หวางเฟยลงจากรถม้ากลับมายังจวนสกุลกงซุน นางก้าวลงจารถม้า พ่อบ้านจึงเดินมาต้อนรับ
“ฟู่จวินกับ ผิงถิงหล่ะ” หวางเฟยจึงเอ่ยตรัสถาม
“อยู่เรือนกลางขอรับ” พ่อบ้านกล่าวเช่นนี้ หวางเฟยจึงเสด็จเข้ามาในเรือน เห็นว่าฟู่จวินกำลังจะก้าวออกจากเรือนในชุดขุนนาง พระนางจึงเคารพผู้เป็นฟู่จวิน
“ฟู่จวิน”
“เจ้าออกมาทำไม วันนี้วันแรกหลังการอภิเษก ทำไมไม่อยู่กับหวางเย่ที่ตำหนัก” ฟู่จวินเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“หวางเย่ทรงเสด็จไปยังท้องพระโรงแล้ว ข้าจึงกลับมาดูท่านว่ากินอะไรหรือยัง”
“ผิงถิงตื่นแต่เช้าทำกับข้าวให้ข้ากินแล้ว”
“เจี่ยเจีย” เสียงสดใสจากหญิงสาวดังขึ้น ทำให้ทุกคนกันไปมองแล้วเผยยิ้ม เห็นว่าสาวน้อยนามว่าผิงถิงวิ่งมาหา แต่ฟู่จวินต้องหุบยิ้มอย่างรวดเร็ว แล้วจึงดุ
“ผิงถิง มีมารยาทบ้าง ทำเช่นนี้ชายบ้านไหนจะมาสู่ขอเจ้า”
“ข้าแค่สิบหกเอง ไม่ต้องมีใครมาสู่ขอก็ได้ ข้าอยู่เป็นเพื่อนท่านไม่ดีกว่าหรือฟู่จวิน เกอเกอของข้าแต่ล่ะคนก็ออกเรือนกันหมดแล้ว ให้ข้าอยู่กับท่าน ดีกว่าอีกเนอะ เจี่ยเจีย” ผิงถิงกล่าวเช่นนี้ ทำเอาหวางเฟยเผยยิ้ม
“ฟู่จวินอย่าไปดุนางเลย นางยังเด็กนัก ให้นางโตอีกหน่อย นางก็จะรู้เอง”
“เอาหล่ะ ข้าจะไปท้องพระโรงพวกเจ้าก็คุยแล้วกัน คงมีเรื่องคุยอีกมาก”
“เดินทางดีๆ นะเจ้าคะ” ผิงถิงเอ่ยบอก
“อืม” ฟู่จวินกล่าวเช่นนี้ แล้วจึงเดินไปยังรถม้า
“เจี่ยเจียท่านว่าอะไรน่ะ ไท่ฟู่บุกไปยังตำหนักของท่านกับเจียฟู่ ทั้งที่ข้าคอยให้ทหารของฟู่จวินคอยลาดตระเวนและทหารของตำหนักด้วยยังหยุดเขาไม่ได้”
“ผิงถิง เจ้าอย่าลืมเขาคือไท่ฟู่ และยังเป็นจอมพลทหารม้าควบคุมทหารเรือนแสน เด็ดหัวเจ้าเมืองและผู้ครองแคว้นไม่รู้กี่คน แค่ปีนตำหนักเข้ามาไม่ใช่เรื่องยากลำบากสำหรับเขา”
“เจี่ยเจีย แล้วเขาทำอะไรท่านหรือไม่” ผิงถิงเอ่ยถามพระนางด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ ไท่ฟู่ไม่ได้ทำอะไรข้า เขาแค่เอาของมาคืนก็แค่นั้น”
“เจี่ยเจียท่านยังรักไท่ฟู่อยู่หรือไม่”
“คนเราจะตัดใจจากรักแรกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ข้าพยายามให้ลืมเขาให้ไวที่สุด” หวางเฟยทรงถอนพระหทัย
“เจี่ยเจีย ท่านก็รีบมีพระโอรส พระธิดา จะได้ลืมเขา เพราะเจี่ยเจียจะได้นึกถึงแต่ลูก ไม่นึกถึงเขาอีก”
“แก่แดดนะเจ้า” หวางเฟยทรงใช้ดัชนีดีดลงบนหน้าผากของเหม่ยเมยด้วยความเอ็นดู
“ข้าเจ็บน่ะ” ผิงถิงใช้มือลูบลงบนหน้าผาก
“ผิงถิง ข้าวานเจ้าเรื่องหนึ่ง” หวางเฟยทรงตรัส แล้วหยิบปิ่นหยกขาวชิ้นหนึ่งขึ้นมา แล้วส่งให้ผิงถิง นางจึงมองดู ปิ่นหยกขาว ปลายปิ่นนั้นคือลายเมฆา หวางเฟยจึงตรัสต่อ
“ผิงถิง เจ้าจงคืนปิ่นนี้ให้ถึงมือของไท่ฟู่ แล้วบอกเขาว่า วาสนาของเราสองขอให้จบลงเท่านี้ ขอให้ท่านเริ่มต้นใหม่กับใครซักคน และขออย่าให้มีอุปสรรคใดๆ มาทำลายรักของท่าน” หวางเฟยตรัสด้วยสุรเสียงเอือ ผิงถิงทราบดีว่าเจี่ยเจียของนางรักไท่ฟู่มาสามปี และไท่ฟู่ทรงดีกับพระนางมาก แต่ติดว่าเพราะท่านไม่ใช่โอรสของหวางโฮ่วพระองค์ก่อน จึงคลาดกันไป
ผิงถิงเดินตามทั่วเมืองหลวงกระทั้งหอคณิกานางก็ไป ทั้งที่จวนก็ไม่อยู่ ผิงถิงนางนึกไม่ออกว่าไท่ฟูเสด็จไปที่ใด จนมาถึงหอหลงอวี้ เป็นโรงเหล้าที่เหล่าขุนนางชอบแวะเวียนมาดื่มกิน นางจึงเดินลัดเลาะเข้าไปในหอ อีกทั้งไม่มีใครจับสังเกตนางได้ เพราะแต่งเป็นชาย นางจึงเดินไปหลังหอจึงเห็นห้องหนึ่งเปิดสนิท เห็นคนของไท่ฟู่ยืนอยู่ นางจึงตรงเข้าไปหา คนของไท่ฟู่จึงเอ่ยขึ้น
“คุณหนูผิงถิง ท่านมาทำอะไรที่นี่”
“ใต้เท้าจื่อ ข้าขอเข้าพบไท่ฟู่ได้ไหม”
“ได้ แต่นายท่านเมาหนักมาก รุ่งสางจะเดินทัพแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้จะขึ้นม้าออกจากเมืองได้อย่างไร” จื่อลั่วเอ่ยกล่าวด้วยความหนักใจ แล้วจึงเปิดประตูออก ผิงถิงเห็นไท่ฟู่กำลังร่ำสุรากับนางคณิกาสามคน อีกที่คนกำลังร่ายรำอยู่ เพื่อสร้างความบันเทิงให้ท่าน ทว่าผิงถิงเห็นแล้วอนาจใจยิ่งนัก ต่างคนต่างลืมรักของกันและกัน ถึงนางจะเป็นคนนอกก็รู้สึกได้ว่าปวดใจทั้งคู่ อยากอธิบาย
“นายท่านเป็นเช่นนี้ตั้งแต่บ่าย ข้าเกลี่ยกล่อมให้กลับก็ไม่ยอมกลับ คุณหนูพอมีวิธีไหม” จื่อลั่วเอ่ยถามด้วยความหนักใจ
“ใต้เท้าจื่อ ไท่ฟู่และเจี่ยเจียต่างไม่ได้ผิด ถ้าจะผิด ก็ผิดคนแก่สองคน ทำสัญญาไม่นึกถึงอนาคตที่ตามมา” ผิงถิงถอนหายใจ
“ยามกลุ้มดื่มสามหมื่นจอก เมาแล้วเมื่อไหร่จะหาย เมาแล้วเมื่อไหร่สาง สางแล้วจะมีอะไร ข้าอยากเมาแล้วไม่รู้สาง แบบนี้จึงสะใจ” สุรเสียงของไท่ฟู่เอ่ยขึ้น หญิงสาวข้างกายพูดบ้าง
“ท่านจะไปสนใจกับผู้หญิงคนนั้น ท่านสนใจพวกข้าดีกว่า อย่าไปสนใจนางเลยใต้เท้า นางก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง นางจะดีเด่นอะไร” หญิงสาวพูดเช่นนี้ ไท่ฟู่จึงปาแก้ว จนนางทีนั่งอยู่ข้างๆ หลายคนต่างหวาดกลัว ลุกขึ้นถอยหนี ไท่ฟู่ขึ้น
“เจ้าว่านางอะไรน่ะ นางจะดีเด่นอะไร อย่างน้อยนางก็ขี่ม้ายิงธนูเป็น พวกเจ้าออกไปให้หมด” ไท่ฟู่ดำริด้วยสุรเสียงดังลั่น พวกนางจึงเดินออกไปหมด ทว่าสุรเสียงเอ่ยขึ้นมาก่อน
“นางรำพวกเจ้า รำต่อไป” ไท่ฟู่ทรงตรัสเช่นนี้ มีหรือพวกนางจะกล้าไป ทรงเป็นไท่ฟู่ เหล่าซือให้กับเหล่าราชนิกุลในพระราชวัง อีกทั้งยังเป็นเกอเกอของต้าหวางองค์ปัจจุบัน พวกนางจึงร่ายรำต่อ
อ่านจบอย่างลืมเขียนเม้นท์ให้กำลังใจไรท์ ทุกคอมเม้นท์ไรท์เข้ามาอ่านก่อนเขียนตอนต่อไปทุกครั้งค่ะ ขอคนละเม้นท์เป็นกำลังใจด้วยน๊า
1 เม้น 1 กำลังใจ