หลังจากวันนั้นไม่กี่เดือนบ้านก็ขายได้ แบงค์มันก็โอนเงินอีกครึ่งเข้าบัญชีของฉัน และเรื่องของเรามันก็จบ ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก
ฉันปล่อยเวลากับเรื่องความรักไปหลายปี ฉันคิดว่าฉันอยู่ได้ เหงาก็ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างกับน้องที่ทำงานบ้าง
บางครั้งฉันก็คิดว่าตัวเองเป็นพวกอินโทรเวิร์ต ชอบอยู่กับจินตนาการของตัวเอง ดูซีรี่ทีไร แล้วก็เอามามโนว่าพระเอกซีรี่ย์คือแฟนของฉัน
บางครั้งฉันก็หาความสุขโดยการไปเที่ยวกับน้องๆ ที่ทำงาน พวกมันชอบไปดูคอนเสิร์ต เคป๊อป และฉันก็ไปกับพวกมัน ฉันกรี๊ดกกร๊าดไอดอลไปเรื่อยและหลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ เปย์ทุกอย่างตามเขาไปทุกที่ที่เขามาไทย เมื่อไรจะมีผู้ชายหน้าตาดีๆ เหมือนในซีรี่ย์ มาให้กินตับสักทีน้อ!.....
“ไอ้ดรีม 30 กว่าแล้วนะมึง มึงยังไม่คิดจะมองใครอีกเหรอไง?”
เสียงไอ้มี่ที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ฝั่งตรงข้ามฉันตะโกนถามผ่านเสียงเพลงที่ดังในผับ
ใช่ตอนนี้ อายุก็ปาไป 30 กว่าแล้ว แต่ฉันยังจะเข็ดกับความรักครั้งเก่าอยู่และก็ยังเริ่มใหม่กับใครไม่ได้เอาซะเลย ตอนนี้ฉันตั้งสเปคไว้สูง ถ้าไม่เหมือนหรือเทียบเท่าไอดอลที่ฉันหลงรักเขาฉันก็จะปัดตกไปเลย
“ยังว่ะ”
“กูถามมึงกี่รอบ มึงก็ตอบกูแบบนี้ ไอ้เวร...”
ดูท่าทางไอ้มี่มันจะหงุดหงิด กับคำตอบของฉันมาก มันชอบบอกว่ามันเสียดายความสวยของฉัน มีผู้ชายผ่านเข้ามาฉันก็ยังจะไม่สนใจเลยสักนิด
“ชาตินี้มึงจะใช้แค่กล้วยอันเดียวไม่ได้นะโว้ย! ยังมีคนอื่นอีกตั้งเยอะ อาจจะเด็ดกว่าไอ้แบงค์ก็ได้”
ฉันตะหวัดสายตาไปมองมันที่มันยังเอ่ยชื่อของไอ้คนที่ทำให้ฉันเสียใจอีก
“กูยังไม่คลิกกับใครเลยว่ะมึง”
“มึงอย่าปล่อยให้ตัวเองแก่ไปมากกว่านี้เดี๋ยวมันจะสายเกินไปนะเว้ย!”
ฉันหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม และมองไปรอบๆ โต๊ะ มันก็มีผู้ชายหลายคนที่หน้าตาดีๆ นะ แต่ทำไมใจมันไม่คิดจะมองใครเลยวะ แม่ง!
“กูมีมึงเป็นเพื่อนแดกเหล้าด้วยทุกคืน กูก็หายเหงาแล้วมึง” ฉันหันไปบอกกับเพื่อนรัก เพราะตอนนี้ฉันมีความสุขกับสิ่งรอบตัวแค่นี้จริงๆ
“ไอ้ดรีมสิ้นปีนี้กูจะแต่งงานแล้วนะมึง” ฉันเบิกตากว้างตะลึงกับคำพูดของมัน มันจะแต่งงานแล้วเหรอ...แล้วฉันล่ะ? ไอ้มี่ไอ้เพื่อนเวรจะหนีกันไปซะแล้ว
“มึงจะแต่งเดือนไหน?” ฉันหันไปถามมันและเก็บอาการสลดไว้ในใจ
“อีก 3 เดือน”
“อืม” ตอนนี้ฉันยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เพื่ออำพลางความเศร้า นี่ไอ้มี่มันจะแต่งงานแล้วจริงๆ เหรอนี่!
ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้คิดอะไรจนไอ้มี่มันมาบอกกับฉันวันนี้ล่ะ แล้วตอนนี้มันก็ทำให้ฉันใจหาย
ไอ้มี่มันพบรักกับนักบินรูปหล่อมันเคยพามาเจออยู่สองครั้ง และเขาก็ดูจะรักมันมาก ขอมันแต่งงานตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้มันพึ่งจะมาบอกฉันเนี่ย
ฉันกลับมาบ้านและก็มามองดูตัวเอง แม่ง! แล้วกูล่ะ ทำไมยังเปิดใจรักใครไม่ได้เลยวะ?
เช้าวันต่อมา
“อ้าวป้า...มาทำงานแต่เช้าเลยเหรอ?”
“เออ!” เธอหันไปมองหน้าไอ้โบ รุ่นน้องปากหมาคนสนิทอย่างเคืองๆ
แม่ง! คำก็ป้าสองคำก็ป้า ไม่ให้เกียรติดาวคณะเก่าอย่างกูบ้างเลย
ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันก็ยังทำงานอยู่ที่เดิม บริษัทแรกที่ฉันเรียนจบมา จนตอนนี้ พี่โมเจ้าของบริษัทไว้ใจฉันมากและให้ฉันเป็นหัวหน้าเพราะทำงานที่นี่มานาน
ตอนนี้ฉันอายุเกือบจะ 37 แล้ว พี่โมไว้ใจฉันให้ดูแลงานและคุมน้องๆ ที่เข้ามาใหม่ ตอนนี้เหมือนเป็นบริษัทของฉันไปแล้วละค่ะ เพราะนานๆเจ้านายจะเข้ามาที่บริษัทสักที
ฉันมีลูกน้องเป็นสิบคน แต่ที่นั่งออกแบบอยู่ในห้องเดียวกับฉันก็มีกันอยู่ 5 คน นอกนั้นก็เป็นช่างที่นั่งอยู่อีกห้องด้านนอก
ไอ้โบ ปากหมาหน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ดีที่มันอายุยังน้อยเลยพอจะมีผู้ชายคุยกับมันอยู่บ้าง
ไอ้จิน ไอ้นี่มันดูสวยแบบอาร์ตๆ เซอร์ๆ ก็สวยในแบบของมันอ่ะนะ
ไอ้มินนี่ ไอ้นี่มันออกทรงลูกคุณหนูน่าทะนุถนอม
ส่วนไอ้ม่อนกับไอ้เจมส์ ไอ้พวกนั้นมันผู้ชายไม่ค่อยจะอะไรมากเท่าไร
ก่อนหน้านี้พวกมันก็เรียกฉันว่าเจ้ นะคะ แค่เจ้ ฟังดูมันก็ไม่ลื่นหูเท่าไรแล้ว ตอนนี้มาเรียกฉันป้าอีก ก็ไอ้จินน้องแผนกช่างมันพาลูกมันมาไหว้ฉันวันนั้น
“สวัสดีป้าดรีมก่อนเร็ว น้ำมนต์”
“สวัสดีค่ะ ป้าดรีม” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กผู้หญิงวัย 4 ขวบ พูดออกมาอย่างน่ารัก
“สวัสดีค่ะ น้องน้ำมนต์ เรียกพี่ดรีมได้ไหมคะ?” ฉันก้มหน้าไปรับไหว้เด็กน้อยพร้อมพูดด้วยอย่างหยอกล้อ แต่ก็ต้องตะหวัดสายตาไปหาไอ้โบปากหมา
“โห เจ้ แก่แล้วยอมรับไปเถอะ 555” พอไอ้โบพูดแซวฉัน ทั้งห้องก็ต่างขำ
“ไอ้พวกเวร....”
ตั้งแต่นั้นมาพวกมันก็เรียกฉันป้าบ้างเจ้บ้างไม่มีใครเรียกฉันว่าพี่เลยสักคน กวนตีนชะมัด!
ส่วนมากเวลาไปกินเหล้าฉันจะเป็นคนเลี้ยงและก็ยกโขยงไปกันหมด พวกแม่งก็นะยังวัยรุ่น เดินไปชนแก้วไปจีบใครก็ได้ แล้วพวกมันก็เลือกแต่ผับที่ติดมหาลัยมีแต่นักศึกษา แล้วฉันจะไปมองใครได้ล่ะ จะมองเด็กมันก็ไม่เล่นด้วย คงมองได้แต่อาจารย์เท่านั้นละมั้ง แล้วแม่งอาจารย์จะมาเที่ยวผับให้กูเห็นสักคนไหม
แม่ง! จะมาโสดถึงอายุ 40 ไม่ได้นะเว้ย...ไอ้ดรีม
เธอนั่งบ่นพึมพำกับตัวเอง และหันไปสนใจงานออกแบบที่ทำค้างไว้ในคอมต่อ พร้อมกับถอนหายใจออกมา
พอนึกถึงคำที่ไอ้น้องเวรพวกนี้เรียกป้าบ้าง เจ้บ้าง ถึงกับต้องส่ายหัว แม่ง! คิดแล้วมันก็เศร้ายังไงบอกไม่ถูก แถมยังมาโสดอีก ตั้งแต่เลิกกับไอ้แบงค์มาผู้ยังไม่ตกถึงท้องเลยสักคน
แล้วไอ้พวกน้องเวรนี่ยังมาบลูลี่เรื่องอายุอีก คำก็แก่สองคำก็แก่ ก็ไอ้คำว่าแก่พูดเบาๆ มันก็เจ็บอ่ะเนอะ!
ฉันหยิบกระจกบานเล็กข้างโต๊ะทำงานมาส่องที่ใบหน้า
แม่งรอยตีนกา กับร่องแก้มเริ่มมาแล้ว เชี้ย! ผมหงอกยังมาโด่ส่องกับแสงไฟให้เห็นอีก ฉันแอบหยิบแหนบในลิ้นชักขึ้นมา และถอนมันออกอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่อยากให้ไอ้น้องเวรพวกนั้นเห็นเดี๋ยวมันจะว่าฉันแก่อีก
แม่งโว้ย! จะไปโบท็อกก็เสือกจะมากลัวเข็มอีกเวรแท้ๆ ชีวิต!
ตอนที่ไปร้านเหล้ากับพวกมันฉันก็ได้แต่นั่งเป็นป้าจะไปอ่อยไปแอ๋วใครก็ไม่ได้ เจอพวกเด็กๆ มันแซง ได้แต่นั่งแดกเหล้าเงียบๆ ชีวิตไม่หวือหวาเหมือนพวกมันเอาซะเลย พวกแม่งเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อย แถมยังสต๊อกผู้ชายไว้คุยแก้เหงาได้อีก
ฉันน่าจะเชื่อไอ้มี่เพื่อนของฉันลองมองใครบ้าง ตอนนี้จะทันไหมวะ? จะ 40 อยู่แล้ว
หลังเลิกงานฉันแวะซื้อพวงมาลัยพวงใหญ่มาไหว้ที่หัวนอนของฉัน และสวดมนต์ภาวนาอธิฐานขอให้ฉันได้ดังที่ใจหวังไว้ด้วยเทอญ สาธุ
ตอนนี้ฉันได้แต่ภาวนาทุกคืน ขอและอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้หนังหน้าของฉันกลับไปเป็นสาวสวยเหมือนเดิม สัก 20 ต้นๆ ก็คงจะดี
ขอให้ผิวของฉันสวยออร่าเหมือนตอนที่ฉันอยู่มหาลัย หุ่นดีเหมือนนางแบบซุปเปอร์โมเดล เอาแบบให้เดินไปบริษัทแล้วไอ้น้องพวกนั้น งงไปเลย! และที่สำคัญอีกข้อ ที่ฉันขอ
หนูขอให้เจอผู้ชายดีๆ ที่กล้วยใหญ่ๆ ยาวๆ และรวย และรักหนูมากๆ ด้วยเถิดนะเจ้าคะ เอาแบบหน้าตาเหมือนพระเอกเกาหลีเลยได้ยิ่งดี สาธุ
ฉันล้มตัวนอนและก็คิดถึงคำพูดไอ้มี่ ชาตินี้มึงจะมาใช้แค่กล้วยอันเดียวไม่ได้นะ
ใช่ชาตินี้จะมาใช้กล้วยของไอ้แบงค์แค่อันเดียวมันก็ไม่สมกับที่เกิดมาเป็นดาวมหาลัยเลยกู คิดถึงคำที่เพื่อนเตือนแล้วฉันน่าจะเชื่อมันตั้งแต่ทีแรก ไอ้แบงค์นะไอ้แบงค์ มาทำให้กูเข็ดได้ขนาดนี้ กูน่าจะสะสมและได้ลิ้มลองหลายๆ อันก่อนที่จะแก่ตายดิวะ
อยากกินเด็ก อยากมีเซ็กส์ อยากมีแฟนแล้วโว้ยยยยยยย!!!
และข้อความพวกนั้นฉันก็บอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกคืนนั่นแหละ ถึงมันไม่มีโอกาสจะเป็นไปได้ก็ตาม.... เห้อออออ...ท้อว่ะ!
นี่ฉันจะต้องแก่ตายโดยไม่มีผู้ชายตกถึงท้องเลยเหรอเนี่ย!!!