เพี๊ยะ!
“อ๊ะ!!” เธอสะดุ้งและร้องเสียงหลงทันทีที่ฝ่ามือหนาของเขาปะทะลงแก้มก้นจนรู้สึกแสบคัน
แก่นกายขนาดใหญ่ครูดเสียดไปมากับร่องรักคับแคบจนรู้สึกแสบคันปนเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะ อ๊า~”
“ครางออกมาอ่า…ฉันชอบเสียงครางของเธอ” เสียงกระเส่าดังคลอเคลียร์ข้างใบหูของญาณิน
เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขา…แทบเป็นบ้าคลั่ง!
“อึก อ๊ะๆๆๆ คะ…คุณแม็กซ์ควินอื๊อ!” เขาจับแขนทั้งสองเธอเอาไว้มั่นแล้งดึงร่างเธอเข้าหาตัวเอง ออกแรงกระแทกแรงๆ จนได้ยินเสียงดังของเนื้อกระทบกัน
“ญาณินไม่ไหวแล้ว…”
“อยากได้เงินจากฉัน ก็ต้องอดทนเอาหน่อยสิ” เขาพลิกตัวญาณินนอนหงาย จับแก่นกายแล้วสอดใส่เข้าไปในร่องรักอย่างไม่รีรอ สายตาพิศมองใบหน้าทรมานที่กำลังมองมาอย่างอ้อนวอน เขาก้มลงไปฉกริมฝีปากสีระเรื่อมาจูบ สอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากแล้วเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง
“มองหน้าฉัน” เสียงเข้มออกคำสั่ง
ญาณินค่อยๆ หันหน้ามามองแม็กซ์ควินตามคำสั่ง เขาสอดนิ้วเข้ามาในโพรงปาก สายตาคมเข้มคู่นั้นราวกับสัตว์ป่าร้ายกาจที่กำลังมองดูเหยื่ออย่างเธอ
“ดูดนิ้วฉันสิ”
เธอทำตามคำสั่งของเขาอย่างไม่อิดออด อะไรที่เขาสั่งเธอทำตามหมด เผื่อเขาจะพอใจแล้วตบรางวัลให้เธอตามที่บอกไว้ ก่อนหน้านี้สวมใส่ถุงยางอนามัยแต่ดันหมด เขาจึงขอเธอแบบไม่ใส่ถุงยางอนามัย ซึ่งเขาได้เสนออะไรบางอย่างมาให้
‘ถุงหมด’
‘ละ…แล้วเราจะทำยังไงกันดีคะ’
‘ขอสดได้ไหม’
‘คะ?’
‘ถ้าสดได้ ฉันให้เธอครั้งละสามหมื่น แล้วค่อยไปกินยาคุมฉุกเฉิน’
‘…’
‘ว่าไง?’
‘สะ…สามหมื่นนี่รวมกับที่คุณแม็กซ์ควินจะให้ญาณินและค่าที่บอกจะตบรางวัลให้ไหมคะ’
‘หึ เธอต้องการแบบไหน ฉันจะให้แบบนั้น’
‘…ก็ได้ค่ะ สะ…สดก็ได้’
บทรักอันเร่าร้อนดำเนินอยู่แบบนั้นอย่างเนิ่นนาน โดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่…
วันต่อมา
“อื้อ~” หญิงสาวส่งเสียงดังเบาๆ ในลำคอ เมื่อสัมผัสได้ถึงแสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระทบใบหน้า เมื่อสมองกลับมาประมวลผล ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ก็คือ…ความเจ็บตรงกลางกาย
เมื่อคืนหนักมาพอสมควร จำได้ว่าหลังจากทำความสะอาดร่างกายเสร็จสลบไปเลย ส่วนแม็กซ์ควินไม่รู้เพราะตอนนั้นเธอไม่เอาอะไรอีกแล้ว ตื่นขึ้นมาไม่คิดว่าสภาพร่างกายตัวเองจะบอบช้ำขนาดนี้ ปวดตามเนื้อตามตัว แถมตรงกลางกายยังเจ็บกว่าจุดอื่นๆ
เขารุนแรงมากจริงๆ
เธอค่อยๆ ประคองตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พอลุกขึ้นนั่งจึงเห็นแม็กซ์ควินยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียบข้างนอก
เขายังไม่กลับไปเหรอเนี่ย…
เธอละสายตาไปจากเขา ก่อนจะเหวี่ยงขาทั้งสองข้างลงจากเตียงนอนแล้วลุกขึ้นยืน ทันทีที่ยืนขึ้นขาทั้งสองพลันสั่นระริกจนสัมผัสได้ เธอค่อยๆ ก้าวเดินไปยังห้องน้ำ ด้วยความที่เจ็บตรงนั้นจึงทำให้เดินยากกว่าปกติ เสียงเปิดประตูทำให้เธอหันไปมองอัตโนมัติ และเห็นเขาเดินเข้ามาพอดี จู่ๆ ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งใบหน้าเมื่อเหตุการณ์เมื่อคืนฉายเข้ามาในหัว
“นึกว่าจะลุกไม่ไหวซะอีก”
“…” เธอเงียบเพราะไม่รู้จะตอบกลับว่าอะไร
“จะกลับแล้ว?”
“ค่ะ หมดหน้าที่ของญาณินแล้ว” เธอตอบโดยไม่มองหน้าเขา
มุมปากหยักกรีดยิ้มเมื่อได้ยินญาณินพูดแบบนั้น หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงขออยู่ที่นี่กับเขาต่ออีกสักพัก แต่สำหรับญาณินกลับไม่ใช่ เขาเดินเข้าไปใกล้ญาณิน
“คะ…คุณแม็กซ์ควินจะทำอะไรคะ” เธอถามเสียงสั่น สายตามองแม็กซ์ควินที่เดินเข้ามาใกล้จนต้องถอยหลังออกห่างตามสัญชาตญาณ จนกระทั่งขาทั้งสองข้างของเธอชนขอบเตียงจึงหยุด
“จะรีบไปไหน”
“หมดหน้าที่ของญาณินแล้ว ญาณินก็ต้องกลับค่ะ”
“แล้วถ้าฉันสั่งให้เธออยู่ต่ออีกหน่อยล่ะ?” เขาเน้นย้ำคำว่า ‘สั่ง‘ ชัดถ้อยชัดคำ สายตามองญาณินอย่างกดดัน
“มะ…ไม่ได้ค่ะ ถ้าแบบนั้นคุณปกป้องคงว่าญาณินแน่ๆ เพราะญาณินถูกจ้างมาแค่คืนเดียว หมดหน้าที่ก็ต้องไปค่ะ”
แม็กซ์ควินหัวเราะเบา ๆ รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เขายื่นมือมาประคองคางของญาณินขึ้นเบาๆ
“ไอ้ปกป้องบอกเธอแบบนั้น?”
“ค่ะ…” เธอแค่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย
“เธอนี่เป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องมากจริงๆ เลยนะ”
“…” เธอเงียบอีกครั้ง แม้ว่าจะรู้สึกไม่พอใจที่โดนเปรียบเป็นสัตว์เลี้ยง แต่เธอก็ต้องยอมรับมันให้ได้แม้จะโดนดูถูกหนักกว่านี้ก็ตาม เพราะแม็กซ์ควินคือลูกค้า หากเธอทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมา เขาอาจจะเอาไปบอกปกป้องได้
“ถ้าเธอเชื่องขนาดนั้น ก็ควรเชื่อฟังคำสั่งของฉันมากกว่าคำสั่งของคนอื่นสิ เพราะคนที่ให้เงินเธอคือฉัน ไม่ใช่ไอ้ปกป้อง” น้ำเสียงของแม็กซ์ควินฟังดูนุ่มลึกแต่ทรงอำนาจ ทำให้ญาณินรู้สึกเหมือนติดอยู่ในกรงที่มองไม่เห็น
“ตะ…แต่คุณปกป้องเป็นเจ้านายของญาณิน…”
แม็กซ์ควินหัวเราะเบา ๆ รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนานที่แฝงด้วยความอันตราย
“ปกป้องมันให้งาน แต่ฉันให้เงิน เธอควรเชื่อคำสั่งของใครมากกว่ากัน?”
คำพูดนั้นทำให้ญาณินนิ่งอึ้ง เธอรู้ดีว่าการขัดขืนแม็กซ์ควินไม่ใช่ทางเลือกที่ดี หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ มือที่ประคองคางของเธอนั้นแน่นขึ้นเล็กน้อย ราวกับย้ำเตือนถึงอำนาจที่เขามีเหนือเธอ
“ขอโทษด้วยนะคะ ถึงยังไงคุณปกป้องก็ยังเป็นเจ้านายของญาณินอยู่”
มุมปากหยักกรีดยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกทำให้รู้สึกเหมือนเขาไม่มีอำนาจใดๆ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนต้องฟังเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น การเจอญาณินทำให้เขารู้สึกอยากเอาชนะ
“เธอทำงานเพื่ออยากได้เงินสินะ”
“ค่ะ…”
“อยากได้เงินเหรอ…มาเป็นของสมบัติฉันสิ”
เธอยืนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินคำพูดของแม็กซ์ควิน ในขณะเดียวกันหัวใจพลอยไหววูบตามไปด้วย ประโยคนั้นของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกตีกรอบด้วยบ่วงที่มองไม่เห็น
“เป็นสมบัติของคุณ?” เธอถามเสียงเบา สายตามองลงต่ำอย่างไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา
“ใช่” เขาต้องการให้ญาณินเชื่อฟังคำสั่งของเขาเพียงคนเดียว
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องการให้เธอมาอยู่ใต้การดูแลของเขา ทั้งๆ ที่เธอก็แค่พนักงานธรรมดาที่ถูกจ้างมาทำหน้าที่บนเตียงเพียงชั่วคราว
“ญาณินแค่ทำงานเพื่อหาเงิน ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านั้นค่ะ” เธอตอบกลับเขา
“ถ้าเธอแค่ทำงานเพื่อเงิน งั้นฉันจะให้เงินเธอมากกว่าที่เธอจะหาได้จากใคร”
เธอมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆ แต่ยังคงนิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะตอบกลับเขาไปว่ายังไง เกิดมายังไม่เคยเห็นคนแบบแม็กซ์ควินมาก่อน เธอรู้ว่าเขารวยล้นฟ้า แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นจ้างผู้หญิงไปเป็นของเล่นตัวเอง
เขาคงทำแบบนี้กับทุกคนสินะ…
“ขอโทษด้วยนะคะ แต่ญาณินต้องกลับแล้ว” เธอเดินเลี่ยงออกมาจากเขาอย่างไม่สนใจในข้อเสนอใดๆ
นัยน์ตาแม็กซ์ควินดำมืดลงเมื่อถูกปฏิเสธ ความอยากเอาชนะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกหัวเสียมากไม่ใช่น้อยที่ถูกญาณินทำให้รู้สึกว่าอำนาจของเขาไร้ความหมาย
“เดี๋ยว”
“คะ?”
“ฉันให้เวลาเธอคิดสองวัน ถ้าเปลี่ยนใจก็มาหาฉันที่มาร์แอลคลับ”
เธอมองหน้าเขานิ่งๆ ก่อนจะพนักหน้ารับไปตามมารยาทแล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร
หมดหน้าที่ของเธอแล้ว…
เธอเดินออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง ทันทีที่ประตูปิดลง เสียงฝีเท้าของเธอสะท้อนเบาๆ ไปตามทางเดินที่เงียบสงบ แม้จะโล่งใจที่สามารถออกมาได้ แต่ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นจากคำพูดของแม็กซ์ควินยังคงก้องอยู่ในหัว
แม็กซ์ควินไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นมาเฟียแถมยังรวยล้นฟ้า บางทีการรับข้อเสนอของเขาอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล…
เธออาจจะเป็นคนโง่ที่ปฏิเสธข้อเสนอพวกนั้น แต่เธอไม่ต้องการเป็นนกน้อยในกรงทองของใครจึงตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอของแม็กซ์ควิน
ด้านแม็กซ์ควิน
หลังจากญาณินออกไปแล้ว เขาเดินไปคว้าโทรศัพท์มาต่อสายหาริวจิที่เป็นคนสนิท
“กูอยากได้ประวัติของเด็กไอ้ปกป้องที่มันส่งมาเมื่อคืนภายในวันนี้”
(นายจะเอาไปทำอะไรครับ?)
“มึงไม่ต้องรู้ แค่รีบเอาประวัติเด็กนั่นมาให้กูก็พอ”
(ได้ครับนาย)
เขาวางสายจากริวจิแล้วโยนโทรศัพท์ลงเตียงนอน แต่สายตาดันเห็นเข้ากับบางอย่างที่อยู่กลางเตียง เขาก้มลงไปหยิบสร้อยคอจี้รูปหัวใจขึ้นมา โดยข้างในเป็นรูปของญาณินและผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาคล้ายกัน เดาว่าคงเป็นแม่ของญาณิน
“ยิ่งเธอยากๆ ฉันยิ่งอยากได้เธอมาเป็นสมบัติของฉัน…”