หญิงสาวแสนสวยในชุดนักศึกษา มองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ตรงหน้า รอยยิ้มของความดีใจก็ผุดขึ้นมา นี่เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เธอจะได้เรียนมหาลัยเหมือนคนอื่นเขาแล้วจริง ๆ
“พ่อจ๋าแม่จ๋า วันนี้วันเกิดอัน ขอบคุณนะคะที่ทำให้ลูกคนนี้ได้เกิดมา ตอนนี้อันจะได้เรียนมหาลัยตามความฝันแล้วนะ มีผู้มีพระคุณใจดีส่งอันเรียน อันดีใจจังเลยค่ะ อยากให้พ่อแม่มาอยู่ด้วยในวันนี้จัง” มือบางก็ลูบรูปถ่ายที่หลงเหลือไว้ เป็นตัวแทนของพ่อแม่เธอ ที่เอามาด้วยเบา ๆ ด้วยความรู้สึกที่ปลื้มใจ
ด้วยที่เป็นคนมองโลกในแง่ดี ก็ยิ้มร่าให้กับปัญหาทุกอย่าง จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีผู้มีพระคุณ อย่างหมอกันต์ที่คอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง เธอซาบซึ้งบุญคุณเขา จนไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงแล้ว
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก อันดาตื่นตั้งแต่เช้า ลงไปใส่บาตร เสร็จแล้วก็มาทำอาหารเตรียมให้ผู้มีพระคุณ ก่อนที่เธอจะเข้าไปแต่งตัว ด้วยความตื่นเต้นกับการได้ใส่ชุดนักศึกษา พอมองตัวเองในกระจกแบบนี้ ก็เกิดความคิดในหัว ‘เราก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย’ ด้วยแบบนั้นก็ยิ้มออกมาจนหน้าบาน
“ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ”
ทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้อง ก็พบกับร่างสูงที่ยืนกอดอกมองอยู่ ด้วยท่วงท่าที่สุดเท่ เนื่องจากทุกเช้าหมอหนุ่มต้องออกกำลังกาย เป็นกิจวัตรประจำวัน ทำให้เรือนร่างสูงใหญ่นั้น เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่น ทั้งยังมีหุ่นที่สุดแสนจะเพอร์เฟค อย่างกับนายแบบก็ไม่ปาน ถึงแม้ตอนนี้เขาจะใส่แค่เสื้อกล้ามสีขาว กับกางเกงนอนขายาวสีดำก็เถอะ แต่นั่นมันกลับทำให้เขาหล่อเหล่า จนไม่อาจละสายตาไปไหนได้
“คะ...ค่ะ”
“เดี๋ยวฉันอาบน้ำเสร็จแล้วจะไปส่ง”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ”
“เหรอ” ดวงตาคมจ้องมองขลับ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้า
ก็ต้องยอมรับว่า เธอในชุดนักศึกษา ดูสวยและเป็นสาวขึ้นมาก ต่างจากเด็กธรรมดาในวันทั่วไป ยิ่งชุดนักศึกษารัดรูป กระโปรงสั้นเลยเข่า แต่งให้พอเหมาะสำหรับ นักศึกษายุคนี้ มันยิ่งเป็นอะไรที่ดูดีเหมาะกับเธอมาก
“ไปส่งก็ได้ค่ะ แต่หนูแค่กลัวว่า คุณจะไปทำงานสาย”
“มหาวิทยาลัยเธอ กับโรงพยาบาลก็ไม่ได้ไกลกันมาก” เมื่อคิดอะไรได้ก็พูดไปแบบนั้น ถึงแม้ว่าที่ตรงนั้นรถจะติดมากก็เถอะ แต่เขาก็อยากไปรับไปส่งเธอ
“เหรอคะ” อันดาลอบยิ้มอย่างดีใจ มีเขาไปส่งก็ดีเหมือนกัน ถ้ารับอาสาแบบนี้ก็สบายหน่อย เพราะเธอเองก็ยังไม่ชินทาง ตั้งแต่สอบได้ก็เคยไปแค่ไม่กี่ครั้งเอง
“ไปกินข้าวก่อนสิ ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วจะได้ออกไป”
“ค่ะ”
ณ มหาวิทยาลัย
“คณะนี้คนเยอะดีนะ” หมอหนุ่มกวาดสายตาไปทั่ว ก็เห็นว่าที่นี่คนเยอะจริง ๆ
“ปกตินะคะ คนก็จะประมาณนี้แหละ”
“งั้นเหรอ” เพราะตัวเขาเองไม่ชินกับมหาวิทยาลัยในเมืองไทย เนื่องจากเรียนต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก ทั้งตอนเรียนมหาลัยยังเรียนแพทย์อีก ไม่ค่อยได้พบปะผู้คนสักเท่าไหร่ ก็เลยไม่ค่อยรู้ชีวิตนักศึกษาที่นี่
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูไปเรียนก่อนนะคะ”
“ตั้งใจเรียนนะ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอก็หันมายิ้มหวานให้ก่อนจะลงจากรถไป
“เดี๋ยว” เขาเลื่อนกระจกลงมาแล้วเรียกเธอ
“คะ”
“ตอนเย็นไปรอฉันที่โรงพยาบาลนะ จะได้กลับพร้อมกัน”
“แต่วันนี้หนูมีประถมนิเทศ ต้องกลับค่ำนะคะ”
“อือ เสร็จตอนไหนก็ไปรอที่โรงพยาบาลก็แล้วกัน”
“ค่ะ” แล้วรถสปอร์ตคันหรู ก็ขับออกไปในทันที สายตาหลายคู่ต่างจับจ้องมาที่เธอ ทั้งด้วยความสวยและฐานะที่ดูรวย ก็เลยเป็นที่สนใจแก่ใครหลายคน
เมื่อเข้าไปในห้องเรียน หญิงสาวที่ไม่เคยอยู่ในที่แบบนี้มาก่อน เธอก็รู้สึกตื่นเต้นและชอบเอามาก ๆ อยากสัมผัสแล้วว่าการเรียนมหาลัยเป็นยังไง
“สวัสดี เราชื่อพลอยนะ”
“ส่วนเราชื่อหญิง”
“เอ่อ...สวัสดี พลอย หญิง เราอันดานะ หรือเรียกอันเฉย ๆ ก็ได้” ด้วยที่เป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน แล้วก็เข้าสังคมไม่เก่ง อันดาก็เลยไม่รู้ว่า จะต้องทำตัวยังไงเมื่อมีคนเข้าหาแบบนี้
“โอเค เรามาเป็นเพื่อนกันดีไหม จะได้อยู่กลุ่มเดียวกัน” แล้วหญิงก็พูดขึ้น
“ได้เหรอ” อันดาถามพร้อมกับรอยยิ้มของความดีใจ ก็ไม่คิดว่ามาเรียนวันแรกก็มีเพื่อนเลยแบบนี้
“ได้สิ เราสองคนก็มีกันแค่นี้ มาจากโรงเรียนเดียวกัน”
“อ่อ”
“แล้วอันมาจากโรงเรียนไหน”
“เอ่อ... เรามาจากต่างจังหวัด”
“ต่างจังหวัด? นึกว่าเป็นคนกรุงเทพฯ สะอีก ดูรวยขนาดนี้”
“เราไม่ได้รวยนะ พวกเธอสองคนเข้าใจผิดแล้ว”
“เราสองคนไม่สนใจหรอก ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ” เพราะพวกเธอสองคนรวยกันอยู่แล้ว แล้วก็เป็นคนรวยที่เอาแต่ใจ ไม่ค่อยมีเพื่อนคบ ก็เลยต้องคบกันแค่สองคน ตอนนี้ก็นึกสนุก อยากได้อีกคนมาเป็นเบี้ยล่าง และอันดาก็เหมือนจะเป็นคนนั้นได้
หลังจากเรียนเสร็จและทำกิจกรรมจนถึงเย็น ทุกคนก็ต่างล่ำลากัน เสร็จแล้วอันดาก็เดินออกมาหน้าคณะ เพื่อที่จะได้นั่งรถไฟฟ้า อีก 3 สถานี ไปที่โรงพยาบาล ตามที่หมอกันต์บอกไว้ให้กลับพร้อมกัน
“อ้าว ลืมได้ยังไงเนี่ย” เมื่อไม่เห็นกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ในกระเป๋า อันดาก็ถึงกับหน้าถอดสี ด้วยเพราะตื่นเต้นเกินไป เปลี่ยนกระเป๋าแล้วก็ลืมของอีก แล้วแบบนี้เธอจะโทรติดต่อหมอกันต์ได้ยังไง
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” แล้วเสียงทุ่มหล่อของผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็ดังขึ้น
“เอ่อ...” อันดาเพียงมองอย่างไม่ไว้ใจ ถึงแม้จะเป็นนักศึกษาเหมือนกันก็เถอะ แต่เธอกับเขาก็ไม่ได้รู้จักกัน
“เราชื่อต้น เป็นเพื่อนในห้องเดียวกัน เธอคงจำเราไม่ได้”
“อ่อ ขอโทษทีนะเราอาจยังไม่ทันมอง เราอันดานะ”
“อือ ไม่เป็นไร แล้วนี่จะบอกได้หรือยังว่าให้เราช่วยอะไรไหม” ความจริงเขาสะดุดตาเธอตั้งแต่เดินเข้าห้องแล้ว คนอะไรทั้งสวยทั้งน่ารัก แถมยังดูไร้เดียงสา และซื่อมาก ๆ อีกต่างหาก แบบนี้ก็คือสเปคเขาเลย
“เอ่อ เราลืมโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์”
“ของสำคัญแบบนั้นลืมได้ยังไง”
“ก็...มันลืม” เธอก็ไม่รู้ว่าลืมได้ยังไง อุตส่าห์เปลี่ยนกระเป๋าใบใหญ่แล้วแท้ ๆ ยังลืมเอาใส่อีก
“หึ จะไปไหนล่ะเดี๋ยวเราไปส่ง”
“ไม่เป็นไร เราไปเองได้ ขอบใจมากนะ”
“แล้วจะไปยังไง มีเงินเหรอเราอ่ะ”
“เอ่อ...” ก็จริงตอนนี้เธอไม่มีเงินเลย
“ให้เราไปส่งดีกว่า นี่ก็จะค่ำแล้ว”
“ไม่เป็นไร คือ...”
“อันไม่ไว้ใจเราเหรอ”
“เอ่อ...” ด้วยที่ทั้งรู้สึกยังไม่ไว้ใจจริง ๆ และยังเกรงใจด้วย เธอก็เลยไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
“โอเค ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้ จะไปที่ไหนล่ะ”
“ไปโรงพยาบาล KS”
“โรงพยาบาลเหรอ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า แค่จะไปเฉย ๆ”
“บ้านอยู่แถวนั้น?”
“เอ่อ ก็ประมาณนั้น” ตอบแบบนี้ก็คงจะไม่ผิดอะไรหรอกนะ
“โอเค ถ้าอย่างนั้นเอาเงินนี่ไปใช้ก่อน” แล้วเขาก็ยื่นธนบัตร 500 บาทให้เธอ
“ขอบใจมากนะต้น ไว้เดี๋ยวเรารีบเอามาคืน”
“ไม่เป็นไรหรอก ยังต้องเจอกันอีกหลายปี ติดไว้ก่อนก็ได้” เขาพูดขึ้นอย่างติดตลก
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวรีบคืน เอ่อ... แต่รบกวนอีกอย่างได้ไหม ขอยืมโทรศัพท์หน่อยสิ”
“ได้สิ” แล้วเขาก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอ
ก็ยังถือว่าเป็นโชคดี ที่ในกระเป๋าเธอ ยังมีนามบัตรของหมอกันต์อยู่ อย่างน้อยก็จะได้ติดต่อเขาบ้าง
“สวัสดีค่ะคุณหมอ อันนะคะ”
(กันต์ : ทำไมไม่ใช่เบอร์เธอ)
“เอ่อ... พอดีหนูลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องค่ะ ก็เลยยืมของเพื่อนโทร”
(กันต์ : งั้นเหรอ)
“ค่ะ หนูกำลังออกไปนะคะ ให้ไปรอตรงไหน”
(กันต์ : เธอรออยู่ตรงนั้นเดี๋ยวฉันไปรับ)
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกำลังจะออกไปแล้ว”
(กันต์ : งั้นก็รอที่หน้าโรงพยาบาล)
“ค่ะ” แล้วเธอก็วางสายไป ก่อนจะคืนโทรศัพท์ให้เจ้าของ
“เราไปก่อนนะ ขอบใจมากสำหรับวันนี้” หญิงสาวยิ้มหวานให้อย่างสดใส
“ไม่เป็นไร กลับดี ๆ นะ” แล้วต้นก็โบกมือลาเธอ ด้วยความรู้สึกที่ดี เขาสะดุดตาเธอตั้งแต่เห็นครั้งแรก และยิ่งได้มาพูดคุยแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกชอบขึ้นมา ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอ แต่อย่างน้อยก็ได้เรียนด้วยกันไปอีกนาน
Rrr Rrr Rrr
“ครับ”
(กันต์ : ...)
“...”