“อือ” หมอหนุ่มที่รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบนร่างกาย ก็เอามือปัดออกเบา ๆ
“เอ่อ คุณอยู่นิ่ง ๆ ก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูเช็ดตัวให้ ตอนนี้ตัวคุณร้อนมาก”
แล้วเธอก็เช็ดตัวให้เขาอย่างแผ่วเบา ใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำรัว อย่างตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็น
“ขอบใจนะ” มือหนาก็จับมือเธอไว้ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“คะ...ค่ะ” มืออีกข้างก็เช็ดตัวให้เขาต่อด้วยความประหม่า ตอนนี้เหมือนเธอได้สัมผัสกับร่างกายเขา ทุกส่วนมันแน่นไปหมด ทั้งกลิ่นตัวเขากับกลิ่นที่นอนเขายังหอมจนหน้าหลงไหล
“เสร็จแล้วค่ะ คุณนอนพักผ่อนนะคะ มีอะไรก็เรียกหนูได้เลย เดี๋ยวหนูรออยู่ข้างนอก”
“อยู่ที่นี่ได้ไหม”
“คะ?”
“อยู่ในห้องนี้กับฉัน”
“...”
“นะ”
“เอ่อ...ค่ะ” แล้วเธอก็นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น แทบไม่กล้าขยับตัวไปไหน มือหนาเขาก็ยังคงจับมือบางเธอไว้
“ฉันพูดเล่น เธอออกไปเถอะเดี๋ยวจะติดไข้เปล่า ๆ ขอบใจมากนะที่เข้ามาเช็ดตัวให้” เขาที่หลับตาอยู่ก็ลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“คะ...ค่ะ มีอะไรก็เรียกหนูได้นะคะ” ร่างบางก็รีบลุกขึ้น แล้วออกจากห้องเขาไปทันที ด้วยความรู้สึกที่เคอะเขิน
ด้วยที่ชีวิตนี้ เคยใกล้ชิดแค่กับพ่อ ไม่เคยสนิทกับผู้ชายคนไหน ไม่เคยมีแฟนหรือคนรัก แล้วก็ไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อน
ด้านหมอหนุ่ม เมื่อเธอออกไปแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ มีเธอไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ขนาดที่เขาไม่สบาย เธอก็ยังมีน้ำใจเข้ามาดูแล ก็ได้แต่รอให้ถึงวันที่เขาจะได้ทวงบุญคุณเธอนั่นแหละ ซึ่งคนอย่างเขาก็จะเรียกค่าตอบแทนให้คุ้ม
ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำของอีกวัน ด้วยที่รู้สึกเป็นห่วงคนที่นอนป่วยอยู่ อันดาก็มีแวะเข้าไปดูบ้าง เมื่อเห็นว่าเขาหลับสนิทอยู่ ก็ไม่อยากรบกวน ทั้งอุณหภูมิตอนนี้ยังเย็นลงแล้ว ก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ก็ได้แต่เตรียมยากับน้ำไว้ที่หัวเตียง แล้วก็เดินออกจากห้องเขาไป
วันต่อมา
หมอหนุ่มตื่นมาในช่วงสายของอีกวัน ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายหายเป็นปกติแล้ว ไม่ได้รู้สึกป่วยมากเหมือนเมื่อวาน เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็เห็นเบอร์ไอ้น้องชายตัวดีโทรมานับ 10 สาย
“มันโทรมาทำไมของมันวะ” แต่เมื่อกำลังจะโทรกลับ อันดาก็มาเคาะประตูพอดี
“คุณหมอคะ ตื่นหรือยังคะ”
“อือ ตื่นแล้ว”
“ค่ะ หนูทำอาหารไว้ให้ทานนะคะ วันนี้หนูจะขอออกไปข้างนอกหน่อย คือ...”
แกร๊ก
อันดาพูดยังไม่จบประโยคด้วยซ้ำ ประตูห้องนอนก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงที่จ้องหน้าเธอ
“เอ่อ... พอดีเพื่อนหนูมาสอบ ก็เลยนัดเจอกันแถวนี้ค่ะ”
“แต่มันยังอันตรายอยู่นะ เธอไม่กลัวแล้วเหรอ”
“กลัวค่ะ แต่...” อันดาหน้าสลดทันทีเมื่อเขาพูดมาแบบนั้น
“อืม เธอนัดเพื่อนไว้ที่ไหนล่ะ” เมื่อเห็นเธอหน้าหงอยลง เขาก็ใจอ่อนขึ้นมาทันที
“ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่เพื่อนบอกว่าจะมาหา ถ้าอยู่แถวนี้”
“แล้วเพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ผู้หญิงค่ะ”
“โอเค เดี๋ยวฉันอาบน้ำแต่งตัวก่อน จะพาเธอไปเอง จะได้ซื้อของด้วย”
“แต่คุณไม่สบายอยู่นะคะ หนูว่า...”
“ฉันเป็นหมอนะ ฉันรู้ร่างกายตัวเองดี และตอนนี้ฉันก็หายดีแล้วด้วย”
“ค่ะ” เธอก็ตอบรับอย่างว่าง่าย ความจริงก็ไม่รู้สถานที่หรอก แต่เพราะไม่อยากรบกวนเขา เธอก็เลยจะไปเอง
พูดจบเขาก็เดินกลับเข้าห้องไป แล้วก็อาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะพาเธอออกไปหาเพื่อน ทั้งจะพาไปซื้อของด้วย เพราะช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่าง คงจะมีเวลาว่างแค่วันนี้
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
“เธอบอกเพื่อนเธอ ให้มาหาที่ร้านกาแฟนี้ก็แล้วกัน”
“ค่ะ” ดวงตากลมโตก็มองป้ายร้านกาแฟแบรนด์ดังราคาแพง ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนสนิท ให้มาหาที่นี่
“อัน” ทันทีที่มาถึง น้ำตาลก็โบกมือไว ๆ ให้เพื่อนสนิทที่นั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟ
“น้ำตาล” เมื่อเห็นเพื่อนสนิท อันดาก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ นี่ก็นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ซึ่งน้ำตาลก็เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ และทั้งคู่ก็คุยกันได้ทุกเรื่อง รวมถึงรู้เรื่องภูมหลังของกันและกัน ดีกว่าใคร
น้ำตาล ชรีดา สาวสวยวัยใส กำลังจะมาเรียนมหาลัยปีหนึ่ง ซึ่งครอบครัวก็ยากจนเหมือนกัน แต่ด้วยที่น้ำตาลสอบทุนได้ เธอก็เลยได้มาเรียนมหาลัย แล้วก็คิดว่าเดี๋ยวค่อยหางานทำ เพื่อส่งตัวเองเรียนทีหลัง
เมื่อมาเจอกัน ทั้งสองสาวก็โถมเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง
“แกเป็นยังไงบ้างอัน ฉันเป็นห่วงแกมาก ๆ เลยนะ เห็นว่าตอนนี้น้าดวงตามหาแกให้ควักเลย”
“จริงเหรอน้ำตาล...” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ อันดาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะเธอก็รู้ดีว่าดวงเป็นคนน่ากลัวขนาดไหน ถ้าได้เจอเธอมีหวัง ต้องทำร้ายเธออีกแน่ ๆ
“แล้วนี่แกมากับใคร ผู้ชายสุดหล่อคนนั้นเป็นใคร” เมื่อเห็นผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ ก็รีบกระซิบถามเพื่อนสนิททันที
“เอ่อ...คือ” แล้วอันดาก็ไม่รู้จะบอกเพื่อนสนิทยังไง ทั้งตอนนี้ไม่ได้อยู่กันตามลำพังด้วย
“ว่าไง แกมากับเขาใช่ไหม”
“อือ เอ่อ...หมอกันต์คะ นี่น้ำตาลค่ะ เป็นเพื่อนหนู ส่วนนี่หมอกันต์เป็นคนที่ช่วยฉันไว้”
“อ่อ สวัสดีค่ะหมอกันต์”
“สวัสดีครับ คุยกันตามสบายนะ”
“เอ่อค่ะ”
เมื่อเห็นแบบนั้นหมอหนุ่มก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที เพื่อให้ทั้งสองคนได้คุยกันตามประสาเพื่อน
“อัน ทำไมคนที่ช่วยแกเขาหล่อขนาดนี้ ดูดีมากเลยนะ เป็นหมออีกต่างหากเหรอ”
“อือ เป็นหมอที่ช่วยฉัน วันที่น้าดวงพามาตรวจร่างกาย ฉันไม่มีทางเลือก ก็เลยรีบขอให้เขาช่วย แล้วเขาก็ช่วยจริง ๆ”
“ดีจังเลย ฉันดีใจกับแกนะ ที่มีคนดี ๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง”
“ฉันก็ดีใจ จนไม่รู้แล้วว่าจะตอบแทนบุญคุณเขายังไงดี เขาดีกับฉันมาก ทั้งจะส่งฉันเรียนอีกนะ”
“ส่งเรียนเลยเหรอ”
“อือ บอกว่าอยากเรียนคณะไหน ก็ให้ฉันไปสอบได้เลย เดี๋ยวเขาจะเป็นผู้อุปการะส่งเสียให้เรียนเอง”
“ยัยอัน ฉันดีใจกับแกนะ แต่เขาหวังอะไรหรือเปล่า ถึงได้ทำดีกับแกขนาดนี้”
“เอ่อ...”
“หืม” น้ำตาลก็หรี่ตาถามอย่างสนใจ ไม่มีหรอกคนที่จะช่วยเหลือคนอื่นฟรี ๆ โดยไม่หวังอะไร แล้วยิ่งเด็กบ้านนอกสู้ชีวิตอย่างเธอแล้ว ก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่าจะมีใครช่วยเฉย ๆ แบบไม่หวังอะไร
“อือ เขาก็บอกแหละ ว่ายังไงฉันก็ต้องตอบแทนบุญคุณเขา แต่เขายังนึกไม่ออก”
“คงไม่ได้อยากได้ตัวแกหรอกนะ”
“ไอ้บ้า น้ำตาล แกพูดอะไรของแก” แก้มสวยก็แดงซ่าน เมื่อเพื่อนสาวพูดมาแบบนี้
“อัน แกอย่าโลกสวยไปหน่อยเลย ตอนนี้แกเป็นสาวสวย แกสวยมาก วัยนี้แหละผู้ชายกำลังชอบ แม่เลี้ยงแกถึงจะเอาตัวแกไปขายไง”
“แกจะย้ำมาอีกทำไมเนี่ย”
“เอ่อ... ฉันขอโทษ ฉันก็แค่เปรียบเทียบให้แกเห็นภาพ ไม่มีใครให้อะไรเราฟรี ๆ หรอก แกกับฉันก็ผ่านโลกมาเยอะ”
“ฉันก็ไม่รู้ ตอนนี้เขายังไม่บอกอะไรมา”
“แล้วเขามีเมียไหม”
“ไม่รู้สิ แต่เขาก็อยู่ห้องคนเดียวนะ”
“อยู่ห้องคนเดียว นี่แกได้ไปห้องเขาแล้วเหรอ”
“เอ่อ...คือ ฉันพักอยู่ที่นั่นกับเขา”
“บ้า ยัยอัน นี่แกอยู่กับผู้ชายที่หล่อขนาดนี้ สองต่อสองเหรอ” น้ำตาลก็พูดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“อือ ก็เขาช่วยเหลือฉัน แล้วฉันก็ไม่มีที่ไป ก็ได้อาศัยอยู่กับเขาที่คอนโดเขานั่นแหละ”
“เป็นโชคดีของแกนะ แต่ฉันแค่กลัวว่าเขาจะมีเมีย ดูเขาก็หล่อแล้วโปรไฟล์ดีขนาดนั้น”
“ก็จริงของแกนะ” แล้วอันดาก็คิดตาม เขาดูเพอร์เฟคไปทุกอย่าง และเธอเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลย แล้วแบบนี้ถ้าเขามีเมียแล้วจริง ๆ เขาจะช่วยเธอและพาไปอยู่ถึงคอนโดแบบนั้นได้ยังไง
และสองสาวก็คุยกันจนหายคิดถึง เครื่องดื่มและขนมที่หมอกันต์สั่งไว้ให้ก็ถูกนำมาเสิร์ฟ จนทั้งคู่หันมองหน้ากันอย่างตกตะลึง เพราะไม่เคยมานั่งร้านกาแฟดี ๆ แบบนี้ ทั้งไม่เคยกินขนมอะไรพวกนี้ด้วย วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่ดีอีกวัน สำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างพวกเธอ