5.คุณหนูสกุลโอ

1521 คำ
แต่ทั้งสองก็หาได้ใส่ใจไม่ เดินหนีออกมาจากคนพาลทันที " เจ้าอย่าใส่ใจคำพูดของคนเช่นนั้นเลยนะฮุ่ยหราน " " ไม่หรอกเจ้าค่ะ คนพาลเช่นนั้นข้าน้อยหาได้ใส่ใจ เพราะถึงอย่างไรข้าน้อยก็จะอยู่ดูแลคุณชายจนหายดีเจ้าค่ะ " " อืม ข้าได้ยินที่ท่านพี่กับตาของเจ้าคุยกันแล้ว ยังไงก็ขอบใจเจ้าอีกครั้ง ที่เสียสละเวลาดูแลเหยียนจวิ้น " หลังจากเดินไปส่งฮูหยินที่เรือนใหญ่ ฮุ่ยหรานก็เดินกลับมาที่เรือนเล็กของตนด้านหลังไม่ไกลจากเรือนของคุณชายเหยียน " ท่านตายัง ปรุงยาอยู่หรือเจ้าคะ " " อืม เจ้ากลับมาแล้วหรือ พาคุณชายไปถึงไหนกันล่ะ " " พาไปที่กำแพงเจ้าค่ะ ดูท่าจะตกใจมากที่เห็นทิวทัศน์ภายนอกเช่นนั้น " " อืม ก็เหมือนเจ้าแต่ก่อนตื่นเต้นจนร้องไห้ " ฮุ่ยหรานยิ้มให้กับผู้เป็นตา แล้วคิดในใจ " ใครบอกว่าตื่นเต้นกันล่ะท่านตา " ก่อนที่จะเดินไปหาอะไรกิน พลบค่ำก็เดินไปดูคุณชายที่ห้องอีกครั้ง " ไปไหนแล้วล่ะ หรือว่าจะหนีไปอีกแล้ว คุณชาย คุณชายเจ้าคะ ท่านอยู่ที่ไหน " ฮุ่ยหรานเดินตามหาคุณชายคนเล็กของบ้าน จนไปได้ยินเสียงจากมุมหนึ่งของสวน " พี่เหยียนจวิ้นเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ข้าได้ยินว่าพี่ล้มป่วยอีกแล้วหรือเจ้า " ฮุ่ยหรานเดินเข้าไปหาจงฟานที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากคุณชาย หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามท่าทีเรียบร้อยเอ่ยถามอีกคนที่ยังคงมีสีหน้าของคนป่วยอยู่ หลงจวิ้นในร่างของเหยียนจวิ้น ยิ้มอย่างพอใจกับหญิงสาวตรงหน้าที่หน้าตาสวยมาก แถมหน้าอกคงจะใหญ่มากด้วย ด้วยนิสัยหื่นของหลงจวิ้นที่แก้ไม่หาย แม้จะมาอยู่ในร่างของคนอื่นก็ยังเป็นเหมือนเดิม " เธอ เออ เจ้าเป็นใครงั้นหรือ คือ เรารู้จักกันใช่ไหม " " พี่เหยียนจวิ้นเหตใดพูดจาแปลกเช่นนี้เจ้าคะ หรือว่าเป็นเพราะตกน้ำจนทำให้เป็นเช่นนี้ " คุณหนูโอเนียนเฟยเอ่ยถามคนที่มีใจให้ตน แต่เพราะนึกสนุกกับการปั่นหัวคนที่ไม่เจียมตนเช่นคนขี้โรคผู้นี้ สาเหตุที่คุณชายกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ก็เป็นเพราะว่าคุณหนูโอผู้นี้ แสร้งทำว่ามีใจแต่สุดท้ายก็ไปหมั้นหมายกับพี่ชายอีกคนของตน " ฉัน ข้ากับเจ้าเราเคยรักกันใช่หรือไม่ ข้าได้ยินคนในบ้านพูดกัน " " ในบ้าน พี่เหยียนจวิ้นเอ่ยถึงที่จวนนี้หรือเจ้าค่ะ " " อืม ใช่ๆ ในจวนนี้ ทุกคนบอกว่าข้ากับเจ้าเรารักกัน " หลงจวิ้นพูดออกไปทันทีเพื่อจะผูกมัดสาวสวยตรงหน้า เพราะคิดว่าอีกคนนั้นก็คงจะหลงในหน้าตาที่หล่อเหลาของตัวเอง แม้จะมีร่างกายที่ซูบผอมก็เถอะ แต่คุณหนูเนียนฟางกลับหัวเราะออกมา ด้วยท่าทีเย้ยหยัน หลงจวิ้นสีหน้าเปลี่ยนทันที มีหรือที่มาเฟียใหญ่จะไม่รู้จักลูกไม้และท่าทีเช่นนี้ของหญิงสาวตรงหน้า " คนอย่างข้านะหรือจะไปมีใจให้คนเช่นท่านได้ ฮ่า ฮ่า ชั่งไม่เจียมตัวเลยสักนิด คิดว่าข้าคุณหนูสกุลโอจะลดตัวไปรักกับคนขี้โรค ซ้ำยังไร้ประโยชน์เช่นนี้อย่างนั้นหรือ " เอ่ยจบเนียนเฟยก็เดินสบัดหน้าออกไปทันที หลงจวิ้นมองตามร่างเย้ายวนนั้นอย่างนึกเสียดาย แต่ก็เพียงเสียดายรูปร่างเท่านั้น " คุณชายขอรับ อย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะขอรับ " จงฟานที่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วก็กลัวว่าผู้เป็นนายจะคิดสั้นอีก หลงจวิ้นหันมามองหน้าพี่เลี้ยงของร่างนี้ ก่อนสายตาจะเลยไปที่สาวน้อยที่ยืนมองอย่างวางเปล่า จึงทำทีเอ่ยถามออกไป " ถึงเวลาต้องกินยาอีกแล้วใช่ไหม " " เจ้าค่ะ " ฮุ่ยหรานตอบออกมาสั้นๆ ก่อนที่จะเดินนำไปที่ห้อง อีกคนจึงรีบเดินตามไปทันที แต่เพราะร่างกายนั้นยังไม่แข็งแรงจึงทำให้เหนื่อยง่าย ฮุ่ยหรานเทยาที่ต้มอยู่บนเตาใส่ถ้วยรอ อีกคนที่เดินเข้ามาโดยมีจงฟานพยุง เมื่อคุณชายนั่งลงฮุ่ยหรานก็ยกถ้วยยาวางที่โต๊ะ " ข้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนะ " " พี่จงฟานยังไม่ได้หาอะไรให้คุณชายทานหรอกหรือ " " พอดีพี่มาถึงคุณชายก็เดินออกไปจากห้องแล้ว เลยยังไม่ได้หาอะไรให้คุณชายทานเลย " " ถ้าเช่นนั้นคุณชายรอสักครู่นะเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปดูในครัวว่ามีอะไรที่พอจะทานได้บ้าง " ฮุ่ยหรานเอ่ยจบก็เดินออกไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับบะหมี่ชามโตที่ส่งกลิ่นหอมจนหนุ่มทั้งสองต่างก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ " ในครัวไม่มีอะไรที่พอจะทำอาหารได้เลยเจ้าค่ะ คงจะทำไปที่เรือนใหญ่หมดแล้ว คุณชายทานได้ไหมเจ้าค่ะ " " ได้สิ ถ้าเจ้าทำอร่อยพอ " หลงจวิ้นรับถ้วยบะหมี่จากคนตัวเล็กก่อนที่จะสูดกลิ่นหอมของน้ำซุปแล้วใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่ขึ้นมาสูดกินอย่างอร่อย " พี่จงฟานยังมีบะหมี่เหลืออยู่ ถ้าพี่จะทานพี่ก็ไปตักเอานะ พอดีข้าถือมาไม่ไหว " จงฟานที่ได้ยินเช่นนั้นก็เดินออกไปทันที " ทำไมถึงถือมาไม่ไหวล่ะ ถ้วยแค่นี้เอง " หลงจวิ้นมองคนตัวเล็กก่อนจะเห็นว่ามีผ้าพันมือไว้ หลงจวิ้นรีบจับมือเล็กมาดูทันที " มือเธอเป็นอะไร ถูกมีดบาดเหรอ ทำไม่รู้จักระวัง " เสียงเอ็ดจากคนที่นั่งอยู่ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนเจ็บตัว ทำให้ฮุ่ยหรานมองอีกคนนิ่ง ก่อนจะดึงมือกลับมา " ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ทันระวังมีดเลยตกลงมา ข้าน้อยดันเอามือไปรับมีด มันเลยบาดเอาเจ้าค่ะ แต่ตอนนั้นข้าน้อยทำบะหมี่เสร็จแล้วนะเจ้าค่ะ ไม่มีเลือดป่นแน่นอนเจ้าค่ะ " ฮุ่ยหรานเอ่ยออกมาด้วยคำพูดติดตลก หลงจวิ้นจึงหันไปทานบะหมี่ต่อ เมื่ออีกคนบอกว่าไม่เป็นไร แต่สายตาก็ยังจับจ้องคนตรงหนัา จงฟานเองก็เดินไปตักบะหมี่ในครัวมานั่งกินไม่ไกลจากผู้เป็นนาย " มานั่งนี้สิ จะไปนั่งทำไมตรงนั้นล่ะ " " คุณชายเรียกข้าน้อยหรือขอรับ " " ในนี้ก็มีกันแค่สามคน ฮุ่ยหรานก็นั่งนี้แล้วฉันจะพูดกับใครได้ " จงฟานั้นรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะนิสัยของคุณชายนั้นเอาแต่ใจและยังเจ้ายศเจ้าอย่าง แม้ตนจะเป็นคนสนิทที่ดูแลกันมานานแต่คุณชายเหยียนก็ไม่เคยให้ความสำคัญเลยแม้แต่น้อย " ข้าน้อยนั่งได้หรือขอรับ " " ฉันบอกให้นายนั่งนายก็นั่งสิ " ฮุ่ยหรานมองท่าทีที่หวั่นกลัวของจงฟานก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมจงฟานและคนในจวนถึงไม่ชอบคุณชายเหยียนจวิ้นผู้นี้ คงไม่ใช่เพียงเพราะป่วยขี้โรคเป็นแน่ " คุณชายบอกว่านั่งได้พี่ก็นั่งเถอะ " จงฟานจึงย่อนก้นนั่งลงบนม้านั่งข้างฮุ่ยหราน และทานบะหมี่อย่างอร่อย ทั้งสองทานบะหมี่หมด ฮุ่ยหรานก็ตั้งท่ารินยาให้คุณชาย " มือเธอเจ็บก็ให้จงฟานทำสิ " จงฟานหันไปมองที่มือของฮุ่ยหราน จึงรีบทำหน้าที่แทนทันที จงฟานส่งถ้วยยาให้คุณชาย เมื่อดื่มยาหมดหลงจวิ้นก็พูดขึ้น " เธออย่าพึ่งไป ฉันมีเรื่องอยากให้ช่วยสอน และก็นายด้วย ฉันอยากรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง และในบ้านนี้มีกี่คนที่ฉันต้องรู้จัก " คำพูดที่สร้างความแปลกใจ ให้กับทั้งคู่ทำให้จงฟานและฮุ่ยหรานมองหน้ากัน " เหตุใดคุณชายถึงเอ่ยเช่นนี้ขอรับ " " คงเพราะฉันจมน้ำล่ะมั้ง อ่อแล้วก็เธอช่วยสอนวิธีการพูดแบบคนโบราณที่พวกเธอพูดด้วยนะ ฉันจะได้ทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่นๆเขา " ฮุ่ยหรานยิ้มให้กับคนตรงหน้าที่มีท่าทีที่ดีขึ้น จงฟานแม้จะแปลกใจไม่น้อยแต่กลับรู้สึกว่าคุณชายเหยียนจวิ้นที่ตนช่วยขึ้นมาจากน้ำนี้ น่าจะดีกว่าคนเก่ามากจึงตั้งใจเล่าเกี่ยวกับจวนแม่ทัพให้ฟังอย่างละเอียด " เอาละถึงตาเธอบ้าง สอนฉันว่าจะต้องพูดยังไงให้เข้ากับคนที่นี่ได้ " เมื่อคุณชายเอ่ยเช่นนั้นฮุ่ยหรานและจงฟานก็บอกทุกอย่างเกี่ยวกับที่ตนรู้ จนดึกดื่นจึงได้แยกย้ายกันไปพัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม