EPISODE 04
ข้อตกลง
“ลุกขึ้นไปทำความสะอาดตัวให้เรียบร้อยฉันไม่ชอบผู้หญิงสกปรก” วาเลนเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเดินเปลือยเปล่าออกไปรอคนตัวเล็กนอกห้อง
พริบพราวทำได้เพียงทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายอย่างว่านอนสอนง่าย เธอพยายามเก็บชิ้นส่วนเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาดู แต่กลับไม่มีตัวไหนใส่ได้เลยเพราะถูกฉีกขาดไปหมดแล้วทำให้ต้องจำใจยืมชุดคลุมอาบน้ำที่แขวนไว้ในห้องน้ำมาสวมใส่เอาไว้ชั่วคราวหลังจากชำระล้างร่างกายเสร็จ
พริบพราวพยายามประคองร่างกายที่บอบช้ำออกมาหาอีกฝ่ายตามคำสั่ง ก่อนจะเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขากลางห้องนั่งเล่นที่เขากำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในมือ
“ขอยืมใส่ก่อนนะคะ เสื้อผ้าพราวมันขาดจนใส่ไม่ได้แล้ว” คนตัวเล็กเอ่ยบอกเสียงเบา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
ไม่รู้ว่าควรรู้สึกดีที่ได้เป็นของผู้ชายที่ตัวเองแอบรัก หรือกลัวกับความรุนแรงที่ได้รับดีกันแน่
“เอาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่” เขาบอกพร้อมกับโยนเงินจำนวนหนึ่งให้เธอลงบนโต๊ะกลางที่ทำจากหินอ่อน ตามด้วยหยิบสมุดเช็คเงินสดมากรอกตัวเลขเจ็ดหลักลงไป ก่อนจะโยนมันลงไปบนโต๊ะตามเงินสดที่โยนไปก่อนหน้า “ส่วนอันนี้ค่าตัวเธอน่าจะพอแลกกับพรหมจรรย์ของเธอได้นะ”
“คุณ…”
“อ่อ แล้วก็นี่กินซะ”
พริบพราวมองยาคุมฉุกเฉินที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับขวดน้ำเปล่า การกระทำดูถูกเหยียดหยามทำให้ขอบตาเธอเริ่มแดงก่ำอีกครั้ง แต่ก็ยอมหยิบยาคุมฉุกเฉินมาทานตามคำสั่ง
“พราวอยากกลับบ้านแล้ว พร้อมขอยืมเสื้อผ้าคุณหมอใส่กลับก่อนได้ไหมคะ” เธอเอ่ยถามโดยไม่หยิบเช็กเงินสดมาดูจำนวนเงินที่ได้รับด้วยซ้ำ
“อืม”
เมื่อได้รับคำอนุญาตเธอจึงเดินฝืนร่างกายกลับไปยังห้องนอนอีกครั้งเพื่อเลือกเสื้อผ้ามาสวมใส่ เธอเลือกเสื้อยืดกับเสื้อคลุมกีฬาแขนยาวกับกางเกงวอร์มเข้าชุดสีดำมาสวมใส่ เพราะไม่มีชุดชั้นในสวมใส่เลยจำเป็นที่จะต้องสวมเสื้อคลุมทับ
เธอเดินกลับออกมาพร้อมกับมือที่กุมขอบกางเกงเอาไว้ แม้จะพยายามมัดจนสุดก็ยังดูตัวใหญ่ไปสำหรับร่างแบบบางอย่างเธอ
พริบพราวเดินกลับมาหยิบธนบัตรแบงค์พันออกไปหนึ่งใบเพื่อเป็นค่ารถในการกลับที่พักของตัวเอง เพราะเธอไม่มีอะไรติดตัวมาเลย
“พราวกลับออกไปจากที่นี่ได้เลยไหมคะ หรือว่าคุณหมอต้องลงไปส่งถ้าแบบนั้นรบกวนด้วยนะคะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเหมือนทุกครั้ง แม้จะหลับนอนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้วเธอกลับดูเจียมตัวไม่ได้เรียกร้องอะไร หรือกระทั่งข้อเสนอที่เธออยากได้ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้พูดถึงมันอีก เมื่อเขาปฏิเสธออกมาอย่างชัดเจน
“เอาเงินของเธอไปด้วยไม่ต้องมาโลกสวยแถวนี้มันคือสิ่งที่เธอสมควรจะได้รับ”
“พราวบอกแล้วไงคะว่าพราวไม่ได้อยากได้เงินของคุณหมอ คิดซะว่าพราวตอบแทนที่คุณหมอเคยช่วยพราวไว้แล้วกันคุณหมอจะได้สบายใจไม่รู้สึกติดค้างกัน” คนตัวเล็กตอบพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่ประดับใบหน้าหวานเอาไว้
“ฉันก็บอกไปแล้วว่าที่เธอต้องการฉันให้ไม่ได้”
“พราวทราบแล้วค่ะ”
“แล้วเธอจะยอมขาดทุนไม่เอาอะไรไปเลยรึไง คนฉลาดๆ เขาไม่ทำกันหรอกนะ”
“จะว่าพราวโง่ ง่าย หรือน่าสมเพชก็แล้วแต่คุณหมอจะคิดเลยค่ะ ตอนนี้ไปส่งพราวได้รึยังคะ” คำตอบที่ยังคงประดับรอยยิ้มหวานบางๆ เอาไว้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิด
เธอทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกบีบบังคับให้ติดค้างเธอ เมื่อเธอไม่รับสิ่งตอบแทนจากเขา
“จำนวนเงินที่ฉันให้เธอมันน้อยไปงั้นเหรอ? งั้นเธอก็กรอกเอาเองว่าเท่าไหร่ที่เธอพอใจ” เขาบอกพร้อมกับโยนปากกากับสมุดเช็กเงินสดไปตรงหน้าคนตัวเล็ก
“พราวบอกแล้วไงคะว่าเราไม่มีอะไรติดค้างกันคุณหมอไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกค่ะ”
“ฉันไม่ได้รู้สึกผิด แต่ฉันรำคาญที่เธอพยายามยัดเยียดความเป็นคนดีให้ฉัน ไหนลองบอกมาสิว่าฉันไปมีบุญคุณกับเธอตอนไหน?” ความอึดอัดที่คนตัวเล็กมอบให้ทำให้วาเลนเริ่มอยากรู้เรื่องราวมากยิ่งขึ้นจนต้องเอ่ยปากถาม จากที่ตอนแรกคิดว่าจะไม่สนใจ
“คุณหมออาจจะจำไม่ได้แล้ว แต่คุณหมอเคยช่วยพ่อพราวเอาไว้ พ่อพราวเป็นโรคหัวใจเคยเป็นลมหมดสติข้างถนนตอนนั้นคุณหมอเป็นคนมาช่วยปั้มหัวใจให้พ่อ พอไปโรงพยาบาลคุณหมอรู้ว่าบ้านเราไม่มีเงินคุณหมอก็เลยรับพ่อของพราวเป็นเคสอุปถัมภ์ของโรงพยาบาล และคอยช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการอยู่โรงพยาบาลมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เพราะพ่อต้องพักฟื้นร่างกายให้พร้อมเพื่อเตรียมผ่าตัด ถ้าไม่ได้คุณหมอป่านนี้พ่อพราวคงตายไปแล้ว ชีวิตพราวก็คงจะเหลือตัวคนเดียว พราวซาบซึ้งใจในพระคุณคุณหมอมาตลอดดังนั้นเรื่องวันนี้คิดซะว่าพราวตอบแทนบุญคุณให้คุณหมอแล้วกันนะคะ”
ยิ่งอีกฝ่ายทำตัวแสนดีรับบทนางเอกยิ่งทำให้วาเลนรู้สึกรำคาญมากขึ้นเป็นเท่าตัว จนต้องยอมปล่อยเธอกลับไปตามความต้องการของเธอ
“ถ้าฉลาดเมื่อไหร่อยากกลับมาเอาเงินก็มาเอาได้ทุกเมื่อ”
วาเลนทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่พริบพราวจะขึ้นรถกลับออกไป
--------------------
ถ้าเป็นมัมมี้...มัมมี้จะเก็บเงินกลับบ้านค่ะ🥹😂
อย่างน้อยก็เก็บไว้รีแพร์ได้นะลูกสาว😂
รักเค้า งงเงินไม่เอาแล้วท้อใจ🥲