บทที่ 2 จูบอนุบาล 1/2

854 คำ
เมื่อบ่าวสาวเข้ามาในงาน ก็เรียกเสียงปรบมือดังกึกก้อง ห้องบอลรูมปิดไฟให้เหลือแต่ดวงเล็ก ๆ กับแสงไฟบริเวณทางเดินเข้ามาในงาน เป็นสายทางยาวคล้ายทางช้างเผือกเข้ากับธีมงานหนึ่งดาวหนึ่งเดียว เพราะเจ้าสาวที่ชื่อหนึ่งดาว สายตาแดงก่ำที่บวกกับดื่มเหล้าเพื่อย้อมใจไม่รู้แก้วที่เท่าไหร่ และความเสียใจที่ไม่อาจจะร้องไห้ออกมาให้ใครเห็นน้ำตาลูกผู้ชายได้ จึงแสดงความรู้สึกที่เจ็บปวดออกมาทางดวงตาจนไม่เหลือพื้นที่สีขาวในดวงตาคู่นั้น พ่อเลี้ยงตฤณ มองไปยังสองบ่าวสาวที่เดินควงแขนเข้ามาด้วยรอยยิ้มอันแสนสุข แล้วคิดอย่างอนาถใจ ที่ตรงนั้นควรเป็นของเขา หนึ่งดาวเขารักมาก่อนไอ้กิต แต่ทำไมมันถึงได้หัวใจเธอไป เขาตั้งชื่อลูกไว้ตั้งแต่จีบเธอด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนเดียวที่เขารัก! ขณะที่ทุกสายตาจดจ้องไปยังบ่าวสาว แต่เทียนไขนั้นกลับมองไปยังผู้ชายไร้มารยาทคนนั้น ‘อกหักสินะ!’ มองจากสายตาที่แสนเจ็บปวดยามมองไปยังบ่าวสาว เธอพอจะเดาได้ว่าผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นคนในดวงใจของเขา ‘สมน้ำหน้าสันดานไม่ดีก็นกแบบนี้’ เมื่อเห็นเขาเจ็บปวด แต่เธอกลับรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก มือเรียวยกแก้วเครื่องดื่มคอกเทลสีสวยอย่างสบายอารมณ์ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่านายนั่นมันกินแห้วไว้เจอกันที่รถ แล้วจะสมน้ำหน้าอีกหนก็แล้วกัน ชุติพลเดินมาทางเทียนไข เขาตั้งใจที่จะเดินอ้อมมา เพื่ออยากพูดคุยกับลูกสาวบ้าง อย่างน้อยก็ถามเรื่องการงานบ้างก็ยังดี แต่เมื่อเดินจนถึงโต๊ะแล้ว ก็ยังได้รับการเมินเฉยจากลูกสาวของตัวเอง จนต้องเอ่ยทัก “เทียน” เสียงเรียกอย่างไม่ดังนัก แต่ทำให้ทั้งสามหันมา ซึ่งเทียนไขหันมาแล้วก็สะบัดหน้ากลับไป ความอึดอัดตรงนี้ทำให้มัทนากับบุษบาหันมองไปยังมารดาให้มาช่วยเหลือ “ไม่คิดจะทักพ่อบ้างเลยหรือไง” เสียงเข้มดุขึ้น “คุณพ่อใครคะ ได้ข่าวว่าลูกสาวคุณชื่อแพรไหมนะ” เทียนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ แล้วพูดขณะมองแก้วทรงสวยในมือ เงาสะท้อนจากแก้วเป็นใบหน้าผู้ชายใจร้ายคนนั้น “นี่ยังไม่ลืมอีกหรือไง” ชุติพลไม่ได้มีความอดทนนัก เมื่อเจอคำพูดร้าย ๆ ของลูกสาวก็โมโหขึ้นมา เขาอุตส่าห์ลดตัวลงมาทัก ยังมาทำหยิ่งยะโสโอหังนัก ไม่รู้ว่ากรองแก้วสอนกันมายังไง ถึงไม่ได้มีมารยาทอย่างนี้ “เป็นคนลืมยากค่ะ เกลียดแล้วก็ไม่อยากมองแม้แต่หน้า” “นี่!” ชุติพลเผลอตัวง้างมือขึ้น แต่เสียงหนึ่งก็เข้ามาแทรกเสียก่อน “ตายจริง...คุณชุติพลมาคนเดียวเหรอคะ คุณปารมีอยู่ไหนเอ่ย ปล่อยให้สามีเดินคนเดียว ระวังนะคะสาว ๆ จะฉกไป” คุณหญิงพุดจีบ เจ้าของร้านเพชรมารดาของมัทนาก้าวเข้ามาถึงก่อนจึงดักทางไว้ คิดจะมาทำร้ายลูกที่ตัวเองไม่ไยดี ทุเรศสิ้นดี! “เอ่อ...คุณหญิงพุดจีบ” ชุติพลต้องรีบลดมือลง เพราะตอนนี้คุณหญิงพุดจีบนั้นมีชื่อเสียง หากเรื่องนี้รู้ไปถึงคนภายในสังคม ธุรกิจที่เขาเพิ่งเริ่มทำจะสะดุดไปด้วย “อ่าวยายบุษ มานั่งกับหนูเทียนเองหรอกหรือ แม่ก็ตามหาเสียนาน” คุณหญิงรำไพ แม่ของบุษบามาสมทบด้วยอีกคน ทำให้ชุติพลยิ้มเก้อ ไม่คิดว่ายายลูกตัวดีคบเพื่อนไฮโซทั้งนั้น “แม่คะ คุณลุงคนนี้เขาจะมาทำร้ายเทียนค่ะ” บุษบาแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก แต่รู้ว่าเป็นพ่อของเทียนไข และก็ไม่ชอบขี้หน้าด้วยกันทั้งสามคน เรียกว่าเพื่อนเกลียด ก็เกลียดด้วย “ตายจริง! จะทำร้ายเทียนไขเพื่อนลูกฉันเหรอคะ นี่คุณชุติพล...!” รำไพหวีดร้องเสียงดังพาให้กลุ่มเพื่อนไฮโซเงียบเสียงเงี่ยหูฟังกันทันที “เอ่อ...คงเข้าใจผิดกันแล้วมั้งครับ” “แม่กี้ยังเห็นยกมือนี่คะ” พุดจีบรู้เข้าก็เริ่มไม่ยอม เพราะทั้งคู่ไม่ชอบสองผัวเมียคู่นี้อยู่แล้ว ชอบทำตัวเด่นขี้อวดจนเกินพอดี “มีอะไรกันเหรอคะ” ปารมีเห็นเสียงหวีดร้องของรำไพกับพุดจีบ แล้วก็สามีเธอยังยืนยักแย่ยักยันเหมือนกำลังโดนไล่ต้อนก็ไม่ปาน “คุณปารมีมาก็ดี ล่ามสามีไว้ดี ๆ หน่อยนะคะ จะมาหาเรื่องในงานใหญ่อย่างนี้ได้อย่างไร” รำไพได้โอกาสก็แอบด่าอ้อม ๆ เสียเลยที่สามีกัดไม่เลือกหน้าเหมือนหมา “นี่คุณ!” ปารมีเสียหน้าที่โดนแม่รำไพเสียดสีเข้า แม้ตัวเองจะอายุน้อยกว่า แต่ว่าก็ไม่ยอมให้ใครมาฉีกหน้าง่าย ๆ นักหรอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม