉันนั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาโดยมีเขานั่งซ้อนหลังฉันอยู่ เราสองคนกำลังดูรูปที่ไปถ่ายมาด้วยกันวันนี้ มันสวยมาก แบงค์หอมแก้มและกอดฉันเอาไว้แน่น
“เราใกล้จะแต่งงานกันแล้วนะ แบงค์ดีใจไหม?”
“ดีใจสิ แบงค์รอวันนี้มานานแล้วนะดรีม แบงค์รักดรีม”
เช้าวันต่อมา
8.00 น.
“แบงค์วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ?”
ฉันหันไปปลุกคนที่นอนอยู่ข้างๆ นี่มันจะ 8.30 น. แล้ว แต่เขายังนอนนิ่ง
“แบงค์ลาหยุด 3 วันนะดรีม”
“อ้าวเหรอ...ไม่เห็นบอกดรีมเลย”
“โทษทีแบงค์ลืมน่ะ”
“งั้นแบงค์ก็นอนต่อเถอะ เดี๋ยวดรีมอาบน้ำไปทำงานก่อน”
ก๊อก ก๊อก
“เสียงใครมาเคาะประตูห้องแต่เช้านะ!”
เธอมองด้วยความสงสัย ถ้าเป็นไอ้มี่เพื่อนสาวก็คงจะไม่ใช่แน่ๆ เพราะป่านนี้มันก็คงออกไปทำงานแล้ว
ตอนนี้ฉันส่องตาแมว เป็นผู้หญิงคนนึงที่กำลังยืนอยู่ที่หน้าห้อง
“มาเคาะผิดห้องหรือป่าวคะ?” ฉันเปิดประตูไปถาม เพราะไม่คุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้เอาซะเลย
“พี่แบงค์อยู่ห้องนี้หรือเปล่าคะ?” ฉันมองหน้าเธออย่างแปลกใจ ทำไมเธอถึงรู้จักแฟนของฉัน
“มีธุระอะไรกับเขาเหรอ?”
“เมย์ขอพบพี่แบงค์หน่อยค่ะ”
เธอยืนยันจะขอพบแบงค์อยู่ท่าเดียว และไม่ยอมบอกฉันด้วยว่าเรื่องอะไร แถมยังมองฉันหัวจรดเท้า พร้อมสายตากับน้ำเสียงที่แข็งกร้าวมากขึ้น
“ดรีม...มีอะไรเหรอ?”
แบงค์เดินมาหาฉันทั้งที่ไม่ได้ใส่เสื้อ และหน้าตายังงัวเงียอยู่ ทีแรกฉันไม่อยากไปปลุกเพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนการนอนของแบงค์
“มะ เมย์....มาที่นี่ได้ไง” แบงค์มองเธออย่างตกใจ
“พี่แบงค์....” เธอลากเสียงชื่อเขาอย่างออดอ้อน
ฉันมองการกระทำของเธอ ก่อนที่จะหันมามองแบงค์อย่างสงสัย
“ใครอ่ะแบงค์?”
“น้องที่ทำงาน”
“กลับไปก่อนเมย์...มีอะไรค่อยคุยกัน” เขาพยายามจะดันประตูปิด และดึงฉันเข้ามาในห้อง แต่หญิงสาวคนนั้นก็ผลักประตูเอาไว้ซะก่อน
“พี่แบงค์...เมย์ท้อง”
“ห๊ะ...เธอว่าอะไรนะ?” ตอนนี้ฉันยืนไม่ค่อยจะอยู่และรู้สึกว่าตัวเองชา และเย็นวาบไปทั้งหัวเหมือนจะเป็นลม
“ฉันท้องกับพี่แบงค์”
“เมย์...พูดอะไรออกมา”
“พี่แบงค์...เมย์ท้องจริงๆ นะ เมย์ท้องได้เดือนกว่าๆ แล้ว”
ตอนนี้ฉันหันไปมองแบงค์ทั้งที่ในตามันสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่มันไหลออกมาคลอเบ้า
“กลับไป...” เสียงแบงค์หันไปตะหวาดผู้หญิงคนนั้นจนตัวสะดุ้งโหยง
“เธอได้ในสิ่งที่เธอพอใจแล้วใช่ไหม? กลับไป” เขาพูดพร้อมกับปิดประตูดังปัง!ลั่นไปทั้งตึก
ฉันเดินกลับมานั่งที่โซฟาอย่างเหม่อลอย พร้อมกับเอามือสองข้างปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างสุดเสียง
“ดรีม....ฟังแบงค์อธิบายก่อน”
ฮือๆๆๆๆ นี่เขาจะมาอธิบายอะไรอีกในเมื่อทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนั้น ฉันจะไม่เชื่อผู้หญิงคนนั้นเลยถ้าหลังจากที่เขากลับมาจากสัมมนาเขาไม่เปลี่ยนไปขนาดนี้
“แบงค์พลาดไปแล้วดรีม...”
“พลาด?”
“พลาดเหี้ยอะไรของมึง...อีกไม่กี่วันมึงกับกูก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว มึงไปพลาดเหี้ยอะไรของมึงมา มึงทรยศความรักของกูได้ไงวะ ไอ้เหี้ย...”
ฉันทนกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ไหว เลยใส่ออกไปเป็นชุดอย่างสุดที่จะทน
“แบงค์ขอโทษดรีมแบงค์เมา...แล้วเมย์มันก็จ้องจะจับแบงค์”
“มึงก็รู้ตัวหนิว่าเขาจะจับมึง แล้วทำไมมึงไม่ระวัง”
“มึงออกไป...ออกไปจากห้องกู” ฮือๆๆๆ
ตอนนี้ทั้งฉันและมันต่างก็มีน้ำตาด้วยกันทั้งคู่ มันร้องไห้ออกมาเพราะรู้ว่าตัวเองทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต
แต่เรื่องแบบนี้จะให้ฉันนิ่งเฉยและเดินหน้าแต่งงานกับมันต่อไปก็คงจะไม่ได้
“มึงไปดูแลเมีย...กับลูกมึงเถอะแบงค์ ปล่อยกูไป” ฉันพูดเพราะแบงค์มันมากอดฉันเอาไว้แน่น
“แบงค์รักดรีม...รักดรีมคนเดียว อย่าไล่แบงค์ไปเลยนะ แบงค์ขอโทษ”
“มึงมีสิ่งที่มึงต้องรับผิดชอบแล้วแบงค์...เอาแหวนของมึงคืนไป”
ฉันผลักมันออก และปาแหวนใส่หน้ามันอย่างเหลืออด พร้อมเดินไปหยิบเสื้อยืดกับกางเกงปาใส่มันไปอีกชุด
ปัก! “ฮือๆๆๆ มึงรีบใส่เสื้อผ้า แล้วรีบออกไปจากห้องของกู...กูไม่อยากเห็นหน้ามึงแล้ว”
“ดรีม....” มันพูดพร้อมจะเข้ามากอด แต่ฉันก็ผลักมันออก
“ของใช้ของมึงที่อยู่ในห้องนี้ กูจะเก็บส่งตามมึงไปที่หลัง เงินเก็บที่มีบัญชีร่วมกันเอาไว้กูพร้อมแล้วกูจะนัดมึงไปถอนพร้อมกัน ส่วนเรื่องเรือนหอที่สร้างพึ่งเสร็จ มึงก็บอกขายไปได้เลย หรือมึงจะเอาเงินอีกครึ่งนึงมาให้กูแล้วก็เอาเมีย เอาลูกมึงไปอยู่ก็เชิญตามสบาย”
ฉันพูดกับมันพร้อมทั้งน้ำตาเอามือปาดน้ำตาออก แต่ไอ้น้ำตาเวรนี่ก็ยังไหลออกมาไม่หยุด ฉันไม่อยากร้องไห้ต่อหน้ามัน และไม่อยากอ่อนแอให้มันเห็นคนทรยศ
ตอนนี้ใจฉันพังไปหมดแล้วมันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันนั่งฟุบลงไปกับพื้นพร้อมปิดหน้าร้องไห้
“ดรีม ฮือๆๆๆ แบงค์ขอโทษ แบงค์....”
“ออกไป....” ฉันไล่มันอย่างสุดเสียง ไม่อยากฟังที่มันอธิบายอะไรทั้งนั้น
กรี๊ดดดดด (((((ออกไป)))))