ขนมเข้ามาในบริษัทตั้งแต่เช้าหลังวันนี้ต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ไปเยี่ยมชมโรงแรมในเครือที่กำลังก่อสร้างอยู่ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะมองเห็นคนที่ยืนโบกมือให้เธอด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี
“คุณจันทร์เจ้าสวัสดีค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยทักทายคนตรงหลังอย่างให้เกียรติเพราะ ‘จันทร์เจ้า’ เป็นถึงน้องสาวเพียงคนเดียวของคุณอาทิตย์ ซึ่งเป็นเจ้านายของเธอ
“มีเรื่องจะคุยด้วย”
จันทร์เจ้ารีบดึงมือเล็กของเพื่อนสนิทมากุมไว้แน่นก่อนจะลากเจ้าตัวเข้ามาคุยธุระกันในห้องทำงานของพี่ชายเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว
“จันทร์เจ้ามีอะไรหรือเปล่า”
ขนมถามกลับอย่างสงสัยและเปลี่ยนน้ำเสียงใหม่อย่างสนิทสนมเวลาอยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ มองเห็นรอยยิ้มหวานที่คนตรงหน้าส่งมอบให้ก็พอจะรับรู้ว่ามีเรื่องรบกวนให้เธอช่วย
“เจ้าอยากให้ขนมช่วยดูชุดคอลเลคชั่นใหม่ให้หน่อย”
“อืม แต่ขนมไม่ได้มีความรู้เรื่องงานออกแบบอะไรพวกนี้หรอกนะ”
“ไม่ต้องใช้ความรู้อะไรหรอก แค่ขนมดูและก็บอกว่าสวยหรือไม่สวย”
คนตัวเล็กขยับกรอบแว่นให้เข้าที่หลังจันทร์เจ้าเปิดภาพเสื้อผ้าที่ตัวเองได้ตั้งใจออกแบบมาตลอดหลายเดือน
“สวยมาก”
“จริงเหรอ”
ขนมพยักหน้าตอบกลับด้วยรอยยิ้มหวาน คอลเลคชั่นใหม่รอบนี้มีความแตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
‘แบรนด์ The Moon’ มีชื่อเสียงอย่างมากจนถึงขนาดมียอดจองถล่มทลายตั้งแต่วันที่ปล่อยตัวอย่างสินค้า แม้ราคาจะสูงเทียบเท่าแบรนด์หรูทว่าความสวยและการออกแบบที่ประณีตของจันทร์เจ้าสามารถสร้างฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“รอบนี้ดูแตกต่างกว่าคอลเลคชั่นก่อนๆ นะ”
“พอดีเจ้าอยากจะฉีกให้แตกต่างจากลุคเดิมที่เน้นเซ็กซี่ เป็นหวานซ่อนเปรี้ยว” คนเป็นเจ้าของแบรนด์เลื่อนรูปบนหน้าจอให้คนตรงหน้าได้ดูพร้อมอธิบายเสื้อผ้าแต่ล่ะชุดให้เพื่อนสนิทฟังอย่างละเอียด
“เจ้ามีเรื่องอยากจะให้ขนมช่วยหน่อย”
“เรื่องอะไรเหรอ”
“มาถ่ายงานเป็นนางแบบให้หน่อยนะ”
“ว่าอะไรนะ!”
ขนมเอ่ยถามด้วยความตกใจทันควัน อย่าว่าแต่ถ่ายงานเลย เสื้อผ้าพวกนี้เธอก็ไม่เคยใส่มาก่อน และหญิงสาวก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสวยเหมาะสมที่จะเป็นนางแบบให้ใคร
“ช่วยหน่อยนะ ขนมเหมาะที่จะมาเป็นนางแบบคอลเลคชั่นนี้ของเจ้าที่สุด”
“สภาพอย่างนี้เหรอ”
หญิงสาวชี้มือเข้าหาใบหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อหู นึกไม่ถึงว่าจันทร์เจ้าจะมองเธอเหมาะสมกับเสื้อผ้าราคาหลายหมื่นของตัวเอง
“เพื่อนเจ้าสวยจะตาย ลองขนมแต่งหน้าทำผมดูสิ สวยกว่านางเอกเสียอีก”
“ไม่ไหวหรอกจันทร์เจ้า”
“โธ่ ถ้าขนมไม่ช่วย เจ้าต้องแย่แน่ๆ เลย”
จันทร์เจ้ารีบยกมือเล็กมากุมไว้แน่นพรางส่งสายตาออดอ้อนเพื่อขอร้องเพื่อนสนิทสุดฤทธิ์ เป็นจังหวะเดียวกันที่ประตูห้องทำงานเปิดกว้าง
ใบหน้าสวยมองเมินร่างสูงของพี่ชายที่ยืนกอดอกมองมาด้วยแววตาเรียบนิ่งทว่าฉายชัดความรำคาญเนืองๆ ออกมา
“เจ้าสัญญาว่าจะขอร้องให้ขนมทำเรื่องแบบนี้แค่ครั้งเดียว”
“แต่ว่า...”
“ขนมแค่ไปลองดูก่อนก็ได้ ถ้ายังไงค่อยตัดสินอีกที”
“ก็ได้”
ขนมจำใจพยักหน้าตอบกลับอย่างเกรงใจ ยิ่งเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายมองมาก็ทำเอาเธอไม่กล้าปฏิเสธ แถมหญิงสาวตรงหน้ายังคอยช่วยเหลือและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานานอีก
“ขอบคุณมากเลยนะขนมเพื่อนรัก”
จันทร์เจ้ายกมือขึ้นควงแขนคนเป็นเพื่อนพร้อมแนบใบหน้าซบลงบนไหล่บอบบางอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นแววตาดุดันของพี่ชายมองมาอีกครั้ง
หวงจนออกนอกหน้าอย่างกับเป็นแฟนเขา!
“ผมขอกาแฟหนึ่งแก้ว”
“ค่ะคุณอาทิตย์”
ขนมรีบก้าวขาไปชงกาแฟให้เจ้านายตามคำสั่ง และจัดเตรียมตารางงานของวันนี้ให้เรียบร้อย
“มาวุ่นวายอะไรอีก”
อาทิตย์ทรุดนั่งบนเก้าอี้ระหว่างใช้สายตาจ้องน้องสาว เพียงเห็นใบหน้าของเลขาคนสนิทเมื่อครู่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเจ้าตัวโดนขอร้องให้ช่วยในเรื่องที่ไม่อยากทำ
“เจ้าแค่จะมาขอร้องให้ขนมไปช่วยเป็นนางแบบให้หน่อย”
“ไม่มีคนอื่นแล้วหรือไง”
“มีแต่ไม่เอาค่ะ”
ประธานหนุ่มครางในลำคออย่างไม่สบอารมณ์หลังได้ยินแบบนี้ ใครๆ ก็ต่างรู้ดีว่าแบรนด์ The Moon มีแต่เสื้อผ้าน้อยชิ้นที่โชว์และขายความเซ็กซี่ ยิ่งเขาเห็นภาพคนตัวเล็กไปใส่ชุดแบบนั้นความหึงหวงก็ปะทุขึ้นมาไม่หยุด
“เธอจะออกคำสั่งหรือบังคับใครก็ได้แต่ไม่ใช่กับขนม”
“เจ้าไม่ได้บังคับสักหน่อย แค่มาขอร้องและที่สำคัญขนมก็ยอมช่วยแล้วด้วย”
“ที่ช่วยเพราะเกรงใจเธอต่างหาก”
“พี่อาทิตย์ดูหงุดหงิดชอบกลนะคะ หรือว่าหวงเลขาตัวเอง”
อาทิตย์เอนพิงพนักเก้าอี้พร้อมยกมือขึ้นกอดอกหลังถูกน้องสาวโจมตีด้วยคำพูดรู้ทันแบบนี้อีกแล้ว หญิงสาวรู้ว่าเขาคิดยังไงกับขนม แถมยังชอบพูดจาเย้าแหย่ชวนให้ชายหนุ่มหงุดหงิดอยู่เรื่อย
“แฟนขนมเขายังไม่หวงขนาดนี้เลย ตัวเองเป็นแค่เจ้านายแต่กลับ...”
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
“หึ คงมีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ทำให้ผู้บริหารระดับสูงอย่างพี่อาทิตย์ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่”
หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างชอบใจเมื่อได้เห็นอาการของพี่ชายที่แทบจะเก็บเอาไว้ไม่อยู่ เธอได้แต่สงสัยว่าทำไมมีผู้หญิงตั้งมากมายแต่เจ้าตัวกลับแอบคิดเกินเลยกับเลขาตัวเองซึ่งมีเจ้าของอยู่แล้ว แถมความรู้สึกไม่ใช่แค่ชอบพอธรรมดาแน่นอน
เรียกได้ว่าทั้งหลงและรักจนแทบอยากจะถวายหัวให้
“รักเขาขนาดนั้นทำไมไม่แย่งมาคะ” จันทร์เจ้าแกล้งถามอย่างล้อเลียน
“ออกไป เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด”
“น้องรู้นะถึงพี่อาทิตย์ไม่คิดที่จะแย่งขนมมาจากแฟน แต่ก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอเสียบเวลาเขามีปัญหากัน”
“ออกไปเดี๋ยวนี้!”
อาทิตย์เริ่มตวาดเสียงเข้มตามระดับอารมณ์ขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งได้เห็นใบหน้าสวยเหยียดยิ้มให้อย่างรู้ทันเขาก็โมโหจนแทบควบคุมตัวเองไม่ไหวอยู่แล้ว ก่อนจะพยายามดึงสติกลับมาหลังหญิงสาวเจ้าของหัวใจเปิดประตูเข้ามาพร้อมกาแฟและตารางงานของวันนี้
“เจ้าขอตัวก่อนนะขนม ไว้จะนัดวันที่ถ่ายแบบ”
“อืม”
“ว่าแต่เรื่องนี้ขนมต้องไปขออนุญาตแฟนก่อนไหม”
จันทร์เจ้าแกล้งถามด้วยแววตาเจ้าเล่ห์โดยไม่ลืมหันไปลอยหน้าลอยตามองคนเป็นพี่ที่ยกมือขึ้นกำปากกาในมือแน่นจนแทบจะหักคามือ
“ไม่ต้องหรอก”
ขนมตอบกลับไปหลังนึกถึงนิสัยของแฟนหนุ่ม หากเธอไปถ่ายแบบชุดพวกนี้เขาคงยินดีเสียมากกว่า เพราะเจ้าตัวเอาแต่วิจารณ์และพร่ำบอกให้หญิงสาวเปลี่ยนการแต่งกายที่เชยสะบัดแบบนี้
“แน่ใจนะ เกิดอยู่ๆ การันต์เขาหึงหวงขึ้นมา ขนมจะแย่เอา”
หญิงสาวยังคงถามต่อ หากมองในมุมของขนมคงเป็นประโยคที่หวังดีสุดๆ ทว่าในมุมของอาทิตย์มันแฝงไปด้วยคำพูดที่ทิ่มแทงใจ
“แน่ใจสิ รันต์เขาไม่ได้เป็นคนคิดมากอะไรขนาดนั้นหรอก และที่สำคัญแค่ถ่ายแบบเอง”
“แหม แฟนของขนมนี่ดีจังเลยเนอะ ถึงว่าคบกันมานานถึงสามปี”
เสียงสบถดังแทรกขึ้นมาทำเอาขนมขมวดคิ้ว เธอแอบเลื่อนสายตามองก็เห็นคนเป็นเจ้านายมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ทำเอาหญิงสาวรีบก้าวเดินมาหยุดที่โต๊ะพร้อมเปิดแฟ้มตารางงาน
ขนมเอ่ยคำขอโทษชายหนุ่มไปเล็กน้อยที่ยืนคุยเพลินจนลืมเวลางานเลยส่งผลให้เขาต้องรอนานแล้วเกิดความหงุดหงิดแบบนี้
.
.
.