ตอนที่ 8 : หัวใจที่ไม่ร้องอีกต่อไป

1116 คำ
เสียงเครื่องปริ้นท์ในฝ่ายบุคคลดังต่อเนื่อง พนักงานหญิงกลุ่มหนึ่งยืนคุยกันเบา ๆ ระหว่างรอเอกสาร “เธอเห็นรูปในไอจีเมริญามั้ย?” “โอ๊ย ไม่ต้องดู ก็มีคนแคปรูปส่งมาเต็มไลน์กลุ่มแล้ว” “เขาว่าคนนั้นแหละ… ลูกสาวเจ้าของธนาคารใหญ่” “แล้วเธอรู้มั้ยว่าแม่บอสเป็นคนจัดการหมั้นครั้งนี้เองเลยนะ” เสียงซุบซิบเหล่านี้กระจายไปทุกแผนก โดยไม่มีใครพูดดัง แต่ก็ไม่มีใครพยายามจะปิดบัง และที่โต๊ะทำงานฝั่งทีมมาร์เก็ตติ้ง แพรนั่งอยู่ตรงนั้น ได้ยินทุกอย่าง เธอไม่ได้เงยหน้า ไม่ได้ขัดจังหวะ แค่พิมพ์งานของตัวเองต่อไป แต่ปลายนิ้วที่กดคีย์บอร์ด สั่นเบา ๆ … “แพร เป็นไรป่าว?” ยิหวา เพื่อนร่วมทีมกระซิบถาม แพรส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นไรจ้ะ เราโอเค” ไม่มีใครรู้ ว่า “โอเค” ของแพร หมายถึงการ กดความรู้สึกไว้ให้เงียบที่สุด อีกมุมหนึ่งของบริษัท ห้องประชุมผู้บริหาร อคิณนั่งฟังทีมรายงานผลการตลาด แต่สายตาเขาเหลือบไปที่ชื่อในรายงานคนหนึ่ง “แพร...ฝ่ายฝึกงาน สนับสนุนข้อมูล Insight ในแคมเปญ Everon” ชื่อของเธอ...ที่เขาไม่ควรอ่านซ้ำหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถละสายตาได้เลย แพรนั่งมองโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน รูปที่เมริญาส่งมา ยังอยู่ตรงนั้น แต่เธอไม่เปิดมันอีก เธอแค่ ปล่อยให้มันอยู่เฉย ๆ เหมือนไม่มีผลอะไร ในความเป็นจริง เธอยังเจ็บ แต่เธอเหนื่อยเกินกว่าจะเจ็บแบบ “อ่อนแอ” “เขาไม่เลือกเรา...ก็ไม่เป็นไร” เธอพูดกับตัวเองในใจ “แต่เรา...ต้องเลือกตัวเอง” คืนนั้น แพรนั่งกินข้าวในคาเฟ่เงียบ ๆ เพื่อนบางคนในทีมแผนกแซวว่าเธอช่วงนี้ดู “นิ่งขึ้นมาก” ไม่มีใครรู้ว่า “นิ่ง” คือสิ่งที่เธอสร้างขึ้นเพื่อกันตัวเองจากความรู้สึกเดิม ๆ และในจังหวะที่เธอกำลังจะลุก เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง “ทานด้วยได้ไหม?” เธอหันไป เจอรอยยิ้มอบอุ่นของธาม คืนนั้นพวกเขานั่งคุยกันนาน ธามไม่ได้ถามอะไรมาก เขาแค่ฟัง และพูดแค่เมื่อจำเป็น “บางทีคนที่ดูเข้มแข็งที่สุด อาจจะกำลังกลัวที่สุดก็ได้นะ” เขาพูดช้า ๆ “ไม่ต้องพยายามเป็นคนเก่งตลอดเวลาก็ได้ แพรไม่ใช่เครื่องจักร” เธอยิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดสิ่งที่เกือบจะเป็นคำสารภาพ “แพรเคยคิดว่า ถ้าเรารักใครมากพอ เขาจะเลือกเราโดยไม่ลังเล” “แต่ตอนนี้แพรเพิ่งรู้ว่า บางที การรักตัวเองก่อน อาจจะสำคัญที่สุด” ธามมองเธอนิ่ง ๆ ก่อนจะพูดอย่างนุ่มนวล “ถ้าวันหนึ่งแพรเหนื่อยพอ จนหยุดวิ่งตามเขา” “หันมาก็ได้นะ พี่รออยู่ตรงนี้เสมอ” ธามยิ้มอ่อนๆ ในอีกฟากของเมือง อคิณเปิดแชตไลน์ ไม่มีข้อความใหม่ ไม่มีชื่อแพร ไม่มีอะไรที่เขาอยากเห็นเลย และที่เขาไม่รู้คือ หญิงสาวที่เคย “ส่งใจให้เขาโดยไม่ขออะไร” กำลังเรียนรู้ที่จะ “ไม่ยื่นหัวใจให้ใครอีก ถ้าคนนั้นไม่กล้าเอื้อมมือมารับ” ในห้องทำงาน อคิณกำลัง “กดโทรศัพท์” ลังเลว่าจะทักไปหาเธออีกครั้ง ทันใดนั้นมีสายนึงโทรเข้ามา คือ เกมส์ บอดี้การ์ดคู่กายของอคิณ ที่อคิณส่งให้ไปติดตามความเคลื่อนไหวของแพร แพรกำลังนั่งอยู่ที่คาเฟ่ฝั่งตรงข้ามตึกกับธามโดยที่เธอไม่รู้เลยว่า มีคนจับตามองเธออยู่ทุกเวลา ทั้งคู่ดูสบายใจ ไม่หวือหวา แต่มองตากันเหมือนเข้าใจกันทุกคำ บอดี้การ์ดยืนอยู่มุมไกลของร้าน แนบหูฟัง พร้อมกล้องซ่อนเล็ก ๆ เขาถ่ายภาพมุมไกลที่เห็นแพรหัวเราะเบา ๆ ขณะพี่ธามยื่นทิชชู่ให้เธอ ไม่ต้องสัมผัส แต่คนดูก็รู้ว่า ความสัมพันธ์นั้นกำลังพัฒนา ทันทีที่ได้ภาพ เขากดโทรออก “นายครับ ผมเห็นเธอแล้ว” “อยู่กับผู้ชายคนเดิมครับ ใกล้กันมาก” “ผู้ชายแตะหลังเธอตอนเดินออกจากร้าน” “…เธอยิ้มครับ” ปลายสายเงียบ “นาย ยังต้องให้ผมตามต่อไหมครับ?” อคิณไม่ได้ตอบในทันที เขานั่งนิ่ง ในมุมหนึ่งของใจ เขาอยากรู้มากกว่านี้ แต่อีกมุมหนึ่ง เขากำลัง “เจ็บ” กับข้อมูลที่เขาเป็นคนขอเอง “พอแล้ว” เสียงเขาเย็น แต่แฝงความกดดัน “กลับมา อย่าให้ใครเห็นนาย” เขวี้ยงโทรศัพท์ลงโต๊ะอย่างไม่ควบคุม ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เธอเป็นของเขาไปแล้วจริง ๆ เหรอ…” และในอีกฝั่งของเมือง แพรยังคงไม่รู้ ว่าเธอเพิ่ง “รอด” จากผู้ชายที่เธอเคยเชื่อว่าเย็นชา แต่ตอนนี้กำลังร้อนรนจนควบคุมตัวเองไม่ได้ หลังจากวางสายบอดี้การ์ดไป อคิณไม่ได้กลับขึ้นออฟฟิศ เขาขับรถวนออกมาทางสุขุมวิท เปิด GPS จากตำแหน่งสุดท้ายที่ทีมรายงาน โลเคชั่นพาเขามาหยุดอยู่หน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ที่เขาเองยังต้องเหลือบมองขึ้นไปอย่างคาดไม่ถึง ARUNA RESIDENCE คอนโดหรูระดับ Ultra Luxury มูลค่าหลังละ 40–70 ล้านบาท มีลิฟต์ส่วนตัว ห้องชุดแบบ Penthouse และรายชื่อเจ้าของห้อง ไม่มีใครธรรมดา เขาจอดรถไว้ริมถนนฝั่งตรงข้าม ยืนพิงรถหรูของตัวเอง มองประตูทางเข้าเงียบ ๆ ราวกับมันเป็นเขตหวงห้าม ไม่กี่นาทีต่อมา แพรก้าวลงจากรถของพี่ธามชายหนุ่มเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ ยื่นของบางอย่างให้ในมือ ดูจากไกล ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่แค่ของฝากธรรมดา ทั้งคู่พูดคุยกันเบา ๆ แพรหัวเราะ รอยยิ้มที่อคิณจำได้ดี และแล้ว เธอเดินเข้าคอนโดหรูหลังนั้น ด้วยคีย์การ์ดของตัวเอง ไม่มีพนักงานมาเปิด ไม่มีท่าทางลังเล “เธอ…อยู่ที่นี่?” เขาพึมพำกับตัวเอง หัวใจเหมือนถูกตบหน้าเบา ๆ เด็กฝึกงานที่เขาคิดว่าอ่อนโยน ไม่มีอำนาจ ไม่มีที่ไป แต่ตอนนี้กำลังอาศัยอยู่ในคอนโดที่คนระดับเขายังต้องคิดก่อนซื้อ เขาเปิดโทรศัพท์ทันที ค้นหาข้อมูล “เจ้าของยูนิต” ในนามบริษัทที่ถือครองห้องชุด ชื่อหนึ่งโผล่ขึ้นมา บริษัท ไร่ชาพิมพ์ลดา กรุ๊ป และอีกหนึ่งชื่อในกรรมการบริหาร… พิมพ์ลดา อัครเวทย์ อัครเวทย์… เขาขมวดคิ้ว และทันใดนั้น… ความสงสัยก็เปลี่ยนเป็นคำถามที่เขาไม่เคยคิดจะถามมาก่อน “แพรเป็นใครกันแน่…”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม