5
พอเข้ามาในลิฟต์ ฉันก็เดินไปยืนชิดมุม หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นแก้เบื่อ
"โกรธอะไร ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว้ย" บาร์รอนที่ยืนจ้องฉันสักพักก็พูดขึ้น
"โกรธอะไร ไม่ได้โกรธ" ฉันบอกเขาทั้งที่ตายังอยู่หน้าจอโทรศัพท์
ฉันไม่งี่เง่าขนาดนั้นหรอกนะ จะโกรธเขากับเรื่องแค่นั้นทำไม๊~~
"แล้วเป็นอะไร"
"ตอบแชทอยู่"
"ทำไมต้องแอบ"
"..."
ติ๊ง!
ฉันไม่ตอบและรีบเก็บโทรศัพท์ลง พอดีประตูลิฟต์เปิด จึงรีบเดินเข้าบ้าน ฉันเดินไปกดเล่นหนังที่เปิดทิ้งไว้ บาร์รอนเดินตามเข้ามา วางโอเด้งลงที่โต๊ะตรงหน้า แล้วนั่งลงข้างๆ
ฉันหยิบโอเด้งขึ้นมากินเงียบๆ พลางดูหนังไปด้วย แต่แล้วน้ำตาก็หยดติ๋งๆ
"อึก!" ฉันกลั้นเสียงร้องไห้
"ร้องทำไม ไหนว่าไม่โกรธ" บาร์รอนจับไหล่ฉันให้หันไปหาเขา สีหน้าเขาดูตกใจมาก
"หนังมันเศร้า ฮือออ" ฉันปล่อยโฮ สงสารนางเอก มันเศร้าจริงๆ นะ
"ยัยบ้าเอ๊ย!" เขาเสยผม ทิ้งตัวลงกับพนักพิงโซฟา ท่าทางดูหัวเสีย แต่ก็โล่งอกนั่นคืออะไร
"ก็มันเศร้านี่" ฉันบอกปากยื่น ทิ้งตัวลงซบอกแกร่ง เขายกมือขึ้นมาวางบนหัวฉัน ไม่ได้ต่อว่าอะไร
พวกเรานั่งดูหนังต่อจนจบถึงเข้านอนกัน
สายแก่ของวันใหม่ ฉันตื่นมาก็ไม่พบคนตัวโตแล้ว มีเพียงข้อความที่บอกว่า 'คนขับรถรออยู่ข้างล่าง' มันน่าโมโหมั้ย ทำไมเขาไม่ปลุกฉันเล่า!!
ฉันอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปหาคนขับรถที่รออยู่ก่อนแล้ว เป็นพี่คนเดิมที่คอยรับส่งฉันทุกครั้งที่กลับมาที่นี่
"คุณชายบอกว่าอยู่สตูดิโอเดิมครับ" พี่คนขับรถบอก เมื่อจอดรถหน้าตึกบริษัท
ดูเขาสิไม่อยากพูดกับฉันขึ้นขั้น บอกผ่านพี่คนขับรถแล้วเหรอ!
"ขอบคุณค่ะ" ฉันกล่าวขอบคุณแล้วลงจากรถ เดินเข้าไปอย่างคุ้นเคย เพราะมาบ่อย
ฉันเปิดประตูเข้าไป บาร์รอนกำลังพูดคุยกับคนในห้องกระจกอยู่ ไม่แม้จะหันมาสนใจคนเข้ามาใหม่อย่างฉัน
อ๋อ แบบนี้สินะถึงไม่ยอมปลุก! ฉันเข้าใจในทันทีที่หันเข้าไปในห้องกระจก กูยอน! ฉันจำชื่อหล่อนได้แม่น ผู้หญิงที่เจอในร้านอาหาร และเมื่อคืนนี้!
ฉันเดินเข้าไปประชิดตัวบาร์รอน แล้วโน้มตัวลงกระซิบข้างหู
"มาแย้ว^^"
"ขนมอยู่ในกระเป๋ารองทองไปก่อน เสร็จแล้วเดี๋ยวพาไปกินข้าว" เขาหันมามองฉันเล็กน้อย ไม่มีทีท่าตกใจ รู้อยู่แล้วสินะว่าฉันเข้ามา
"อือ" ฉันพยักหน้าเข้าใจ เดินไปนั่งรอโซฟา เปิดกระเป๋าเขาดู มีขนมอยู่จริงๆ ด้วย ขนมที่ฉันและเขาชอบกิน^^
"อ้าว เอลลี่มาแล้วเหรอ"
"สวัสดีค่ะ" ฉันก้มหัวทักทายพี่แฮพุงผู้ช่วยของบาร์รอนและทีมงาน ที่เปิดประตูเข้ามา
"บาร์รอนบอกว่าจะตามมาด้วย คิดว่ามันโกหกซะอีก"
"เหอะๆ พอดีตื่นสายค่ะ" ฉันยิ้มแห้งๆ และรู้สึกโล่งใจที่บาร์รอนไม่ได้อยู่กับยัยนั่นสองต่อสอง
ฉันนั่งกินขนมเงียบๆ ดูพวกเขาทำงาน และหาข้อมูลของยัยยูยอนนั่น หล่อนเป็นสมาชิกในวงไอดอล ถึงว่าหน้าคุ้นๆ สวยออร่าจับซะ
ชิ!!
"โอเคครับ ออกมาได้เลย" บาร์รอนบอกหลังจากให้กูยอนร้องท่อนเดิมซ้ำอยู่หลายรอบ
นี่คือเสร็จแล้วใช่มั้ย จะได้ไปกินข้าวแล้วสินะ
แกรก!
มีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา พร้อมถือของพะรุงพะรัง กูยอนที่เพิ่งเดินออกจากห้องอัด ปรี่เข้าไปช่วยถือของ
"วันนี้กูยอนขอเลี้ยงมื้อเที่ยงนะคะ" เธอวางของลงบนโต๊ะและพูดกับทุกคน
"จะดีเหรอครับ" ทีมงานที่ฉันไม่รู้จักชื่อพูดขึ้น
"ทุกคนเหนื่อยมาทั้งเช้า ให้กูยอนตอบแทนบ้างเถอะค่ะ"
"อย่าคิดมาก มันเป็นงานของพวกเราอยู่แล้ว" พี่แฮพุงบอก
"ขอบคุณที่เหนื่อยกันนะคะ" เธอก้มหัวขอบคุณทุกคน แล้วขอตัว "เสียดายจัง กูยอนมีงานต้องไปต่อ ขอตัวนะคะ"
"ไอไปก่อนนะ แล้วเจอกัน" เธอหันมาโบกมือลาบาร์รอน แล้วรีบร้อนเดินออกจากห้อง แต่หันมาเห็นฉันก่อน "อุ๊ย น้องคนรู้จัก เอ๊ย เอลลี่ เจอกันอีกแล้ว"
"นั่นนะสิ" ฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่เหมือนกัน!
"อยากคุยด้วยจัง แต่ไม่มีเวลาแล้ว ไว้เจอกันนะ" ว่าแล้วก็รีบร้อนออกห้องไป พร้อมกับผู้ชายที่เพิ่งเข้ามา
พูดเก่งอะไรเบอร์นี้ ไม่ปล่อยให้คนอื่นได้พูดเลย
"ต้องเจออีกเหรอ" ฉันยิ้มทัดทาน มองตามหล่อน
"ไปกินข้าว" บาร์รอนลุกเดินมาหาฉัน
"ไม่กินนี่ล่ะ" ฉันพยักพเยิดไปที่ของบนโต๊ะ
"จะไปไม่ไป" เขาถามเสียงเรียบ สายตาดุ
"กินร้านไหนล่ะ" ฉันลุกขึ้นควงแขนเขาทันที
"อยากกินอะไร"
"อะไรก็ได้"
"ส่งงานมาด้วย ไม่เข้ามาแล้ว" บาร์รอนหันไปบอกแฮพุง
"เออๆ เดี๋ยวส่งให้เลย" พี่ผู้ช่วยตอบ
"ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอคะ" ฉันถามพี่ผู้ช่วยและทีมงาน
"ขอบคุณครับ เชิญตามสบายครับ" ทีมงานลุกขึ้นก้มหัวขอบคุณ
"งั้นบ๊ายบายค่ะ" ฉันก้มหัวลง แล้วยิ้มโบกมือให้ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมบาร์รอน
พอเดินพ้นประตู ฉันก็รีบปล่อยมือกลัวคนมาเห็น บาร์รอนมองฉันด้วยหางตา แล้วเดินนำไปขึ้นลิฟต์ ลงไปขึ้นรถสปอร์ตของเขาที่อยู่ชั้นล่าง
"ไม่เห็นบอกว่ามาอัดเสียงกูยอน"
"ไม่เห็นถาม"
"ที่นายไม่ปลุกฉันเพราะอยากอยู่กับยัยนั่นสองคนใช่มั้ย!"
"งี่เง่า!"
"ใช่ฉันมันงี่เง่า!!!!!! แต่นายมันสำส่อน!!!!" ฉันกอดอกสะบัดหน้ามองออกไปนอกรถ ไม่อยากคุยกับเขาแล้ว!!!
เอี๊ยด!!!!
บาร์รอนหักรถเข้าไหล่ทาง เบรกจนหัวทิ่ม
"ใครกันแน่!" เขาหันมาจ้องมองฉัน เลื่อนสายตาลงไปที่สร้อยคอ หมายความว่าไง
พรึบ!
"อย่านะ" ฉันรีบกุมสร้อยไว้อย่างหวงแหน เขาดึงมันขาดไปแล้วทีหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้มันขาดอีกรอบสองแน่
ปึก!!!
"โธ่เว้ย!!!"
เขาทุบพวงมาลัย ตะโกนอย่างหัวเสียง และออกรถอย่างรวดเร็ว ทำเอาฉันต้องรีบหาที่จับ เขาเป็นบ้าอะไรอีกแล้ว