ตอนที่ 3 ทำไมต้องเป็นเธอ

1322 คำ
เพนต์เฮาส์เฮียภูวินทร์ ตึกตึก เสียงสองเท้าแกร่งของเจ้าของเพนต์เฮาส์เดินนำเข้าไปยังด้านในก่อนที่เขาจะล้มตัวนั่งลงที่โซฟาหรูของตัวเอง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงสองเท้าเล็กของลินดาที่เดินตามเขาเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดเลยตั้งแต่บทสนทนาบนรถได้จบลง "มานั่งนี่" คนที่นั่งอยู่ที่โซฟาเอ่ยพูดขึ้น เขาใช้มือตบที่ตักแกร่งของตัวเองหมายจะสื่อให้หญิงสาวมานั่งบนตักของเขา ทว่าลินดาที่เห็นแบบนั้นก็ทำเป็นไม่สนใจ เธอปรายสายตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแต่ไม่ได้เข้าใกล้เขามากนัก "ฉันต้องทำอะไรบ้าง" "เธอหมายถึงอะไรล่ะ" "คุณก็รู้ว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร" เรียวปากสวยเอ่ยส่วนกลับคนตรงหน้าไป ลินดายังคงใช้ดวงตากลมของตัวเองจ้องมองเจ้าของใบหน้าหล่อนิ่ง "ไม่มีอะไรยุ่งยาก เธอก็แค่ทำตัวดี ๆ ไม่ดื้อ เชื่อฟังฉันทุกอย่าง…เป็นไง เรื่องง่าย ๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เธอคงจะทำมันได้ใช่ไหม?" "เหอะ ทำตัวเหมือนพวกเด็กเอาแต่ใจ" ลินดาลอบพึมพำออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของชายตรงหน้า ทว่าเสียงพึมพำของเธอนั้นมันไม่ได้เบาจนเขาไม่ได้ยิน "ตั้งใจให้ได้ยิน?" เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางใช้สายตาร้ายกาจของตัวเองจ้องมองไปยังใบหน้าสวยของหญิงสาว ลินดาที่เห็นแบบนั้นก็ลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะแสร้งทำเป็นเฉไฉ "เปล่า ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย" "โกหกให้มันเนียน ๆ หน่อยแม่คุณ…แล้วก็นะ เธอจะยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้นอีกนานไหม ฉันบอกให้มานั่งนี่" เฮียภูวินทร์เอ่ยพร้อมกับใช้มือตบไปที่ตักแกร่งของตัวเองอีกครั้ง สื่อให้ลินดามานั่งที่ตักของเขา ตึกตึก ลินดาที่เห็นเช่นนั้นกลับไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา แล้วทำท่าจะเดินเบี่ยงไปนั่งยังโซฟาอีกตัวที่อยู่ไม่ไกล หมับ! "อ๊ะ!" ทว่าเสียงเล็กกลับต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อข้อมือเรียวของเธอถูกเฮียภูวินทร์เอื้อมไปจับไว้ แถมยังดึงเธอเข้าหาตัวอย่างแรงอีกด้วย จนในที่สุดร่างเล็กของลินดาก็ได้เซไปตามแรงดึงและล้มลงไปนั่งในตักแกร่ง ๆ ของเขา "จะไปไหน ก็บอกอยู่ว่าให้มานั่งนี่" "แล้วทำไมต้องให้ฉันนั่งบนตักคุณด้วย" "ฉันบอกเธอว่ายังไง ให้เชื่อฟังฉันไม่ใช่เหรอ?…ดื้อด้าน" ขวับ! ทำเอาลินดาที่ได้ยินหันไปจ้องมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ทำให้ในตอนนั้นเองเธอและเขาได้สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายลินดาที่ตัดสินใจเอ่ยถามบางอย่างกับเขาขึ้น "ทำไมต้องเป็นฉันด้วย" "อะไร?" คนที่ได้ยินคำถามเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะยังไม่เข้าใจในความหมาย "คุณมีเงินตั้งมากมาย จริง ๆ แล้วคุณจะให้เวลาเราหาเงินอีกสักหน่อยก็ได้…แต่ทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย ทำไมต้องให้ฉันมาเป็นของบำเรอของคุณ" "เพราะเธอ น่าสนใจสำหรับฉันไง" "ฉันน่าสนใจตรงไหน" "ทุกตรง ฉันอยากได้เธอมาเป็นของของฉัน" "ฉันไม่เข้าใจคุณเลยสักนิด" ถามไปก็เมื่อยปาก พวกคนรวยมักเอาแต่ใจ…ส่วนเขาก็แค่เป็นคนรวยที่ปากหมาแล้วก็เอาแต่ใจมากกว่าคนอื่นหน่อยเท่านั้นเอง "ช่างเถอะ ฉันไม่อยากรู้แล้ว…" "…จะทำอะไรก็รีบทำ เสร็จแล้วฉันจะได้ไปจากที่นี่สักที" ลินดาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ แถมใบหน้าของเธอมันยังเรียบตึงจนใครที่เห็นก็ต้องรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่แสนอึดอัดของเธอ แต่เฮียภูวินทร์ก็กำลังใช้ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าเล็กอยู่นั้น กลับยกยิ้มมุมปากออกมาอย่างชอบใจ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำท่าเหมือนจะขาดอากาศหายใจเวลาอยู่กับเขาหรือแสดงท่าทีต่อต้านเขาเหมือนลินดาเลย ยิ่งรู้จักเธอมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งถูกใจเขาเหลือเกิน "ไม่ต้องรีบ ฉันมีเวลาให้เธอทั้งวันอยู่แล้ว" น้ำเสียงทุ้มต่ำที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจเอ่ยพูดขึ้น ขณะเดียวกันมือหนาของเขาก็เริ่มที่จะโอบรัดเอวบางของลินดาแน่นขึ้น "…" ซึ่งสัมผัสฝ่ามือที่เต็มไปด้วยความฉาบฉวยนั้น มันทำเอาลินดาถึงกับลอบกัดปากพร้อมกับก้มหน้าลงเล็กน้อย "ตัวสั่นทำไม? ไหนบอกให้รีบทำไง" เฮียภูวินทร์เอ่ยถามต่อ เขาพลางใช้มือข้างหนึ่งของตัวเองยกขึ้นมาจับคางเรียวของลินดาเชยขึ้นอย่างต้องการเชยชมความสวยงามของใบหน้าเธอ "ดะ เดี๋ยวสิ…" "…ฉันขอพูดให้เราเข้าใจให้ตรงกันก่อน คุณจะยกหนี้ให้พ่อของฉันจริง ๆ ใช่ไหม" "ฉันไม่ใช่คนพูดไปเรื่อย อะไรที่พูดออกไปแล้ว ฉันทำจริง" "ถ้าคุณกล้าตุกติกละก็…ฉันเอาคุณตายแน่" ลินดาเอ่ยพร้อมกับใช้แววตาที่เอาจริงเอาจังของตัวเองจ้องไปที่ใบหน้าหล่อ ทำเอาเฮียภูวินทร์ที่เห็นแบบนั้นแทบจะหัวเราะออกมาเพราะชอบใจในท่าทางและคำพูดของเธอแทบบ้า "เธอนี่…ไม่คิดจะกลัวฉันเลยสินะ" "ถ้ากลัวจะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้รึไง" หึ นี่แหละ มันต้องนิสัยแบบนี้…แม่งเอ๊ย! ถูกใจกูจริง ๆ เลยว่ะผู้หญิงคนนี้ "ดี งั้นก็มาเริ่มกันเลย" มุมปากหนายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาเอ่ยจบประโยค ก่อนที่มือแกร่งจะจัดการกอดรัดที่เอวบางของลินดาแน่นขึ้น ส่วนมืออีกข้างก็ทำการกระชากชุดเดรสกระโปรงสีขาวที่มีกระดุมติดอยู่ด้านหน้าออกอย่างแรง แคว่ก! เสียงกระชากดังขึ้นตามมาด้วยเสียงเม็ดกระดุมที่มันหล่นลงไปกระทบพื้นของเพนต์เฮาส์หรู "โอ๊ย! เบา ๆ หน่อยสิ" เจ้าของร่างเล็กที่โดนกระทำเอ่ยร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอรีบใช้มือเล็ก ๆ ของของตัวเองยกมือปกปิดบริเวณช่วงเนินอกของตัวเองทันที "ไม่เก่งเหมือนปากนี่" "ก็มันเจ็บ!" "งั้นก็ทำตัวกับฉันให้มันดี ๆ สิ ทำตัวน่ารัก ๆ ฉันจะได้อยากทะนุถนอมเธอมากขึ้นไง…เริ่มจากพูดจากับฉันเพราะ ๆ ก่อนเลย…" "…ไหนลองเรียกสิ เฮียภูขา" "ไอ้แก่" "เฮ้ย!!!" คำพูดที่สวนออกมาจากปากคนตัวเล็กนั้นทำเอาเฮียภูวินทร์ที่ได้ยินถึงกับเลือดขึ้นหน้า หัวฟัดหัวเหวี่ยงขึ้นมาในทันทีทันใด คนแก่ยังพอทน แต่นี่เธอเล่นเรียกกูว่าไอ้แก่ เด็กสมัยนี้แม่งปากดีฉิบหาย อยากรู้จริง ๆ ว่าตอนเด็กพ่อแม่ให้แดกอะไรเข้าไป "ปากเธอนี่มัน!!" มือแกร่งเลื่อนขึ้นไปบีบปากของหญิงสาว ลินดาเองก็พยายามที่จะเอียงใบหน้าหนีเขา "อ่อยย!!" เสียงเล็กที่ร้องอู้อี้อยู่ในลำคอโวยวายออกมาเล็กน้อย พลางรีบใช้มือจับไปที่แขนของเขาเพราะต้องการจะดันออก แต่แน่นอนว่าแรงของเธอมันน้อยนิดกว่าเขามาก "ไม่ว่ายังไงก็จะดื้อรั้นให้ได้เลยสินะ" "ดี! ฉันก็ถนัดเรื่องกำราบเด็กดื้อเหมือนกัน"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม