ฟู่จินที่ยืนอยู่ใต้ต้นพุทรายกยิ้มที่มุมปากทันทีเมื่อได้ยินเสียงของคนตัวเล็กตอบออกมาเช่นนั้น เหม่ยอิงเมื่อรู้สึกว่าเสียงของพี่เลี้ยงของตนนั้นเงียบไป จึงได้ปีนลงจากต้นพุทรา ก่อนที่จะกระโดดลงมาแต่ก็พลาด มือที่เกาะกิ่งพุทราอยู่หลุดออกจากกิ่งพุทรา ทำให้ตกลงจากต้นพุทรา แต่โชคดีที่ฟู่จินนั้นรับไว้ได้ แต่ก็เสียหลักทำให้ล้มลง จนคนตัวเล็กล้มทับคนตัวโต ใบหน้าของคนทั้งสองเกือบจะสัมผัสกัน ปากอวบอิ่มยังคงคาบพุทราเอาไว้ในปาก
ฟู่จินมองจ้องตากับคนที่ทับอยู่บนตัว ก่อนที่จะใช้อ้อมแขนของตนก่อนรัดคนตัวเล็กไว้ จนเหม่ยอิงนั้นรู้สึกหัวใจเต้นรัว แก้มเนียนก็เริ่มแดงระเรื่อขึ้น
เพราะรู้ดีว่าคนที่กอดตนเองอยู่นี้ ก็คือผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระสวามีของตนนั่นเอง
“ข้าเองก็อยากกินพุทราเช่นกัน ขอข้าชิมหน่อยนะ”
ฟู่จินใช้มือเรียวของตนกดที่หัวของคนตัวเล็ก เพื่อส่งพุทราในปากอวบอิ่มเข้าปากของตัวเอง ยิ่งทำให้เหม่ยอิงหน้าแดงมากกว่าเดิม เหม่ยอิงรีบหยิบพุทราออกจากปากของตนทันที
" อ่ะ ท่านอ๋องปล่อยข้าได้แล้ว ไม่เห็นหรือไงว่าบ่าวอยู่เต็มตำหนักไปหมด "
" แล้วยังไงข้ากับเจ้าจะกอดกันที่ไหนก็ไม่มีใครกล้ามาต่อว่าหรอก อย่าลืมว่าเจ้ากับข้าเป็นอะไรกัน "
ฟู่จินใช้มือเรียวกดที่หัวของคนตัวเล็กให้นอนซบลงที่ไหล่ของตน
" ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าโตมาแล้วงดงามถึงเพียงนี้ ข้าจะรีบกลับมาเมืองหลวงในทันที "
“แต่ข้ากลับคิดว่าท่านจะตายในสนามรบเสียแล้ว”
“เจ้ายังอยากให้ข้าตายอยู่อีกหรือ "
" ข้าก็แค่สงสัยไม่เห็นท่านกลับมาเมืองหลวงเสียตั้งนาน เลยคิดว่าท่านคงถูกข้าศึกสังหารตายแล้วเป็นแน่ "
" ปากของเจ้ายังเก่งเหมือนเดิม "
ฟู่จินเอ่ยจบก็พลิกตัวขึ้นอยู่ด้านบนของคนตัวเล็ก ทำให้คนที่อยู่ใต้ร่างรู้สึกประหม่าทันที ที่คนตัวโตจ้องมอง ฟู่จินจึงพูดขึ้นอีกครั้ง
"ปากเก่งเช่นนี้ปากอันอวบอิ่มของเจ้าจะหวานด้วยหรือไม่ "
ฟู่จินเอ่ยจบก็ก้มลงจะจูบปากอันอวบอิ่มนี้ แต่เหม่ยอิงก็เร็วกว่า ยัดพุทราใส่ปากของคนตัวโตทันที ก่อนจะผลักให้คนตัวโตหลุดพ้นตน แล้วลุกขึ้นเดินหนีกลับห้องไป
ฟู่จินลุกขึ้นนั่งจ้องมองคนตัวเล็กเดินจากไป พร้อมกับกัดกินพุทราและนั่งยิ้มอยู่เช่นนั้น
" กระหม่อมเห็นเช่นนี้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่าท่านอ๋อง จะยังอยากเสด็จกลับไปที่เมืองใหม่หรือไม่พะยะค่ะ "
" หึ แล้วเจ้าคิดว่ายังไงล่ะ"
" พระชายาทรงงดงามมากนะพะยะค่ะ และกระหม่อมก็ได้ยินมาว่า องค์ชายซีกวนเองก็มักจะมาที่ตำหนักของท่านอ๋องอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ท่านอ๋องก็ไม่ได้อยู่ที่ตำหนัก "
ฟู่จินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกไม่พอใจ เพราะถึงอย่างไรองค์หญิงก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระชายาของตนแล้ว แต่กลับมีชายอื่นไปมาหาสู่ถึงตำหนักของตน แม้จะเป็นหลานชายของตนก็ตาม
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ แต่ถึงอย่างไรข้าก็ต้องกลับไปที่เมืองใหม่ เพราะต้องไปจัดการเรื่องเจ้าเมืองคนใหม่ ให้เรียบร้อยเสียก่อน "
ฟู่จินเอ่ยออกไปเช่นนั้นแต่ก็ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า เฉินห้าวยืนมองและคิดว่านายของตนคงมีแผนไว้ในใจอยู่แล้ว
" ท่านอ๋องจะพักอยู่ที่นี่กี่คืนพะยะค่ะ แล้วจะพักที่ห้องรับรองเช่นเคยหรือว่า "
" ข้าก็ต้องพักอยู่กับพระชายาของข้าสิ ที่นี่เป็นตำหนักของข้านะเจ้าอย่าลืม "
ฟู่จินเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มกริ่ม เมื่อนึกถึงใบหน้าของชายาตนที่บัดนี้โตเป็นสาวแล้ว ช่างเป็นหญิงที่งดงามเหนือหญิงใดในแผ่นดิน
" พะยะค่ะท่านอ๋อง แต่ดูเหมือนจะมีคนมาหาท่านอ๋องแล้วนะพะยะค่ะ "
เฉินห้าวเอ่ยบอกกับเจ้านายของตนเมื่อเห็นองค์ชายซีกวนกำลังเดินตรงมาหา
" เสด็จอากลับมาแล้วหรือพะยะค่ะ กลับมาคราวนี้จะอยู่นานแค่ไหนพะยะค่ะ "
" ข้ากลับมาแล้ว ทำไมเจ้าถึงอยากรู้ว่าข้าจะมานานแค่ไหนล่ะ "
"หลานก็แค่ได้ยินว่าเสด็จอา ยังต้องกลับไปจัดการแต่งตั้งเจ้าเมืองอีกหลายเมือง หลานเพียงสงสัยเท่านั้น"
องค์ชายซีกวนเอ่ยถามผู้เป็นอาเพราะอยากจะรู้ว่า อาของตนนั้นจะอยู่นานเพียงใด เพราะตนนั้นจะได้มาหาองค์หญิงเหม่ยอิงได้สะดวก แม้จะรู้ว่าองค์หญิงอภิเษกกับอาของตนไปแล้ว แต่เพราะรู้ว่าอาของตนนั้นไม่ได้ใส่ใจองค์หญิงเลย หนำซ้ำยังปล่อยให้อยู่ที่ตำหนักผู้เดียวมาหลายปี เช่นนี้แล้วตนจึงคิดจะสานสัมพันธ์กับเหม่ยอิง
"ข้าคงจะอยู่ที่เมืองหลวงไม่นาน ก็ต้องเดินทางกลับไปที่เมืองใหม่อีกเช่นเคย หากตั้งชื่อเมืองและแต่งตั้งเจ้าเมืองเสร็จสิ้นแล้ว ข้าถึงจะสามารถกลับมาได้อีกครั้ง"
องค์ชายซีกวนยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินในคำตอบนั้น แต่ในขณะเดียวกันอ๋องฟู่จินก็ยกยิ้มที่มุมปากเช่นกัน
" ถ้าเช่นนั้นหลานขอไปหาน้องหญิงเหม่ยอิงก่อนนะพะยะค่ะ "
" เดี๋ยวก่อนซีกวน เมื่อกี้เจ้าเรียกใครกัน ถ้าเจ้าหมายถึงพระชายาของข้า เจ้าก็ควรจะเรียกให้ถูก เพราะองค์หญิงเหม่ยอิงคือพระชายาของข้า ซึ่งก็หมายถึงเป็นเสด็จอาหญิงของเจ้าเช่นกัน"
องค์ชายซีกวนเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็ถึงกับเงียบไปพร้อมกล่าวขออภัยกับเสด็จอาของตนทันที
"หลานขออภัยพะยะค่ะเสด็จอา ต่อไปหลานจะเรียกให้ถูกพะยะค่ะ "
“นอกจากเรียกให้ถูกแล้วต่อไปถ้าข้าไม่อยู่ที่ตำหนักเจ้าก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก เพราะมันเป็นการไม่สมควร”
องค์ชายซีกวนถึงกับหน้าถอดสีทันที เมื่อได้ยินคำพูดของอ๋องฟู่จิน เฉินห้าวยืนมองนายของตนที่พูดจากับหลานชายที่เคยรักใคร่เอ็นดู ต้องการสิ่งใดก็มักจะหาให้ทุกครั้ง แต่บัดนี้ดูเหมือนว่าอ๋องฟู่จินจะหวงบางสิ่งที่มีชีวิต ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของตนแล้วเป็นอย่างมาก อย่างที่ไม่เคยแสดงอาการเช่นนี้มาก่อนเลย
" ถ้าเช่นนั้นหลานขอทูลลาเสด็จอาพะยะค่ะ"
องค์ชายซีกวนเอ่ยจบก็ออกไปจากตำหนักทันที อ๋องฟู่จินมองตามอย่างรู้สึกขัดใจ เฉินห้าวได้แต่มองพร้อมกับยิ้มที่เห็นนายของตนนั้น ไม่รู้ว่าตนเองกำลังแสดงท่าทีหวงแหนพระชายาของตน
" เจ้าไปพักเถอะข้าก็จะไปพักแล้วเหมือนกัน "
เอ่ยจบอ๋องฟู่จินก็เดินกลับเข้าห้องของตนไป ภายในห้องเสี่ยวจูกำลังช่วยพระชายาใส่เสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำเสร็จ
เมื่อเห็นเช่นนั้นฟู่จินก็สะกิดให้เสี่ยวจูออกจากห้องไป เมื่อเสี่ยวจูออกจากห้องก็ปิดประตูให้กับนายทั้งสองได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน
" พี่เสี่ยวจูทำอะไรอยู่ข้าหนาวแล้วนะขอเสื้อคลุมหน่อย "
" เจ้าหนาวงั้นหรือถ้าเช่นนั้นข้าก็จะกอดเจ้าให้หายหนาว "
ฟู่จินเอ่ยจบก็กอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนทันที
"อ่ะ ท่านอ๋องจะทำอะไรเพคะ ปล่อยเถอะเพคะหม่อมฉันจะใส่เสื้อผ้า "
" ก็เจ้าบอกเองว่าเจ้าหนาวข้าก็จะกอดให้ความอบอุ่นแก่เจ้ายังไงล่ะ "
เหม่ยอิงหัวใจเต้นรัว ยืนนิ่งไม่พูดอะไรอีก ฟู่จินเมื่อเห็นคนตัวเล็กยืนนิ่ง ก็รู้ได้ทันทีว่าอีกคนนั้นป่านนี้คงจะแก้มแดงไปแล้ว
" ตัวเจ้าหอมมากเลยรู้ไหม อย่ากลัวข้า ข้าจะไม่หักหาญน้ำใจของเจ้า หากเจ้าไม่เต็มใจ "
" ถ้าเช่นนั้นก็ปล่อยหม่อมฉันเถอะเพคะ หม่อมฉันจะได้ใส่เสื้อคลุม "
ฟู่จินปล่อยอ้อมแขนออกพร้อมกับหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้กับคนตัวเล็ก เหม่ยอิงมองการกระทำของคนตัวโตนิ่ง ฟู่จินมองคนตัวเล็กไม่ละสายตา พร้อมกับมองต่ำลงที่อกอวบอิ่มที่ล้นชุดที่ผูกคาดอกออกมา ทำให้เหม่ยอิงยิ่งรู้สึกอายจนแก้มแดงระเรื่อมากกว่าเดิม
" ข้าเพิ่งจะรู้ว่าพระชายาข้างดงามถึงเพียงนี้ "
ฟู่จินเอ่ยออกไปแล้ว แต่เมื่อรู้สึกว่าตนอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงได้ถอยห่างจากคนตัวเล็ก จนเหม่ยอิงเองก็แปลกใจ
" เจ้านอนเถอะข้าไม่กวนเจ้าแล้ว อ่อ ข้าจะพาเจ้าไปที่เมืองใหม่ด้วยอีก 3 วันเจ้าก็เตรียมตัวไว้แล้วกัน "
เมื่อเอ่ยกับพระชายาของตนเสร็จแล้วอ๋องฟู่จินก็เดินออกจากห้องไปทันที เหม่ยอิงยังคงยืนนิ่งเพราะสับสนกับคนตัวโต ที่ทำท่าเหมือนจะจูบ แต่ก็ถอยหนีแล้วก็ออกคำสั่งพร้อมกับเดินออกจากห้องไป
" ท่านเป็นอะไรของท่านกัน ท่านทำให้ข้าตกใจรู้หรือไม่อ๋องฟู่จิน "
แม้จะรู้สึกว่าคนตัวโตทำให้รู้สึกตกใจ แต่ก็อดแปลกใจที่ตนเองนั้นไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสจากคนตัวโตเลยแม้แต่น้อย กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยกับสัมผัสของอีกคนมากกว่า