เรื่องราวคุณหนูใหญ่และการตายที่มีเงื่อนงำ

1286 คำ
คฤหาสน์ตระกูลเวสิกา แอ๊ด~ “ไงยัยหนูใหญ่ ลุงอุตส่าห์มาหาทั้งทีไม่คิดจะออกไปต้อนรับหน่อยเหรอ” สุวัตน์ ลุงแท้ๆ ของ นารัน หรือ นารัน เวสิกา อายุ 40 ปี ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็เป็นถึงหัวหน้าตระกูลเวสิกาคนปัจจุบันและยังเป็นหนึ่งในคนที่จะได้เข้ารับการโหวตเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียฝั่งทิศพายัพ “คุณลุงมีอะไรคะ?” นารันไม่ชอบสายตาญาติคนนี้ของตัวเองเลย ตัวเธอน่ะเสียพ่อแม่และน้องสาวไปตั้งแต่ 20 ปีก่อน ทั้งที่พ่อของเธอต้องการแค่ชีวิตที่แสนสงบสุขกับครอบครัวแต่พอรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนมือผู้นำกลับถูกปองร้ายจนเสียชีวิต มีเพียงเธอที่วันนั้นรอดตายเพราะนัดชายหนุ่มคนรักเลยไม่ถูกเผาไปพร้อมทุกคน หลังจากที่ไม่เหลือใครในครอบครัวปู่ก็รับเธอมาเลี้ยงดู ระหว่างที่ถูกปู่ดูแลเธอก็คอยตามสืบเรื่องการตายของครอบครัวแต่ดูเหมือนว่าจะยากกว่าที่คิด จนกระทั่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วปู่เธอเสีย ทุกคนก็ดูเปลี่ยนไปจนน่าสงสัยไปหมด ยิ่งตอนที่รู้ว่าเธอกลายเป็นผู้นำตระกูลสายตามองมาก็เปลี่ยนไปราวกับว่าจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ อย่างเช่นตอนนี้ “หลานคิดดีแล้วเหรอที่จะเข้าร่วมการคัดเลือกหัวหน้าครั้งนี้ ความจริงหลานส่งคนอื่น...อย่างศรัณไปไม่ดีกว่าเหรอ” “แปลกนะคะที่คุณลุงอยากให้ศรัณลง ทั้งที่ปกติชอบพูดว่าเขามันแค่คนนอกไร้ค่า” ศรัณ ที่ลุงกำลังพูดถึงคือสามีของเธอเองและเขาคือคนรักที่ช่วยให้เธอรอดพ้นการตายวันนั้น ทั้งที่ปกติคนพวกนี้มักบอกว่าเขาคือคนนอกของตระกูลหัวนอนปลายเท้าก็ไม่มี ทำไมวันนี้ถึงได้มาเสนอชื่อของเขากับเธอล่ะ “เอ่อ มันก็ใช่แต่ว่ายังไงศรัณก็เป็นผู้ชายส่วนหลานเป็นผู้หญิงเข้าไปยุ่งกับแก๊งมาเฟียจะอันตรายนะ” “อ่า~ เพิ่งรู้นะคะว่าคุณลุงห่วงฉันด้วย” “ยัยหนูใหญ่ยังไงเธอก็เป็นหลานของลุงนะ จะให้ลุงเมินความปลอดภัยของหลานสาวไปได้ยังไง...อีกอย่างแอลก็รักหลานเหมือนพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง” สุวัตพยายามหาเหตุผล 108 หยิบยกมาเพื่อทำให้หลานสาวเปลี่ยนใจ “ขอบคุณนะคะคุณลุง เดี๋ยวหนูจะเก็บไปคิด” “ดี ๆ งั้นลุงไม่กวนแล้ว” หลังจากนั้นสุวัตก็เดินออกไป นารันได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายตอนที่ได้ยินว่าลุงมาขอพบเธอก็พอรู้อยู่ว่าเขาจะมาพูดเรื่องนี้แน่ ก็หลายวันมานี้เหล่าญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างมาพูดคุยและเสนอตัวเองบ้าง บางคนก็เสนอลูกชายหรือคนใกล้ชิด มีก็แค่ลุงที่เสนอชื่อสามีเธอมา ก๊อก ๆ “เข้ามา” “ขออนุญาตครับคุณท่าน” วี ชายวัย 40 ปีร่างกายสูงใหญ่กำยำเดินมาโค้งหัวให้เจ้านายแล้วเดินตรงมาหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของเธอ “ผมให้คนของเราตามไปส่งคุณสุวัตกลับเรียบร้อยแล้วครับ” “ดี! ถ้าเกิดลุงเป็นอะไรตอนนี้จะยุ่ง...วีนายรู้ไหมว่าลุงเข้ามาเสนอชื่อใครกับฉัน” เธอกับวีรู้จักและสนิทกันมากเพราะพ่อตั้งใจฝึกเขามาเพื่อให้เป็นคนคอยดูแลเธอโดยเฉพาะ หลายๆ เรื่องคนอื่นไม่รู้จะมีแค่วีเท่านั้นที่รู้ “ไม่ครับ” “ลุงเสนอชื่อของศรัน” สิ่งที่เจ้านายบอกทำให้วีงงอยู่ไม่น้อย ราวกับว่าสิ่งที่เขาได้ยินมาจากนักสืบจะเกิดขึ้นจริง 'หลายวันก่อนคนของเราเห็นคุณศรันกับคุณหนูแอลที่โรงแรมแถวชานเมืองครับหัวหน้า ไปด้วยกันสองคน' 'ไม่มีอะไรหรอก อย่าบอกเรื่องนี้ให้คุณท่านรู้' “นายคิดว่าระหว่างทั้งคู่จะมีข้อตกลงอะไรไหม” นารันถอนหายใจยาว เธอไม่อยากคิดอะไรแบบนี้เลยแต่เหตุการณ์ต่างๆ มันเป็นไปในทางนี้ “ผมไม่กล้าออกความคิดเห็นครับ” “วี! นายเหมือนญาติคนเดียวที่ฉันมีนะ ตั้งแต่พ่อฉันรับเลี้ยงนาย พวกเราก็คือครอบครัวเดียวกัน ถ้าแม้กระทั่งนายยังไม่กล้าที่จะพูดความจริงกับฉัน หลังจากนี้ฉันจะไว้ใจใครได้อีก” น้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยใจทำให้วีเองก็ต้องถอนหายใจยาว “ผมคิดว่าคุณศรันเกี่ยวข้องกับครอบครัวคุณสุวัตครับ” “เกี่ยวข้องยังไง?” “คือ...ผมยังมีหลักฐานไม่มากพอยังไม่กล้าตัดสิน เดี๋ยวคนของผมรวบรวมหลักฐานเสร็จจะรีบมารายงานครับ” “เอาเถอะ...ฉันจะไปยิงปืนสักหน่อย นายไปทำงานส่วนของตัวเองเถอะ” “ครับ” นารันเลือกที่จะมาคลายเครียดด้วยการเข้ามาฝึกซ้อมยิ่งปืนในสนามหลัง ปู่ของเธอเคยเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียของทิศพายัพอยู่ช่วงหนึ่ง หลังจากท่านลงจากตำแหน่งหวังจะเสนอชื่อพ่อของเธอที่ออกไปใช้ชีวิตกับแม่และมีเธอกับน้องสาวอีกคนในแถบชนบทเพื่อขึ้นรับตำแหน่ง แต่ใครจะไปคิดเพียงปู่แค่พูดเปรยๆ ออกมาจะคือจุดจบของทุกคนในครอบครัวเธอ ปัง!! ปัง!! เสียงกระสุนปืนยิงเข้าเป้าเคลื่อนที่อัตโนมัติอย่างแม่นยำ แต่คนที่กำลังจดจ่ออยู่กับการยิงก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นที่จ่ออยู่ท้ายทอย “ค่อยๆ วางปืนลง” เสียงทุ้มที่ฟังไม่คุ้นหูเลยสักนิด ทำให้นารันได้แต่ขมวดคิ้วเข้าหากัน แปลกมากปกติแล้วคนนอกจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้นิ ที่สำคัญโรงฝึกยังมีรหัสผ่านเข้าออกด้วย แต่ถึงจะสงสัยยังไงเธอก็ต้องทำตามที่มันสั่งด้วยการวางปืนลง “แกเป็นใคร ต้องการอะไร?” “ฉันเป็นใครแกไม่ต้องรู้หรอก แต่สิ่งที่ต้องการคือชีวิตของแกไง” จึก!! ไม่ใช่อาวุธปืนที่จะดับชีวิตของเธอ แต่เป็นมีดคมกริบที่ปักเข้ากลางหัวใจเธออย่างแรง ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างเจ็บปวดเธอมองดูมีดที่ปักอยู่บนอกของตัวเอง ก่อนร่างจะทรุดล้มลงบนพื้นแรงเมื่อชายที่เป็นคนปักมีดดึงมันออก ไม่นานสติสัมปชัญญะทุกอย่างของเธอก็ดับวูบไป Suwarat Hospitel “วี!! นาเป็นยังไงบ้าง” ศรันที่เพิ่งได้รับข่าวว่าภรรยาถูกลอบทำร้ายก็รีบขับรถมาจากที่ทำงาน ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกและกังวล “คุณท่านเสียแล้วครับ” วีตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เขาจำยังได้ดีภาพของหญิงสาวที่บอกว่าตัวเองคือครอบครัวนอนจมกองเลือดตรงหัวใจข้างซ้ายมีแผลขนาดใหญ่ที่เกิดจากของมีคม ถ้ารู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเขาจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวตามลำพังเด็ดขาด “นา...” เพียงแค่ได้ยินคำตอบจากลูกน้องคนสนิทภรรยา ขาทั้งสองข้างของเขาก็ทรุดลงกับพื้น ดวงตาเอ่อล้นไปน้ำตา “ทำไมคุณถึงทิ้งผมไปแบบนี้นา” การตายของนารันผู้นำตระกูลเวสิกาถูกตีเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ เป็นข่าวใหญ่โตอยู่ช่วงหนึ่ง แม้ว่าทุกคนจะพยายามสืบหาคนร้ายแต่กลับไร้วี่แววคนทำหรือแม้กระทั่งคนที่อยู่เบื้องหลัง จนเรื่องราวค่อยๆ ลืมเลือนไปตามเวลา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม