แค่เพื่อนกัน

1404 คำ
ช่องทางการติดต่อของผมถูกปิดตาย ผมเลยจำเป็นต้องสร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ ไม่ใส่รูปโปรไฟล์ และใช้เพียงชื่อที่ไม่มีอยู่จริง! 'ส่องเฟซ' เพื่อดูการเคลื่อนไหว ในชีวิตประจำวัน ผมขยันทำสิ่งนี้ตั้งแต่ที่ 'เพื่อน' ตีตัวออกห่าง มันย้ายที่ฝึกงาน ทั้งๆที่เคยคุยกันเอาไว้ และปัจจุบันมันก็ย้ายหอพักใหม่ แล้วเราก็ไม่ได้เจอกันโดยปริยาย... ในความเป็นจริง ผมควรจะลืมๆมันไป ไม่ใช่แค่เหตุผลที่ว่าผมมีคนใหม่ข้างกาย แต่มันเป็นเพราะสถานะที่ผมเรียกร้องจากมัน เมื่อครั้งสุดท้ายที่เจอกัน! 'ไหนบอกเป็นเพื่อนกันไง ทำไมเพื่อนจะมาหาเพื่อนไม่ได้' ผมปากไว เพราะไม่อยากให้มันเดินหนีไปง่ายๆจนสุดท้าย ความมักง่าย ก็ตอกย้ำความช้ำมาให้ 'ก็เอาดิ เพื่อนก็เพื่อน' จากสถานะที่พึ่งจะเปลี่ยนไป ก็ถูกผันเปลี่ยนใหม่ คำว่าเพื่อน มันเข้ามาแทรกตรงกลางเอาไว้เหมือนเดิม 'สุขสันต์วันเกิดค่ะ' สาวสวยข้างกาย ที่ผมเผลอไปมีความสัมพันธ์ จนจากคนที่พึ่งรู้จักกัน ต้องกลายเป็นคนสำคัญ ถือเค้กเข้ามาให้ เธอขับร้องเพลงประจำวันเกิดด้วยใบหน้าที่สดใส ผมเลยต้องเป่าเค้กพร้อมกับส่งยิ้มกลับไป 'น้องเตย' ผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่าผม 3ปี หน้าตาดี พูดเก่ง ยิ้มง่าย เราเจอกันที่ร้านเหล้า แล้วเธอส่งยิ้มให้ ผมเลยเป็นคนเข้าหาเธออย่างตั้งใจ แค่อยากจะรู้... ระหว่างการ อดทนรอเพื่อให้ผู้หญิงมีใจ กับเข้าหาให้มันจบๆไป แบบไหนมันดีมากกว่ากัน! แล้วผลมันก็ออกมาแบบนั้น คนที่พึ่งรู้จักกัน กระโดนข้ามขั้นขึ้นมา ในขณะที่อีกคนที่ผมพยายามไขว่คว้าหา สถานะต้องถูกลดลงไปในทันที เตย : ขอให้พี่ตองมีความสุขมากๆนะคะ อยู่เป็นแฟนที่น่ารักของเตยไปนานๆนะ เธอหอมแก้มผมอย่างตั้งใจ ผมเลยรวบร่างเธอเข้ามาใกล้ และกดปากลงไปจูบทันที... ผมเคยตั้งตรรกะเอาไว้ ว่าจะไม่เอาปากไปจูบกับใครง่ายๆ คนที่ผมมีใจเท่านั้น ที่ผมสามารถจูบได้ ยอมรับตรงๆว่าผู้หญิงที่ผมกำลังจูบอยู่ตอนนี้ ไม่ได้ตรงตามตรรกะที่ตั้งไว้ แต่ผมเชื่อว่าวันหนึ่ง ผมอาจจะรักเธอได้ ผมอัดบุหรี่เข้าปอดติดกันถี่ๆ ในขณะที่ตายังจับจ้องที่สมาร์ทโฟนไม่ไปไหน ภาพของผู้หญิงที่ยังติดฝังอยู่ในใจ รวมไปถึงแคปชั่นที่เธอโพสทิ้งไว้อยู่เหนือรูปถ่าย กำลังทำให้ 'เพื่อน' อย่างผมร้อนใจ 'มึงจะดึงใครเข้ามาในชีวิตอีกกี่คนก็ได้ แต่ชีวิตมึงต้องไม่มีกูนะ จำไว้' เมื่อเห็นแบบนั้น มันก็อดเข้าไปส่องคอมเม้นต์ไม่ได้ เพื่อนในกลุ่มบางคนเข้าไปให้กำลังใจ บ้างก็เข้าไปแซวว่าหมายถึงใคร และอีกหลายต่อหลายคนที่เข้ามาถาม ว่ามันโสดไหม ซึ่งผมก็เห็นว่ามันตอบคอมเม้นท์ในทันใด ว่า 'โครตโสด' วงแขนของใครบางคนสวมกอดผมเอาไว้จากทางด้านหลัง ผมจึงจำต้องละจากจอสมาร์ทโฟน แล้วหันไปหาคนด้านหลังแทน เตย : ไม่สูบบุหรี่ไม่ได้หรอคะ... เธอถามเสียงใส และกระชับวงแขนไว้ให้แน่นกว่าเก่า ผม : ไม่ชอบกลิ่นก็เข้าไปรอด้านในก็ได้! คนฟังเงียบไป แต่แล้วเธอก็พูดขึ้นใหม่ เตย : เพื่อนพี่มาหาอ่ะค่ะ ผมพยักหน้า พร้อมกับเพ่งมองไปที่ร่างของคนมาหา ซึ่งผมก็เห็นว่าไอ้บอยยืนกอดอกมองผมอยู่เหมือนกัน จากนั้นเตยก็เดินเข้าไปรอด้านใน แล้วไอ้บอยก็เดินสวนออกมาหาผมแทน บอย : เหมือนมึงจะมีความสุขดี! ผมหันขวับไปมองหน้ามันทันที เพราะน้ำเสียงที่มันเปล่งออกมา แสดงออกชัดเจนว่า 'ประชดประชัน' ผม : จีจ้าย้ายไปอยู่ไหน! บอย : เหอะ อยู่กับอีกคน แต่ถามหาอีกคนนี่นะ มึงนี่ยังไง ผม : มึงควรตอบให้ตรงคำถามดีกว่าไหม ร้านนี่อยู่ไหน ผมยัดมือถือตัวเองไปให้ แล้วคนรับก็ก้มลงมองในทันที บอย : อืมมม ขาวดี! ผมนิ่วหน้าใส่มันทันที ผมเรียกหา เพราะว่าอยากให้มันหาที่อยู่ให้ จำเป็นที่มันต้องมาตอกย้ำในสิ่งที่ผมหรือใครๆก็เห็นไหม บอย : ปล่อยมันไปเหอะ มันจะไปมีใครก็ปล่อยมันไป แค่มันเลิกกับแฟนเหี้ยๆนั่นได้ กูก็สบายใจละ ผม : มึงว่าไงนะ เลิกหรอวะ! ผมถามย้ำทันที! แต่เพื่อนที่มาหา กลับกวนบาทาด้วยการไหวไหล่ และไม่ยอมตอบอะไร ผม : มึงรู้อะไรมา มึงควรบอกกูป่ะ! บอย : บอกทำไมวะ มึงหรือกู ก็เพื่อนมันเหมือนกันป่ะ! ผม : แล้วมึงจะกวนตีนกูทำไมวะ! ผมเริ่มไม่ชอบใจ ผมกำลังร้อนใจว่าสิ่งที่มันบอก ใช่เรื่องจริงไหม แต่มันกลับเล่นลิ้นจนผมหัวร้อนซะได้ บอย : มันเลิกกับแฟนนานละ! ไอ้บอยพูดทิ้งท้าย จากนั้นเพื่อนชายอีกคนของผมก็หิ้วเหล้าเข้ามา เพื่อปาร์ตี้วันเกิดของผมต่อไป ทีม : จะดีกว่านี้เน๊าะ ถ้าพวกนั้นมาด้วย! คนพูดรับแก้วเหล้าจากผม ที่อาสาชงให้ แล้วคำพูดของมันก็ทำให้ผมอดคิดถึงอีกคนไม่ได้ แต่แล้วผมก็รีบสลัดภาพของผู้หญิงคนนั้นออกไป เมื่อผู้หญิงข้างกาย เดินมาทิ้งตัวลงใกล้ๆ บอย : เอาเหอะ กินกันแค่นี้ก็ได้! ไอ้บอยพูดเหมือนจะเข้าใจ จากนั้นมันก็พยายามชวนคุยเรื่องใหม่ แต่คุยไปคุยมา ไอ้ทีมก็หาเรื่องขึ้นมาอีกจนได้ ทีม : อ้าว ไอ้พวกนั้นมันอยู่ลานเบียร์สดกันนี่หว่า มีไลฟ์สดด้วยว่ะ! ไม่ว่าเปล่า มันกลับเอาหลักฐานในมือถือหันมา แล้วผมก็เห็นหน้าจีจ้าอยู่ในจอมือถือเต็มๆตา ใบหน้าสวยๆกำลังยิ้มหวาน จากนั้นภาพก็ตัดไปที่หน้าแตงโมและอ้อมสลับกัน เตย : งั้นเดี๋ยวเตยไปเอาน้ำแข็งให้ละกันนะคะ เสียงของคนข้างกาย เรียกความสนใจจากผมได้ทันที สีหน้าของเตยไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าให้ผมเดา มันก็คงจะเป็นเพราะอะไรไปไม่ได้ นอกจากผู้หญิงที่อยู่ในไลฟ์สดเมื่อกี้นี่ไง บอย : มึงนะมึง หาเรื่องให้เพื่อนแล้วไง! ก้อนน้ำแข็งถูกโยนข้ามโต๊ะไป แล้วไปตกที่คนไม่รู้ห่าอะไรทันที ทีม : อะไรวะ! ไอ้ทีมยกมือเพื่อเกาหัวตัวเองไปมา แล้วผมก็ลุกตามออกไปเพื่อแก้ปัญหาทันที ผม : เป็นอะไร... คนตัวเล็กกว่ารีบหันกลับมา แล้วผมก็เห็นว่าเธอกำลังน้ำตาไหล ผม : ร้องไห้? ผมอยากให้เธออธิบาย ว่าเสียน้ำตาทำไม แต่สิ่งที่เธอเลือกทำ ก็คือการสวมกอดผมเอาไว้ เตย : ผู้หญิงที่อยู่ในไลฟ์สดคนนั้น เตยจำพี่เค้าได้ หัวใจผมสั่นไหวขึ้นมาแปลกๆ มันจุกลึกๆอยู่ข้างใน เมื่อนึกขึ้นได้ ว่าวันที่ผู้หญิงสองคนนี้เจอกัน วันนั้นคือวันที่จีจ้าร้องไห้ แล้วต้นเหตุก็คือผม ไม่ใช่ใคร เตย : พี่ตองกับผู้หญิงคนนั้น เป็นเพื่อนกันใช่ไหมคะ! ผมคงจะหาวิธีเลี่ยงเพื่อตอบคำถามนี้ให้ได้ ถ้าไม่ติดที่ว่าคนถามเงยหน้าเพื่อมองตา เสมือนกับว่าต้องการคำตอบนั้นมากกว่าอะไร ยิ่งเห็นหยดน้ำใสๆที่ร่วงเผาะลงมาใหม่ ผมยิ่งมั่นใจ ว่าเลี่ยงการตอบคำถามนี้ไม่ได้จริงๆ ผม : เพื่อนกัน! มันเป็นอะไรที่โครตฝืนใจ ผมเกลียดคำนี้ฉิบหาย ผมไม่เคยอยากได้คำนี้ สำหรับเพื่อนที่เคยสนิทคนนั้น คนที่มันเอาหัวใจของผมไป คนที่ผมสลัดภาพมันออกไม่เคยได้ คนที่ผมต้องโกหกหัวใจ ว่าไม่ได้คิดอะไรกับมันแล้วจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม