{เตชินทร์Talk}
และตอนนี้ผมก็อยู่ที่คลับไอ้เฟิร์สคลาสครับ วันนี้วันเกิดกาตูนจริงๆแล้วเราต้องอยู่ที่บ้านกินข้าวร้องเพลงด้วยกันแล้วแต่ปีนี้ไม่ใช่
ผมได้แต่นั่งจ้องสร้อยในกล่องของขวัญของผมที่เตรียมจะให้กาตูน มันคือสร้อยเพรชสลักชื่อเธอไว้ด้วย กว่าจะได้มันมานานพอสมควรเลยแหละแต่พอได้มาแล้วเธอกลับบอกว่าไม่อยากได้มัน
"ไม่ได้เห็นมึงเหมือนหมาแบบนี้นานแล้วนะ" ไอ้เฟิร์สคลาสเดินมาหาผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ
"...." ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วเก็บสร้อยใส่กล่องไว้เหมือนเดิม
"วันนี้วันเกิดกาตูนไม่ใช่หรอมึงไม่ควรจะออกมาอยู่ข้างนอกนะ หรือว่าทะเลาะกัน"
"20ปีนี้เป็นผู้ใหญ่ยังวะ"
"20ปีหรอ ก็ผู้ใหญ่แล้วนะเดี๋ยวก็เรียนจบ ทำงาน มีครอบครัวมีลูก"
"....." ผมได้แต่หันไปมองหน้ามัน มันเองก็รู้สึกเหมือนคนที่บ้านผมหรอ หรือว่าผมเองที่ต้องยอมรับความจริง "คนเราจำเป็นต้องแต่งงานด้วยหรอวะ"
"จำเป็นดิ กูอยากมีลูกใจจะขาดแล้วแต่ต้องรอเมียเรียนจบก่อน" มันอยากมีลูกหรอวะ ทำไมเรื่องมีครอบครัวมีลูกไม่อยู่ในสมองผมเลย ผมคิดแค่ว่าโตไปพร้อมกันสามคนผมไอ้วินแล้วก็กาตูน สองคนนั้นก็ดูแลกิจการที่บ้านผมก็ดูแลงานของผม
"ป๊ากูซื้อรถให้น้อง เขาบอกว่าน้องโตแล้วควรได้รับอิสระ ความเป็นส่วนตัว แต่กูไม่เข้าใจ" ผมยกเหล้าขึ้นดื่มแล้วเอนตัวพิงโซฟาก่อนจะมองไปที่เพดานห้องแล้วพูดขึ้น ผมไม่เข้าใจจริงๆครับแล้วอยู่แบบนี้ไม่เป็นส่วนตัวตรงไหน
"น้องมึงโตแล้วนะไอ้เต 20ปีแล้วไม่ใช่2ขวบ"
"....." โตแล้ว ทำไมถึงมีแต่คนบอกว่าเธอโตแล้ว แต่ผมมองเธอยังไงก็ยังเป็นเด็ก
"นี้สรุปหวงหรือห่วง"
"แล้วโตแล้วไม่สามารถใช้ชีวิตแบบเดิมได้หรอวะ โตแล้วต้องแยกกันใช้ชีวิตหรอ" โตแล้วไปกินข้าวกับผมไม่ได้แล้วหรอ โตแล้วไปดูหนังร้องคาราโอเกะแบบเดิมไม่ได้รึไงละ นี้หรอที่เธอบอกไม่อยากไปไหนมาไหนกับผมสองคนแล้วเพราะแบบนี้เอง ไอ้วินมันไม่ว่าอะไรเพราะมันไม่ได้สนิทกับน้องเหมือนผมนิ
"มันได้แหละ แต่กาตูนก็มีเพื่อนนิเขามีสังคมของเขา เมื่อก่อนกูก็ห้ามวันวาเหมือนกันแต่ดูเธอไม่มีความสุขกูก็เลยไม่ห้ามเธอแล้ว "
"....." แต่ผมไม่เคยห้ามเธอเลยนิเวลาจะไปไหน
"เลิกเศร้าได้แล้วอีกสองวันมีงาน จะเศร้าห่าอะไรหนักหนามึงเคยงอนกับน้องมึงเกินสองวันหรอ" มันพูดจบก็เดินออกไปจากห้อง
ผมคิดว่าเราคงต้องทำอะไรแบบจริงจังละ ผมคงต้องห่างเธอจริงๆ ก็มีแต่คนบอกว่าเธอเป็นผู้ใหญ่แล้วนิ มีรถแล้วก็คงไม่ต้องให้ผมไปรับไปกินข้าวไปดูหนังแล้วมั้ง เธอคงจะอยากใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่
{กาตูนTalk}
ฉันนั่งมองของขวัญที่กองเป็นภูเขาตรงหน้า แต่มันก็ไม่ได้ทำให้มีความสุขเลย คนที่สนิทที่สุดแต่เขาไม่ได้ให้ของขวัญฉัน คนที่ทุกๆปีไม่มีปีไหนที่ไม่ให้ คนอื่นอาจจะบอกว่าเขาให้แต่ฉันไม่เอาเอง แต่จะรู้ไหมว่าฉันอยากได้มันใจจะขาดแต่คำพูดของเขาที่ว่า จะเอาไปทำไมได้ตั้งแต่เด็กจนโตแล้ว มันทำให้ฉันคิดขึ้นมาว่าถ้าเขาไม่เต็มใจเราก็ไม่ควรรับมันไว้
พวกเราอาจจะโตแล้วจริงๆ ต่อไปนี้ก็อาจจะไม่สนิทกับเหมือนเมื่อก่อนที่วันหยุดแทบไม่ได้อยู่บ้านเลยเที่ยวไม่หยุดเที่ยวทั้งวัน ฉันคงต้องใช้ชีวิตคนเดียวให้ได้ เพราะตอนนี้เฮียวิน27ปี เฮียเต25ปีแล้ว อีกไม่นานพวกเขาก็ต้องแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็แยกย้ายกันไป
วันต่อมา...
วันนี้เป็นวันอาทิตย์และฉันก็ตื่นสายพอสมควร อาบน้ำเสร็จก็เลยลงมากินข้าวแต่บ้านเงียบมาก
"ป้าคะไม่มีใครอยู่เลยหรอ" พอฉันนั่งลงที่โต๊ะอาหารป้าแม่บ้านก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ
"ไม่มีใครอยู่หรอกค่ะ ออกไปกันตั้งแต่เช้าแล้ว"
"...." ออกไปตั้งแต่เช้างั้นหรอ
เห้อฉันถอนหายใจแล้วตักข้าวเข้าปาก และแม่บ้านก็เอาเค้กที่เราเป่าเมื่อคืนมาวางให้
"ไม่มีใครกินเลยหรอคะ" ฉันจ้องที่เค้กแล้วถามเพราะมันไม่มีรอยตักเลย นี่ถ้าเป็นทุกปีเนี่ยไม่มีเหลือเลยนะเฮียวินกับเฮียเตแย่งกันกินหมด
"ค่ะ เมื่อคืนก็ไม่มีใครกิน ส่วนเมื่อเช้าก็ไม่มีใครกินข้าวเช้าก่อนออกไปเลย"
เห้อ ปีนี้มีแต่อะไรแย่ๆจัง ปีหน้าก็ไม่ต้องจัดก็ได้ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันออกไปฉลองกับวีสองคนก็ได้
วันต่อมา...
วันนี้ฉันมาเรียนแต่เช้าเลย ขับรถมาเองด้วย ฉันขับรถเป็นตั้งนานแล้วแหละตั้งแต่ จบ ม.ปลายก็เฮียเตนั่นแหละที่สอน
ฉันนั่งรอวีที่ม้าหินอ่อนที่ประจำ รอให้ถึงเวลาเรียนก่อนค่อยขึ้นไป
"แฮปปี้ค่าาาา คุณหนูกาตูน" วีกอดฉันจากด้านหลังพร้อมกับถุงกระดาษแบรนด์ดังยี่ห้อหนึ่ง
"น่ารักอีกแล้ว ขอบคุณนะ" วีเปลี่ยนจากอยู่ข้างหลังฉันมานั่งลงข้างๆ
"ทำไมหน้าเศร้าจังอะ ไหนๆปีนี้เฮียวินกับเฮียเตให้อะไร " วีถามขึ้นอย่างสงสัย
"เฮียวินให้กำไลข้อมือ น่ารักมาก ส่วนเฮียเตไม่ได้ให้"
"เฮียเตไม่ได้ให้งั้นหรอ?"วีถามพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเป็นปม วีคงตกใจแหละที่ได้ยินแบบนี้
"อืม เขาบอกไม่ได้เตรียม"
"ไม่ได้เตรียมหรอ เป็นไปไม่ได้"
ฉันค่อยๆเล่าทุกอย่างให้วีฟัง แต่วีก็ยังไม่เชื่อที่เฮียเตไม่ได้ให้ของขวัญฉัน
"ดี ไม่อยากให้ก็ไม่ต้องไปเอาดิ มาโยนให้แบบนี้ใครจะอยากได้วะ" และตอนนี้ดูเหมือนว่าวีกำลังโมโหจากสิ่งที่ฉันเล่าให้ฟัง
"อืม ฉันคิดมาแล้วว่าต่อไปนี้ฉันคงน้องห่างกับเฮียทั้งสองคนอะ เวลาที่เราไม่สนิทกันแล้วจริงๆฉันจะได้ทำใจได้ แกอย่าทิ้งฉันอีกคนนะวี"
"แล้วฉันจะทิ้งแกไปไหนหรอ เอางี้ไหมเราจะอ่านหนังสือกันทุกวันหยุดแกจะได้ไม่คิดถึงเวลาที่เฮียเตพาไปเที่ยวพาไปดูหนังไง"
"อืม ดีเลยได้ประโยชน์มาก" เอาวิธีนี้แหละฉันจะได้ไม่ต้องไปคิดถึงคนใจร้าย ไม่ต้องรอให้คนใจร้ายพาไปเที่ยวแล้ว
{เตชินทร์Talk}
"ทำอะไรให้มันเร็วๆหน่อยดิ" ผมสั่งลูกน้องที่กำลังยกของอยู่ แต่ทำอะไรแม่งก็ช้าไปหมด นี้ขนาดมันกลัวผมนะเนี่ยแต่พอผมมายืนคุมงานแม่งก็ไม่ได้ดั่งใจ
ผมโมโหตั้งแต่เช้าแล้ว ผมเห็นพวกมันทำงานกันโคตรช้า ไล่ออกให้หมดเลยดีไหมวะ
"ไอ้ ดีน ทำไมของมีแค่นี้วะ" ผมเรียกถามลูกน้องคนสนิท ของล็อตนี้มันต้องมากกว่านี้
"ของล็อตนี้มันก็มีแค่นี้แหละครับนาย"
"มันจะมีแค่นี้ได้ยังไงวะ" ผมกระชากแฟ้มจากมือมันมาดูเอง พอดูๆแล้วของก็มีแค่นี้จริงๆ
"ไปทำงานได้แล้ว ให้มันบ้าอยู่นี้แหละ" ไอ้เฟิร์สคลาสเดินเข้ามาแล้วสั่งให้ไอ้ดีนออกไปทำงานต่อ "เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานแยกแยะหน่อย"
"เรื่องของกู คนงานกู โกดังกู"
"แต่งานกูไง แค่มึงทำงานปกติลูกน้องแม่งก็ไม่กล้าเดินผ่านละแล้วมายืนคุมทำไม"
"ถ้าไม่มาคุมเดียวแม่งก็ทำงานชุ่ยๆอีก"
"แต่นี้มันแค่ยกของเฉยๆไง" ไอ้เฟิร์สคลาสพูดจบก็เดินเข้าไปห้องทำงานผม แล้วผมก็ต้องเดินตามมันไป
เวลาทำงานผมจะเข้มมากครับ เพราะทุกอย่างต้องห้ามพลาดไม่งั้นก็จะเสียเงินเสียเวลา ถ้าพลาดมาแล้วจะกระทบหลายอย่าง ไอ้เฟิร์สคลาสชอบพูดอยู่เรื่อยว่าลูกน้องกลัวผม แต่ผมไม่เห็นว่าจะมีใครกลัวโดยเฉพาะไอ้ดีน ที่ชอบเถียงผมที่สุด
"อย่าเอาเรื่องงานมารวมกับเรื่องส่วนตัว " พอผมนั่งลงที่เก้าอี้ไอ้เฟิร์สก็เอ่ยขึ้น
ผมยอมรับครับว่ามันฟุ้งซ่านเวลาที่คิดเรื่องของกาตูน ผมยังไม่ได้เจอหน้าเธอเลยตั้งแต่วันนั้นทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกัน เธอพยายามหลบหน้าผม
"ย้ำทุกคนอย่าพลาด แต่มึงกำลังจะพลาดเอง"
"กูไม่น่ารับทำงานนี้ให้มึงเลยว่ะ"
"กูจ่ายเงินไปแล้ว" ผมไม่น่ารับงานนี้จากมันเลย ให้แม่งทำเองก็จบละ เรื่องมากฉิบหาย