หลังงานแต่งสุดแสนโรแมนติก…ในสายตาชาวบ้าน…จบสิ้นลง เคทกับเจ้าบ่าวของเธอก็ย้ายมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์สุดหรูของเขา
เดิมทีที่นี่มีแม่บ้านอยู่ประจำซึ่งเป็นคนที่มาคอยดูแลชายหนุ่ม แต่ทว่าตั้งแต่เคทย้ายไปอยู่วีวิทย์ก็ให้คุณแม่บ้านกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ของมารดาดังเดิมเพราะทั้งสองต้องการความเป็นส่วนตัวตามประสาข้าวใหม่ปลามัน นี่คือเหตุผลที่ทั้งสองบอกผู้ใหญ่ แต่ความจริงก็คือ…ไม่อยากให้ใครรู้ว่าทั้งสองนั้นแยกห้องกันอยู่ ต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกัน
สำหรับทั้งสองนั้นมันดีมากเพราะวีวิทย์ยังสามารถออกไปเที่ยวได้ตามปกติโดยที่เคทไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวาย เคทเองก็ชอบแบบนี้ไม่น้อยที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันเพราะยังจำคืนวันแต่งได้ดี
ทุกวันเคทจะตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารให้สามีซึ่งเขาเองก็นั่งทานมันแต่โดยดีในขณะที่เธอเข้าไปนอนดูอะไรเรื่อยเปื่อยในห้องแต่ทว่าวันนี้เธอจำใจต้องมานั่งทานข้าวเช้ากับเขาเพราะมีเรื่องจะคุยด้วย
“พี่วิทย์คะ”
วีวิทย์ที่กำลังทานอาหารชะงักเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะก่อนจะเงยหน้ามองเธอ
“วันนี้ช่วงบ่ายคุณปู่จะไปเยี่ยมคุณตาที่โรงพยาบาล ท่านทั้งสองอยากให้เราไปที่นั่น”
“...”
“นะคะ…เจอกันที่โรงพยาบาล…”
“มีอะไรอีกไหม”
“คะ”
“มีจะพูดอะไรอีกไหม”
“มีแค่นี้ค่ะ”
วีวิทย์วางช้อนส้อมลงบนจานอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะลุกจากโต๊ะอาหารเพื่อเตรียมออกไปทำงาน
คงไม่ใช่แค่เคทคนเดียวหรอกมั้งที่แสนจะเกลียดชีวิตคู่บ้าๆ นี่ ดูทรงแล้วคุณสามีคงไม่แพ้กัน
เคทพ่นลมออกจากปาก แม้ในใจอยากให้การแต่งงานครั้งนี้จบลงเร็วๆ แต่การจบลงของมันก็หมายถึงการจากไปของคุณตา ญาติเพียงคนเดียวของเคท ท่านป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ท่านกำลังจะตายในไม่ช้า.....
ชีวิตของท่านผ่านอะไรมาเยอะไม่มีอะไรต้องติดค้าง มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ท่านเป็นห่วง ก็คือเธอ
คุณตามีเพื่อนรักหนึ่งคน เพื่อนรักเพื่อนตายที่คอยช่วยเหลือกันมาตลอด นั่นก็คือคุณปู่ของวีวิทย์ คุณตาหวังว่าหลังจากที่ท่านจากไป คุณปู่จะช่วยดูแลหลานสาวเพียงคนเดียวที่เติบโตในต่างแดนนมาตั้งแต่สี่ขวบ
….คุณตารู้ว่าถ้าจากไปแล้ว เคทก็ไม่เหลือใครอีก เธอต้องอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้….
สิ่งเดียวที่ชายชราห่วงก่อนตาย คือหลานสาว…
คุณปู่ไม่มีปัญหาใด ๆ ที่จะดูแลเคทเพราะเขารักและห่วงใยเคทเหมือนหลานแท้ ๆ แต่ทว่าทั้งสองนั้นก็อยากทำให้ทุกอย่างมันถูกต้อง จะมีอะไรดีไปกว่าการให้เคทแต่งงานกับวีวิทย์หลานชายเพียงคนเดียวของคุณปู่
ในสายตาคุณปู่นั้นเคทเป็นเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ เป็นเด็กดี หน้าตาดี มีความสามารถ อ่อนโยน น่ารัก แบบที่วีวิทย์ไม่มีวันหาได้จากที่ไหนอีก
คุณปู่ไม่มีปัญหาแต่แน่นอนว่าวีวิทย์มีปัญหา ชายหนุ่มเจ้าสำราญ หล่อ รวย ไร้ที่ติที่สาว ๆ ต่างต้องการเข้าหามีหรือที่เขาจะอยากแต่งงานกับยัยเคท
แต่เคทก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพอหลังจากถูกคุณปู่เรียกไปปรับทัศนคติชายหนุ่มก็ยอมแต่งงานแต่โดยดี
แต่ใครว่าดีล่ะ…
คืนก่อนแต่งงานชายหนุ่มขอนัดพบกับเคทพร้อมทั้งร่ายเงื่อนไขมากมายที่เธอฟังแล้วก็ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งยังชอบใจไม่น้อย
แม้เคทจะไม่ชอบขี้หน้าไอ้พี่วิทย์นักแต่เพื่อคุณตาเธอก็ยอมแต่งงานแต่โดยดี…
ตอนนี้ทั้งสองลงเอยกันแล้ว เธอจะทำให้วาระสุดท้ายของคุณตานั้นราบรื่น แค่ช่วงเวลานี้เธอทนได้อยู่แล้วเพราะยังไงเสียตอนจบ ทั้งสองก็จะคืนอิสระให้แก่กัน...
เมื่อนึกถึงตอนนี้เคทก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
ชีวิตของเธอตอนที่ไม่มีไอ้พี่บ้านี่คงดีมากแน่ ๆ
—---------------------------
เคทยืนรอสามีอยู่หน้าโรงพยาบาลอย่างใจจดใจจ่อ และแล้วเธอก็เห็นรถตู้คันหรูมาจอดเทียบก่อนที่ชายหนุ่มในชุดสูทแบรนด์ดังจะก้าวลงมาจากรถ
เคทเห็นเขาจัดเสื้อของตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลโดยไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยจนเธอต้องรีบวิ่งตามหลังเขาเข้าไปติด ๆ
ทั้งสองเดินไปหยุดที่หน้าห้องวีไอพี เคทยื่นมือไปจับมือเขาเอาไว้จากนั้นเธอก็ส่งยิ้มหวานละมุนให้ชายที่ได้ชื่อเป็นสามี
วีวิทย์ที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาแต่ก็ยอมจับมือเธอไว้เพื่อเตรียมแสดงละครรักสุดแสนโรแมนติก
“มาแล้วเหรอ หลานรัก”
ชายชราท่าทางเอาเรื่องเดินเข้ามาสวมกอดวีวิทย์ เขาตบบ่าหลายชายเบาๆ ก่อนจะแวะมากอดทักทายเคท
“สวัสดีค่ะคุณปู่” เคทเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังกอดทักทาย
“มาพอดีเลย ตาเพิ่งเอาชนะหมากรุกคุณปู่”
“ข้าแค่อ่อนข้อให้เท่านั้นหรอก”
เมื่อได้ฟังแบบนั้นเคทยิ้มออกมาก่อนจะเข้าไปกอดคุณตาของเธอบ้าง
“เป็นยังไงบ้างคะ หลับสบายดีไหม”
“ดีจ้ะ กินอิ่มนอนหลับ มีความสุข” คุณตาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่บ่งบอกถึงความสุขจริงๆ เว้นเสียแต่ว่าจะมีบางส่วนของร่างกายที่เจ็บปวดจากโรคภัย
“หลานวิทย์เป็นไงบ้างล่ะ” คุณตาเอ่ยถามหลานเขย
“เยี่ยมเลยครับ เคทเป็นภรรยาที่ดีมากครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ เคทที่ได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจก่อนจะเอ่ย
“พี่วิทย์ก็เป็นสามีที่ดีค่ะ พี่วิทย์ดูแลเคทดีมากเลยนะคะคุณตา” เคทหันไปยิ้มให้วีวิทย์ก่อนจะหันไปหาคุณตาอีกครั้ง
“แล้วเมื่อไหร่จะไปฮันนิมูลกันล่ะ” คุณปู่โพล่งถามออกมา
“อีกไม่นานหรอกครับ ผมกำลังเร่งเคลียร์งาน
“งานอะไรเยอะแยะ ให้คนอื่นทำก็ได้ ไหนมีอะไร เดี๋ยวปู่จัดการให้”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณปู่ เคทเข้าใจ ยังไงเราสองคนก็ได้ไปแน่”
“ก็ปู่กับตาอยากอุ้มเหลนแล้วเนอะ” คุณปู่พูดทีเล่นทีจริง ทำเอาหลานชายที่กำลังยกกาแฟขึ้นดื่มต้องชะงักอย่างเสียอารมณ์
คนแบบเขาเนี่ยนะจะมีลูก ฝันไปเถอะ…
แล้วสองสามีภรรยาตัวอย่างก็ร่วมเล่นหมากรุกกับชายชราทั้งสองจากนั้นก็ทานมื้อเย็นที่แสนอร่อยด้วยกัน เป็นเวลาราว ๆ สี่ทุ่มที่วีวิทย์และเคทของตัวกลับบ้านโดยที่คุณปู่จะค้างเป็นเพื่อนคุณตาที่โรงพยาบาล
“พรุ่งนี้เคทจะมาหาแต่เช้านะคะ” หลานรักเอ่ยกับคุณตาขณะเข้าไปกอดลา
“เคทไม่ต้องมาหาตาทุกวันก็ได้นะลูก เพิ่งแต่งงาน เคทดูแลพี่วิทย์เขาเถอะนะ” คุณตาเอ่ยขณะลูบหัวหลานสาวอย่างเอ็นดู
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่วิทย์ใจดี พี่วิทย์เข้าใจเคท”
“เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
หลังร่ำลากันเสร็จ ทั้งสองก็เดินออกมา ทันทีที่พ้นสายตาคนอื่นท่าทีของทั้งสองก็กลับมาเป็นแค่คนรู้จักกัน
วีวิทย์เดินตรงไปขึ้นรถตู้ของเขาโดยไม่คิดจะรอเธอด้วยซ้ำแต่ทว่าเคทก็รีบวิ่งมาหาเขาเพราะจะนั่งรถกลับบ้านด้วย
“พี่วิทย์คะ เคทขอกลับด้วยได้ไหมคะ”
“แล้วมายังไง”
“คนขับรถคุณปู่ไปรับมาค่ะ”
“ฉันจะไปที่อื่นต่อ”
“คะ”
“ฉันยังไม่กลับบ้านตอนนี้”
“เคทรอได้ค่ะ”
ชายหนุ่มหยุดเดินกะทันหันทำให้เคทที่ตามมาชนหลังเขาเข้าเต็ม ๆ
“ฉันไม่สะดวก” เสียงเย็นลอยออกมาจากปากเขา
“…ค่ะ ไม่สะดวกก็ไม่สะดวก” เคทจ้องมองแผ่นหลังของคุณสามีอย่างโมโห ที่พูดต่อหน้าคุณตาว่าไอ้พี่เนี่ยใจดี เธอขอโละทิ้งทั้งหมด
ไอ้คนไม่มีน้ำใจ…
เมื่อพูดจบวีวิทย์ก็เดินไปขึ้นรถโดยไม่หันมาสนใจไยดีเคทแม้แต่น้อยทำให้คืนนั้นเธอต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้านตามลำพัง