ตอนที่ 4
เต้นบนตักข้า
“ไม่ต้องยืนเต้นตรงนั้น ...มาเต้นบนตักข้าดีกว่า”
คำบอกของเขา ทำให้ ดาวเรือง นิ่งไปชั่วขณะแต่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเปิดทางแล้วภารกิจของเธอน่าจะง่ายขึ้น นั่นทำให้เธอเดินมานั่งบนตักของเขา
“อ๊ะ”
เธออุทานเบาๆ เมื่ออุ้งมือหนาจับที่เอวคอด ตรึงให้ต้นขาอ่อนบดเบียดแนบชิดกับต้นขาแข็งแรงของเขา ส่วนบอบบางกลางกายภายใต้กระโปรงฟูฟ่องเสียดสีกับส่วนล่างของเขา หัวใจเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
“เต้นซิ ข้ารอดูอยู่”
หน้าหล่อเหลาโน้มมากระซิบข้างใบหูเล็ก สองแก้มเธอพลันผ่าวร้อนขึ้น จนต้องขยุ้มต้นแขนหนาหนั่นของเขาไว้แน่น และรีบขยับสะโพกตามจังหวะเสียงเพลง
“เต้นให้แรงกว่านี้อีก”
ปราช เอ่ยเสียงเข้ม เมื่อมองร่างระหงบนตักที่กำลังโยกย้าย นัยน์ตาเขาทอแสงอ่อนลงจับจ้องยังส่วนโค้งเว้าของหญิงสาวและเนินอกขาวเนียนภายใต้ชุดรัดรูป
ดาวเรือง สบตากับเขาอย่างประหม่า แต่พยายามข่มความรู้สึกตัวเองเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรเธอจะต้องนัวเนียและทำให้เขาเคลิบเคลิ้มให้ได้ เพื่อชีวิตของเธอเอง
“ปราชมันเป็นลูกของรัตนา เป็นเลือดเนื้อเชื้อใขของนังหมอผีที่มันสาปมึงไว้ตอนเด็ก หากมึงต้องการมีชีวิตรอดหลังยี่สิบปี มึงต้องเอากับมันเพื่อล้างมนต์นั้น”
คำของยายแป้น หมอดูมอ ที่หมู่บ้านยังคงดังแว่วในหู
แม้ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ดาวเรือง ก็ไม่อยากพบจุดจบดั่งเช่นรุ่นพี่ในหมู่บ้านที่ต้องจบชีวิตด้วยสาเหตุต่างๆในวัยยี่สิบปี
มันคือมนต์คำสาป ที่เธอจะต้องเสี่ยงดีกว่ารอความตาย
ดาวเรืองจึงข่มความประหม่าในใจ แล้วข่มตาลงปลดปล่อยใจไปกับจังหวะเสียงเพลง เอนร่างไปด้านหลังให้เรือนผมสลวยพริ้วตามจังหวะที่สะโพกโยกย้าย
“ใช้มารยาหญิงจากเรือนร่างของมึง”
แม้จะเคยทราบว่ามีของเสน่ห์หลายอย่างที่ทำให้ผู้ชายหลงได้ แต่กรณีนี้เธอทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะจะทำให้มนต์สาปนั้นลดทอนลง ดาวเรืองจำต้องให้มารยาตัวเองล้วนๆ แม้จะไม่เคยทำเช่นนี้กับผู้ใดเลยตั้งแต่เกิดมา
“อืม เอ็งเต้นเก่งนัก”
มือหนาเลื่อนเกาะกุมสะโพกของเธอไว้ อีกข้างไล้ยังโคนขาอ่อนด้านใน และไล้เข้ายังแพนตี้บางๆ นั่นทำให้ดาวเรืองสะดุ้งด้วยความตกใจ
“อ๊ะ”
“เต้นต่อไปซิ”
เขากระซิบเสียงทุ้มต่ำ นิ้วแข็งเกี่ยวเข้ายังกลีบอ่อนนุ่มด้านใน แยกแย้มตรงรอยแยกแทรกซอนบดคลึงติ่งเนื้อน้อยที่อยู่ด้านใน
“พะ..พี่ปราช อื้อ.”
เธอครางเสียงหวาน ใจอยากจะผลักใสเขาออกนัก แต่เมื่อเห็นว่าเริ่มจะเข้าทางที่ได้วางไว้ จึงผวากอดรอบคอเขาไว้แน่น ด้วยรู้สึกแขนขาเริ่มจะอ่อนระทวย
“เหมือนเอ็งจะเริ่มชุ่มแล้วนะ”
นิ้วแข็งออกแรงกดหนักขึ้น ความสยิวแผ่ซ่านไปทั่วกายเธออย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เมื่อหยาดน้ำหวานเริ่มซึมซ่านออกมาจนเปียกชุ่ม จนต้องกัดริมผีปากตัวเองไว้แน่น
“อื้อ อ๊าย..”
สะโพกงามงอนเริ่มร่อยส่ายขึ้นลงเร็วขึ้น เมื่อเขาขยับนิ้วถี่รัวยิ่งกว่าเดิม ดาวเรืองคล้ายหูตาพร่าพราย เหมือนควบคุมตัวเอง ไม่แน่ใจว่าโดนมนต์คาถาอันใดจากลูกชายของแม่หมอผีคนนี้หรือไม่
เพลงจบลงไม่นาน
ปราชหยุดขยับนิ้ว แต่มือยังคงลูบไล้ยังเนินเนื้ออวบอูม มุมปากหยักได้รูปยกยิ้มเล็กน้อย และก้มลงกดจูบยังซอกคอขาวที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ
“แค่เพลงเดียวก็เหนื่อยแล้วรึ? ไหนเอ็งบอกจะเต้นให้ข้าดูทั้งคืนไง”
“ดะ..ได้ หนูเต้นไหว”
ดาวเรืองกัดริมผีปากตัวเองไว้แน่น หัวใจเธอเริ่มเต้นระรัวเร็ว สองขาที่คร่อมเขาไว้เริ่มสั่นระริก แต่มือหนาของเขาเกาะกุมเอวคอดของเธอกระชับขึ้น จนอกอิ่มเบียดชิดกับอกกำยำแน่นเครียดของเขา
“งั้นก็เต้นต่อเลย”
ปราช หรี่มองเธอคล้ายหยั่งเชิง อะไรหลายอย่างบอกเขาว่าผู้หญิงคนนี้จงใจเข้าหาเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง โดยเขาไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร เพียงแต่กริยาของเธอที่แสดงออกตั้งแต่อยู่บนเวทีทำให้เขารู้สึกไม่วางใจ
แต่เมื่อเขาได้ประเมินสถานการณ์แล้ว รู้ว่าเธอไม่ได้มีใครรายรอบตัว และเป็นเจตจำนงค์ของเธอคนเดียว เขาจึงจำต้องเล่นตามน้ำ แม้การกันเธอจาก เทิดสิน พี่ชายต่างแม่จะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งก็ตาม เขาก็อยากรู้อยู่ดีว่าเธอเข้าหาเขาเพราะอะไร
ที่ผ่านมามีผู้คนมากมายต่างล้วนอยากจะเข้าถึงตัวเขาด้วยเหตุผลหลายอย่าง ด้วยเขาเองรับผิดชอบธุรกิจในส่วนพืชผลการเกษตรของ กำนันเปรื่อง ผู้เป็นพ่อเกือบทั้งหมด และผลผลิตมากมายนี้ถูกส่งไปทั่วเขตพื้นที่ภาคอีสาและยังฝั่งพระนคร
จึงมีผู้คนมากมายพยายามเข้าหาเขาด้วยสารพัดวิธีการ
ปกติ ปราช ค่อนข้างเก็บตัวไม่ใคร่สุงสิงกับใครมากนักตั้งแต่เด็ก เขาจะอยู่ในมุมของตัวเองมาตลอด
แต่วันนี้มี สาวน้อยหางเครื่องคนหนึ่ง หลงเข้ามาในอาณาเขตส่วนตัวของเขา ที่ก่อนหน้าไม่เคยมีใครได้ย้ำกรายเข้ามาแม้แค่คนเดียว
เขาก็เลยอยากจะเล่นกับเธอเสียหน่อย
“หนูหิวน้ำจัง”
เธอหลุบตาลงต่ำ และแลบลิ้นเลียริมผีปากตัวเอง แม้เป้าหมายจะอยู่ตรงหน้า แต่เธออยากจะดื่มน้ำให้ชุ่มคอนัก เพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่อยู่บนเวที
“เต้นอีกเพลงค่อยกิน”
เขากระซิบเสียงต่ำ ก่อนจะขบเม้มเบาๆที่ผิวอ่อนข้างลำคอขาว เหมือนแกล้งให้ร่างบางสั่นระริกยิ่งกว่าเดิม และความฉ่ำชื้นก็ไหลซึมซ่านยังหน้าขาของเขา
“อื้อ”
“เอ็งตั้งใจเข้าหาข้าทำไมรึ?”
คำถามของเขา ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย หรือว่าท่าทางของเธอมันแสดงชัดเจน ลูกชายหมอผีถึงได้ล่วงรู้เช่นนี้!!
*********************