หลังจากที่ทั้ง 4 คน กินข้าวเที่ยงกันเสร็จก็แยกกันที่โรงอาหารโดยนาวาเพื่อนชายคนเดียวของพลอยใสแยกไปเรียนเหลือสามสาวก็มานั่งรอเข้าเรียนในคาบต่อไปที่โต๊ะหน้าคณะของตัวเอง
“ เหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงนะเราไปเดินเล่นดูคณะอื่นกันบ้างดีไหม ”
เพียงฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากก้มมองเวลาบนนาฬิกาหรูที่เธอสวมใส่อยู่
“ น๊าน่ะพลอย รินไปเถอะถือว่าไปเดินย่อยกันก็ได้ ”
รินพยักหน้ารับเลยทำให้พลอยใสต้องตามน้ำไปกับเพื่อนด้วยทั้งที่เธออยากนั่งตรงนี้ไม่อยากเดินไปไหน เพราะเธอเล่นซัดอาหารไปจนแทบจะเดินไม่ไหว
“ ก็เธอกินเยอะมากนะพลอย เยอะจนฉันคิดว่าเธอไปอดอยากมาจากไหน ”
รินบอกพลอยใสออกไปเมื่อเห็นท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเพื่อน
“ ก็เมื่อเช้าฉันกินข้าวมาจากบ้านนิดเดียว เพราะฉันตื่นสายรีบกินรีบมา ตอนเรียนเลยหิวไปหน่อย แฮร่ !!! ”
“ รู้ว่ามีเรียนเช้า เธอต้องรีบนอนสิตอนเช้าจะได้ตื่นไม่สาย มัวทำอะไรอยู่ถึงได้นอนดึกตื่นสาย ”
“ ก็ติดดูละครนะสิ ใกล้จบแล้วด้วย ”
“ นี่เธอติดละคร ? ” รินถามอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่า พลอยใสจะติดละคร
“ แฮร่ !!!! ใช่ ฉันติดละครมากจันทร์ - อาทิตย์เลยติดทุกเรื่อง ”
“ ก็ฉันชอบฉันอยากเป็นดาราบ้าง อยากเป็นนางเอกที่อยู่ในจอแก้วนั้นบ้าง ”
รินและเพียงฟ้าเลยเข้าใจถึงเหตุผลที่พลอยใสเลือกเรียนคณะนี้คงเพราะอยากเป็นดารานี่เอง
“ อย่างแกนะยัยพลอยเป็นดาราได้สบายสวย น่ารัก ผิวก็ดี หุ่นก็ดีแถมยิ้มหวานขนาดนี้ ถ้าเป็นดาราขึ้นมาจริงๆ คนดูหลงตายเลย ”
เพียงฟ้าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมเพื่อน เพราะพลอยใสน่ารักและสวยมากจริงๆ เบ้าหน้าฟ้าประทานไม่เกินจริง
ทั้งสามเดินกันมาเรื่อยๆจนถึงตึกคณะวิศวะและเป็นเพียงฟ้าที่ต้องร้องอุทานเสียงดัง
“ แม่เจ้า !!! ตึกวิศวะอยู่ใกล้กับตึกเราเลย แกผู้ชายทั้งนั้น โอ้ยยย !!! ฉันจะบ้า ”
ความตื่นเต้นดีอกดีใจของเพียงฟ้าทำให้พลอยใสระเบิดหัวเราะออกมา อดที่จะเอ็นดูเพื่อนไม่ได้กับสีหน้าท่าทางดีใจจนออกนอกหน้านั้น
“ แต่ฉันว่าน่าปวดหัวจะตายผู้ชายเยอะ เสียงดัง คุยกันภาษาพ่อขุนราม ”
“ นี่ยัยรินน่าปวดหัวตรงไหนกัน มันชุ่มชื่นหัวใจต่างหากยะ ชิ ”
ยัยรินนะยัยรินมีแต่หนุ่มๆหล่อๆหุ่นดีๆให้ดูเพลินตา เพลินใจขนาดนี้มาบอกปวดหัว โอ้ยยยย !!!! แม่จะบ้า
พลอยได้แต่คิดในใจเงียบๆ ความแสบ ความแก่นคงต้องยกให้เพียงฟ้าละ ถ้าความนิ่ง พูดน้อย รักความสงบก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากริน
ส่วนเธอขอตั้งใจเรียนทำตามความฝันของตัวเอง สนุกกับการดูละคร ซีรีย์ หรืออ่านนิยายเล่มโปรดของเธอแค่นี้พอ
ทั้งสามพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พลอยใสก็ไม่ได้สนใจอะไรใครสาละวนอยู่กับเพียงฟ้าและรินลดา
โดยหารู้ไม่ว่ามีคนๆนึงที่นั่งมองเธออยู่ ภาพของเธอคนนั้น คนที่กำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนหัวเราะกันออกรสออกชาติ ยังติดอยู่ในสายตาและสมองของเขา เสียงเพราะๆ รอยยิ้มหวานๆนั้นทำให้เขาอยากเขาไปทักทายจนแทบทนไม่ไหวแต่ด้วยความที่คิดว่ามันอาจจะเร็วเกินไปเขาเลยจำต้องทนนั่งมองเธออยู่ห่างๆแบบนี้ไปก่อน ซึ่งในตอนนั้นเอง
“ มึงมองอะไรไออาทิตย์ มองสาวหรอว่ะ ไหนคนไหนบอกกูมั่งดิว่ะเพื่อน ”
เมฆเอ่ยถามขึ้นเพราะเห็นเพื่อนนั่งมองอะไรอยู่เป็นนานสองนานกับรอยยิ้มมุมปากนั้นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถามมัน
“ เสือก !!!!! กูจะมองอะไรมันก็เรื่องของกู ”
“ กูก็แค่ถามมั้ยว่ะ ทำมั้ยมึงต้องด่ากูด้วย กูก็แค่อยากรู้ ”
เมฆค้านเพื่อนกลับอย่างหัวเสียแค่ถามไม่ได้หรือไงแค่นี้ต้องด่า กูไม่เข้าใจ
“ นั่นแหละ ความอยากรู้ของมึงนั่นแหละเขาเรียกว่า เสือก !!! ”
เป็นพายุที่เอ่ยออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้างุนงงปนสงสัยของเมฆ
“ ไออาทิตย์มันจะดูอะไรเกี่ยวไรกับมึง เอาเรื่องของตัวเองเถอะ รายงานมึงเสร็จรึยัง ? ”
คำถามที่ไม่ได้คำตอบมันทำให้พายุรู้ได้ทันทีว่า เพื่อนช่างเสือกของเขามันยังทำรายงานไม่เสร็จ
“ มึงต้องพักบ้างนะเว้ย เรื่องเที่ยว เรื่องผู้หญิง เอาเวลามาทำรายงานส่งเดี๋ยวก็เรียนไม่จบหรอกมึง แล้วอย่าหาว่ากูไม่เตือน ”
“ คุณเพื่อนพายุขอรับ คุณช่วยกระผมทำรายงานหน่อยนะขอรับ ”
คำร้องขอที่ไร้ซึ่งการตอบกลับนั้นทำให้เมฆหันไปหาคนที่นั่งข้างๆด้วยใบหน้าและสายตาอ้อนวอนปนขอร้องอยู่ในนั้น
“ ไอคุณอาทิตย์มึงช่วยกูทำรายงานหน่อยได้มั้ยวะ ของกูยังไม่ถึงไหนเลยวะ หัวข้อที่กูได้แม่งโคตรยาก ”
“ ไม่ ใช่ เรื่อง ของ กู ”
พายุระเบิดหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำตอบของเพื่อนแต่ถึงมันไม่ร้องของให้เพื่อนช่วย ยังไงพวกเขาก็ช่วยมันอยู่ดี เพราะทั้งสามเป็นเพื่อนรัก เพื่อนตายกันมาตั้งแต่เด็กไปไหนไปด้วยกัน เรียนไหนเรียนด้วยกัน ช่วยเหลือกันและกันอยู่เสมอ
วันนี้เป็นวันรับน้องทำให้สามสาวที่เรียนในคาบบ่ายเสร็จลงมาเตรียมรับน้องที่ลานคณะของตัวเอง
ตึก ตึก ตึก เสียงสองเท้าหนักของใครบางคนเดินเข้ามาใกล้ทำให้ทั้งสามหันไปมองก่อนจะเห็นว่าเป็นนาวาเพื่อนชายต่างคณะเพียงคนเดียวของพวกเธอ
“ อ้าว นาวาไม่ไปรับน้องหรอ ”
พลอยใสเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ รับ คณะวิศวะรับรวมกับคณะนิเทศน์นะ ”
กรี๊ดดดดดด !!!!! เสียงกรี๊ดของเพียงฟ้าทำเอานาวารีบเอามือมาปิดหูด้วยความรวดเร็ว
“ เป็นบ้าอะไรของเธอ ”
นาวาอดไม่ได้ที่จะถามออกไปเขาละเกลียดจริงๆพวกผู้หญิงชอบกรี๊ดเนี่ย ดีใจก็กรี๊ด โกรธก็กรี๊ด ชาติที่แล้วเกิดเป็นนกหวีดหรือไง กรี๊ดๆ วี๊ดๆได้ตลอด
“ ฉันดีใจยะ ดีใจที่คณะนายมารับน้องรวมกับคณะของฉัน ”
“ ยัยพลอย เราจะได้รับน้องรวมกับคณะวิศวะ ฉันดีใจ ฉันดีใจ ”
เพียงฟ้าพูดพลาง เขย่าแขนพลอยใสไปพลาง ความดีใจจนออกนอกหน้านี้ทำให้ทั้งนาวาและรินที่ยืนมองอยู่กลับต้องส่ายหน้า มีเพียงพลอยใสเท่านั้นที่เอ็นดูเพื่อนของเธอเป็นอย่างมาก
พลอยใสกลับชอบความจริงใจ ตรงไปตรงมาของเพียงฟ้าเสียอีก
ปี๊ด ปี๊ดด !!!! เสียงนกหวีดดังขึ้นทำให้เหล่านักศึกษาชายหญิงของคณะนิเทศน์และวิศวะปี 1 สับเท้าก้าวมาที่ลานกิจกรรมที่อยู่ระหว่างตึกของ 2 คณะ
“ น้องๆปี 1 ทุกคนรีบมารวมแถว ใครช้าจะโดนทำโทษ ปีนี้เป็นปีแรกที่คณะวิศวะและคณะนิเทศน์จะรับน้องร่วมกัน ”
“ และจะมีการทำกิจกรรมนอกสถานที่ร่วมกัน เพราะฉะนั้นทำความรู้จักกับรุ่นพี่ กับเพื่อนร่วมคณะและต่างคณะกันไว้ ”
เสียงของพี่ๆวิศวะดังพอให้เหล่านักศึกษาทั้งลานกิจกรรมได้ยิน
“ พวกพี่คณะวิศวะปี 4 จะเป็นคนดูแลน้องๆทุกคนทั้งวิศวะและนิเทศน์ ดังนั้นโปรดรักษาเวลา เชื่อฟังและรักษากฏให้ดี หากใครฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษไม่เว้นว่าชายหรือหญิง คณะอะไรก็ได้รับโทษเหมือนกันหมด ”
“ เข้าใจที่พี่พูดไหม ”
ค่ะ !! ครับ !!
“ ดังๆ เข้าใจที่พี่พูดไหม ”
ค่ะ !!!!! ครับบบบ !!!!!!!
ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองกันมีแค่เพียง 3 หนุ่มที่นั่งกันอยู่ตรงม้าหินข้างลานกิจกรรม พวกเข้าทั้ง 3 เป็นหนุ่มหล่อของคณะวิศวะ หล่อจนเพจมหาลัยหาเรื่องราวข่าวสารของพวกเขาไปลงโพสต์แทบทุกวัน แต่ด้วยความที่เข้าถึงยาก หาตัวจับยาก
โดยเฉพาะอาทิตย์หนุ่มหล่อ Top 1 ของคณะที่ไม่เคยชายตามองใคร ไม่เคยกินสาวๆในมหาลัยแต่เขาก็เป็นที่หมายปองของสาวๆแทบทุกคณะ มีแต่คนอยากเสนอตัวให้ เขากลับไม่สนใจใคร
แต่ดันมาสนใจสาวน้อยหน้าหวานที่นั่งรับน้องอยู่ที่ลานกิจกรรมนั่น เขาชอบเธอมาก อยากจีบ อยากจับมาจูบซะให้เข็ด ลงโทษที่เธอน่ารักเกินไปและนั่นก็เป็นความคิดด้านมืดของเขา
เธอคนนั้น คือ คนที่เขาสนใจ