ต้นหลิวส่ายหน้ารัว ๆ กับคำถามของเพื่อนสนิท ตอนนี้ในหัวของเธอพลางนึกถึงหนังโป๊ที่เคยดูกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงสมัยตอนอยู่มัธยมไม่หยุด
"อ๊าก! เราเอาภาพพวกนั้นออกจากหัวไม่ได้เลย" ต้นหลิวยกมือเรียวขึ้นมาตีแก้มตัวเอง ก่อนจะคว้าขวดโซจูมากระดกดื่มรวดเดียวเพื่อต้องการระงับอารมณ์และความอยากรู้ของตัวเอง
"ตะ ต้นหลิว!" ข้าวฟ่างกับวารินเบิกตากว้างตกใจเมื่อเห็นต้นหลิวกระดกดื่มโซจูไปหลายอึก จะคว้าขวดโซจูกลับมามันก็ไม่ทันแล้ว
อึก! อึก!
ต้นหลิวจัดการกระดกดื่มขวดโซจูลงคอเพียว ๆ ก่อนจะวางขวดโซจูลงโต๊ะดังปัก
"อี๋! ขมจัด แสบคอ" เรียวปากสวยของต้นหลิวเอ่ยพูดพร้อมกับทำสีหน้าสะอิดสะเอียนออกมาพร้อมกับใช้มือเรียวพลางยกขึ้นมาเช็ดปากตัวเอง
"โธ่เอ๊ย แล้วใครเขาสอนให้กระดกแบบนั้นล่ะ"
ข้าวฟ่างส่ายหน้าออกมาในการกระทำหุนหันพลันแล่นของต้นหลิว
"กะ ก็ใครสอนให้ไอ้วามันพูดจาทะลึ่งแบบนั้นเล่า" ต้นหลิวเอ่ยพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำไปถึงหู
"เอ้า แค่เล่าให้ฟังเอง เธอนั่นแหละเขินอะไร" วารินเอ่ยตอบต้นหลิว ก่อนจะเอ่ยถามเธอกลับในประโยคที่สอง
"ก็เนื้อหามันชวนให้เขินนี่" ยิ่งพูดก็ยิ่งเอาภาพอนาจารออกจากหัวไม่ได้ ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นพลุ่งเข้ามา…เธอเองก็อยากมีประสบการณ์เรื่องนี้บ้างเหมือนกัน
ต้นหลิวกัดปากตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ
"เดี๋ยวขอไปสูดอากาศข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวกลับมา" ว่าจบต้นหลิวดันตัวลุกขึ้นก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าของตัวเองมาแขวนบ่า
"ให้ไปเป็นเพื่อนไหม" วารินเอ่ยถาม
"ไม่เป็นไร แค่นี้สบาย" ต้นหลิวเอ่ยตอบน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปจากโต๊ะ
ซึ่งทุกการกระทำของเธอมีสายตาของไต้ฝุ่นคอยลอบมองอยู่ตลอด เขาทั้งเห็นตอนเธอพ่นเหล้าออกจากปาก ตอนเธอหัวเราะรวมไปถึงตอนที่เธอดันตัวลุกขึ้นจากโต๊ะ
ท่าทางของเธอมันตลกจนเขาหยุดมองไม่ได้เลย
"หึ ทำไมเป็นผู้หญิงที่ตลกขนาดนี้วะ"
พรึบ!
ไต้ฝุ่นดันตัวลุกขึ้นจากโซฟาที่ตัวเองนั่งอยู่ก่อนทำท่าควักบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงตัวเองออกมา
"เดี๋ยวมา" เสียงทุ้มเอ่ยบอกโซ่และควินตันที่นั่งอยู่ ก่อนจะสาวเท้าตัวเองออกไปจากโต๊ะด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแบบที่เขาชอบทำ
เมื่อออกมาหน้าร้านเขาก็เก็บบุหรี่ใส่ในกระเป๋าก่อนจะกวาดสายตามองหาเป้าหมายของตัวเอง แต่ทว่ากลับไร้ร่างบางที่กำลังมองหา
เขาจึงตัดสินใจเดินไปด้านข้าง ๆ ร้านที่มีเก้าอี้ไว้ให้คนเมานั่งพักและในตอนนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเล็กของใครบางคน
"อ้วนมากเลยแมวจรจริงเหรอ มีพุงด้วย" เสียงที่คุ้นหูดังขึ้น ทำให้เขาเดินตามเสียงนั้นไป
เมื่อเดินไปได้ไม่เท่าไหร่เจ้าของใบหน้าหล่อก็ชะงักเมื่อเห็นร่างเล็กของต้นหลิวกำลังนั่งย่อกับพื้นและคุยกับแมวส้มตัวหนึ่งอยู่
"ทำไมพุงถึงใหญ่แบบนี้อ่า ชื่ออะไรเหรอ เรียกแซลมอนได้ไหม หรือให้เรียกว่าแคร์รอตดี?" ต้นหลิวฉีกยิ้มคุยกับแมวส้มแสนน่ารักซึ่งแววตาของหญิงสาวมันเต็มไปด้วยความเอ็นดู
แต่ภาพที่คนภายนอกเห็นตอนนี้เหมือนคนเมากำลังรบกวนความสงบสุขของแมวมากกว่า
"ไปอยู่กับเราไหม เดี๋ยวเราเลี้ยงบุฟเฟต์อาหารเปียก" เสียงหวานเอ่ยพูดกับแมวจรที่กำลังนอนด้วยท่าทางสบายใจ
"ไปไหม บ้านพี่มีแอร์นะ เดี๋ยวเปิดให้นอนเย็น ๆ ทั้งวันเลย"
"อยู่กับพี่รับรองไม่มีลำบาก คิก ๆ"
"ไม่ตอบเลย ไม่ตอบแสดงว่าตกลงนะ" ต้นหลิวฉีกยิ้มหัวเราะอย่างชอบใจ จากนั้นก็ทำท่าจะเอื้อมมือไปจับพุงแมวส้มตัวนั้น
เมี้ยว!!
"อ๊ะ! เจ็บ" แต่ทว่าแมวที่โดนคนเมารบกวนได้จัดการข่วนที่มือของเธออย่างแรงหนึ่งที ทำเอาต้นหลิวร้องกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บ ไต้ฝุ่นที่ยืนฟังเงียบ ๆ อยู่นานก็ชะงักตกใจรีบสาวเท้าเข้าไปหา
"ไม่ไปก็บอกกันดี ๆ ไม่ได้รึไง เราไม่ใช่โจรลักพาตัวแมวสักหน่อย ไม่เห็นจะต้องข่วนกันเลย" ต้นหลิวเบ้หน้าพูดขึ้นพร้อมกับสะบัดแขนตัวเองไล่ความเจ็บตามสัญชาตญาณ
"มานั่งทำอะไรตรงนี้" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทำให้ร่างบางค่อย ๆ เงยหน้าไปมอง
"โอ๊ะ! ใครวะหน้าคุ้น ๆ" นิ้วชี้เรียวชี้ไปที่ไต้ฝุ่น พร้อมกับเจ้าของร่างหรี่ตามองแววตาครุ่นคิด ก่อนที่ไม่นานดวงตาจะเบิกกว้างอย่างนึกรู้
"นี่มันนักเลงคนนั้นนี่ ไม่สิ! คนโรคจิตต่างหากหรือเรียกว่าหัวขโมยดีนะ" คำพูดของคนตัวเล็กทำเอาไต้ฝุ่นถอนหายใจออกมาหนัก ๆ
"เรียกว่าไอ้นักเลงคงเหมาะสุดแล้ว"
"บอกว่าไม่ใช่นักเลงไงเฮ้ย! "
"นักเลงชัด ๆ" ต้นหลิวตาปรือชี้หน้าและจ้องมองไต้ฝุ่น
"นี่เธอเมางั้นเหรอ" เขากอดอกหลุบมองคนที่นั่งย่ออยู่กับพื้น ในตอนนั้นต้นหลิวก็ชูมือเล็กของตัวเองขึ้นหมายจะให้ไต้ฝุ่นดึงตัวเองลุกขึ้น
ไต้ฝุ่นมองหญิงตรงหน้า ก่อนจะทำท่าถอนหายใจออกมาหนัก ๆ และเอื้อมไปจับมือเธอดึงขึ้นมา ทันทีที่เธอลุกยืนตรงหน้าเขา เธอก็จ้องหน้านิ่งพร้อมจะเอ่ยตอบคำถามเขากลับ
"เมาคืออะไร พี่ฟังนี่นะ" ต้นหลิวเงยหน้าจนเผยให้เห็นลำคอขาวเนียน เธอดีดนิ้วไปที่คอตัวเองเบา ๆ สองทีแล้วพูดต่อว่า
"ได้ยินไหม…แข็งโป๊ก"
พูดจบใบหน้าสวยก็หัวเราะชอบใจออกมากับคำโอ้อวดที่ว่าคอแข็ง แข็งแบบใดตอนนี้เธอเมาเหมือนหมา
"กูจะบ้า ทิ้งให้นอนกับแมวตรงนี้เลยดีไหมวะ" ไต้ฝุ่นยกมือขึ้นมาเสยผมเบา ๆ พร้อมกับมองคนตรงหน้าแต่ทว่าต้นหลิวที่หัวเราะชอบใจก่อนทำท่าจะฟุบลง
พรึบ!
ไต้ฝุ่นชะงักก่อนจะรีบดึงร่างคนตัวเล็กเข้าหาตัวอย่างรวดเร็วทำให้ร่างของต้นหลิวที่กำลังทิ้งตัวซบไปที่อกแกร่งของไต้ฝุ่น จากนั้นมือเรียวก็ทิ้งตัวลงเพราะเธอได้เมาจนหลับลงไปคาอกของเขาแล้ว
"เธอ! ตื่นก่อน"
"ยัยทึ่ม!"
"ถ้าไม่ตื่นฉันโยนเธอทิ้งข้างถนนจริง ๆ นะเว้ย!" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นน้ำเสียงจริงจัง แต่ทว่าคนตัวเล็กยังคงฟุบอยู่ในอกแกร่งนิ่งพร้อมกับพ่นลมหายใจสม่ำเสมอออกมาโดยมีมือแกร่งของไต้ฝุ่นที่ประคองร่างของเธอไว้เบา ๆ
ขณะนั้นสายกระเป๋าสะพายไหล่ก็ค่อย ๆ คลายและ
ตุบ!
กระเป๋าของเธอตกลงพื้นข้าวของด้านในกระจัดกระจาย ไต้ฝุ่นถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เขาจับต้นหลิวไปนั่งพิงเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะเดินมาเก็บของให้เธอ ตอนนั้นดวงตาคมก็เห็นคีย์การ์ดคอนโดที่ระบุชื่อคอนโดและเลขห้องของเธออย่างชัดเจน
"แล้วมันธุระกงการอะไรของกูเนี่ย" เสียงทุ้มเอ่ยพูดขึ้นดวงตาคมก็ลอบไปมองร่างเล็กที่หลับตาพริ้มอยู่ในเบาะรถพอร์ชของเขาตำแหน่งด้านข้างคนขับ
"โชคดีของเธอหรอกนะที่ฉันไม่ได้ขับบิกไบก์มา ไม่งั้นฉันโยนเธอทิ้งข้างถนนไปแล้วจริง ๆ" เสียงทุ้มพูดขึ้น ก่อนที่รถพอร์ชสีดำด้านจะมุ่งตรงไปที่ไลฟ์คอนโด
ไลฟ์ คอนโด
"กินข้าวบ้างไหมวะ ตัวเบาหวิวอย่างกับหมอน" เสียงทุ้มเอ่ยพูดขณะกำลังพยุงร่างเล็กของเธอเข้าไปที่ด้านในห้อง
แต่จู่ ๆ ดวงตากลมที่หลับสนิทของต้นหลิวก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย ไต้ฝุ่นที่รับรู้ว่าเธอได้สติขึ้นมาก็หลุบมองหน้าเธอ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร
"พี่ เคยทำไหม"