และอันดาก็ใช้เวลาตรวจประมาณ 30 นาที หมอสาวคนนี้ใจดีพูดดีจนเธอหายกังวล แล้วก็รู้ว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้
“เสร็จแล้วนะคะ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”
“ค่ะ พยาบาลคะ พาคนไข้ออกจากห้องด้วยค่ะ”
“เอ่อ...หมอคะ คือหนูอยากเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ ตรงไปขวามือนะคะ จะมีห้องน้ำ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
แล้วอันดาก็รีบออกจากห้องตรวจไปทันที ตอนนี้คิดได้แค่ว่าเธอต้องรีบหาทางหนี แม้ต้องหนีทางไหนก็ตาม ขอแค่ไม่ได้ไปกับแม่เลี้ยงอย่างดวงก็พอ
ตุ๊บ!
แล้วในตอนที่กำลังรีบไป ก็ดันไปเดินชนเข้ากับใครบางคนพอดี จนทั้งคู่ที่ต่างตกใจ ก็รีบหันมองหน้ากัน
ร่างบางเงยขึ้นมองและเป็นจังหวะที่คนตัวโตก้มหน้าลงมามอง ทั้งคู่ได้สบตากันพอดี ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรืออะไร เขาคือหมอหนุ่มคนนั้น คนที่เข้ามาในห้องตรวจ สายตาคมดุจเหยี่ยว ยังคงจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ จนเธอที่ตกตะลึงในความหล่อของเขาตั้งแต่แรก ก้มหน้าลงไม่กล้าสบตา
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” แล้วเสียงทุ้มหล่อก็ถามขึ้น ผู้หญิงคนนี้ คนที่เขาเอาแต่นึกถึง จนออกเวรมาได้สักพักแล้วก็ยังไม่กลับ
“ปะ...เปล่าค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” อันดายิ่งรู้สึกตื่นกลัว ด้วยความที่อยากหนีไปจากตรงนี้ เมื่อตั้งสติได้อีกครั้ง เธอก็รีบร้อน เดินตรงไปหาทางออก
“คนไข้ครับ จะไปไหน” หมอหนุ่มรีบคว้าแขนเรียวนั้นไว้ เมื่อเห็นท่าทางนั้นของเธอ
“เอ่อ จะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” อันดาตอบเสียงสั่น
“ห้องน้ำอยู่ทางโน้นนะครับ ถ้าไปทางนี้จะเป็นห้องพักหมอ”
“เหรอคะ แล้วทางออกละคะ มีทางออกตรงไหนบ้าง”
“ออกไปทางที่เข้ามาครับ เดี๋ยวพยาบาลจะพาออกไป”
“ทางนี้ออกไม่ได้เหรอคะ” อันดาถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“ออกได้ แต่เป็นที่จอดรถของหมอ”
“ที่จอดรถของหมอเหรอคะ”
“คนไข้เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ปะ...เปล่านะคะ ไม่มีอะไรค่ะ”
“แต่ผมว่ามีนะ จะให้ตามญาติให้หรือเปล่า” หมอหนุ่มก็หรี่ตาถามอย่างจับผิด
“มะ ไม่นะคะ ไม่เรียกนะคะ”
“แต่คนไข้เหมือน...”
“หนูไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะหมอ หนูแค่อยากออกไปจากที่นี่ ออกไปทางอื่นที่ไม่ใช่ทางที่เข้ามา”
นึกได้ถึงจุดประสงค์ที่ตัวเองต้องมาในวันนี้ เธอก็ต้องรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าวันนี้ผลตรวจออกว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ เธอก็คงถูกส่งตัวไปที่บ่อนในทันที และยิ่งถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็จะไม่มีทางหนีได้เลย
ดูจากแววตาของเธอในตอนนี้ มันสั่นไหว จนทำให้เขารู้สึกสงสารและเห็นใจ และยิ่งท่าทางตื่นกลัวนั้นของเธอ เขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจ
“แต่ดูคนไข้จะไม่ปกตินะครับ”
“เอ่อ...หนู” แล้วเธอก็ไม่รู้จะบอกยังไงดี ถ้าบอกไปก็ไม่รู้ว่าหมอหนุ่มคนนี้จะช่วยเหลือไหม
“เป็นอะไร” แววตาคมคู่นั้นก็จ้องไปที่ใบหน้าสวย อย่างไม่ลดละ เขาต้องการคำตอบจากเธอ ในเรื่องที่เขาได้ยินมาเหมือนกัน
“ฮึก ๆ” และในตอนนั้นด้วยความกล้ำกลืน อันดาก็ร้องไห้ออกมา ด้วยความรู้สึกที่อึดอัด ตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว นาทีนี้ต้องร้องขอให้ใครสักคนช่วย หนทางรอดคงมีแค่นี้
“เป็นอะไรหรือเปล่า” เมื่อเห็นเธอร้องไห้เขาก็ถามอย่างเป็นห่วง
“ชะ...ช่วยหนูด้วยค่ะหมอ ช่วยหนูด้วย ฮึก ๆ” อันดาแทบพูดไม่รู้เรื่อง ตอนนี้มันมีแต่ความรู้สึก ที่หวาดกลัวและไม่กล้าเผชิญหน้ากับแม่เลี้ยงอย่างดวง
“ใจเย็น ๆ หยุดร้องไห้ แล้วก็บอกมาว่าคนไข้เป็นอะไร” เมื่อเห็นเธอร้องขอมาแบบนี้ เขาเองก็ถึงกับตกใจ
“หนะ...หนู กำลังจะถูกส่งตัวไปที่บ่อน ฮึก ๆ แม่เลี้ยงหนูจะเอาตัวหนูไปให้เสี่ยเจ้าของบ่อน”
“...” หมอหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งเห็นใจเธอ ได้ฟังจากปากเธอแล้ว มันเลวร้ายกว่าตอนที่เขาได้ยิน จากสองคนนั้นอีก ไม่ควรมีใครมีชีวิตที่โชคร้ายแบบนี้
“นะคะหมอ ช่วยหนูด้วยนะคะ หนูจะตอบแทนบุญคุณทุกอย่างเลยถ้าหนูรอดพ้นไปได้ หนูไม่อยากไปจริง ๆ หนูไม่อยากขายตัว” แล้วเธอก็ร้องไห้ออกมาจนสะอึกสะอื้น เรื่องแบบนี้มันเลวร้ายมากเกินไป สำหรับเธอที่ต้องเจอ
“หยุดร้องไห้ก่อนนะ”
“ชะ...ช่วยหนูด้วยนะคะ ฮึก ๆ”
“โอเค หยุดร้องไห้ได้แล้ว”
“ฮึก ๆ” ยิ่งได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ่งร้องไห้มากกว่าเดิม
“ถ้าไม่หยุดร้องจะไม่ช่วยจริง ๆ ด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
“...” แล้วเธอก็ชงักไปเมื่อเขาพูดมาแบบนี้ หมายถึงว่าหมอคนนี้จะช่วยเธอจริง ๆ ใช่ไหม
“เรื่องราวมันเป็นยังไง เล่ามาให้หมด” หลังจากที่เห็นใจเธอมาก ๆ ก็พาเข้าไปนั่งคุยต่อที่ห้องตรวจ หมอหนุ่มก็จ้องใบหน้าสวย และถามถึงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องราวที่เธอเจออยู่
“คะ...ค่ะ” แล้วอันดาก็เริ่มเล่าเรื่องราวความโชคร้ายของตัวเอง ที่ต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ให้คนตรงหน้าฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
เริ่มตั้งแต่เด็กแล้วที่มีชีวิตลำบากแบบนี้ เมื่อไม่มีแม่ และพ่อแต่งงานใหม่ ความเป็นครอบครัวก็พังทลายลง นั่นคือจุดเริ่มต้นของความโชคร้ายของชีวิต ตอนนี้มีแต่ความกล้ำกลืน ความสุขในชีวิตเป็นยังไงยังไม่เคยรู้
ยิ่งได้รู้แบบนี้ หมอหนุ่มก็มองเธอด้วยความรู้สึกที่เห็นใจ ก็ไม่คิดเลยว่าชีวิตคน ๆ หนึ่ง จะโชคร้ายได้ขนาดนี้