ตอนที่ 4 เด็กฝึกงานชั้นเจ็ด

1431 คำ
"เอาละ ในเมื่อรู้จักกันแล้ว แผนกของเราส่วนใหญ่ก็จะเป็นระบบที่ส่งผลตรวจไปที่ห้องแล็บระบบที่จัดส่งนี้ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์นำทาง แต่ละครั้งคุณหมอจะส่งหลอดที่ต้องตรวจมาที่ท่อนี้และกดส่งชั้นที่ต้องตรวจสอบ “อี๊ หมายถึง…” ส้มถึงกับอุทานออกมาในทันที วิชุดานึกเอาไว้แล้วว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เรื่องเยอะที่สุดแต่เธอก็พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้มากที่สุดเพราะเธอเป็นผู้ใหญ่ “ใช่ อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ มีทั้งเลือด ปัสสาวะ อุจจาระของคนไข้ ทุกอย่าง หน้าที่ของพวกเธอคือดูแลระบบพวกนี้ให้ทำงานให้เป็นปกติ ไม่อย่างนั้น” “อย่าบอกนะคะว่า….เราต้องถือพวกนั้นไปส่งน่ะ” “ก็ดูแลให้เครื่องทำงานตามปกติก็แล้วกัน เอาละวันแรกก็ไม่มีอะไรมาก เดี๋ยวจะพาไปรู้จักกับคนในแผนกทั้งหมด” “รวมถึงคุณหมอด้วยไหมคะ” วิชุดาข่มใจครั้งแล้วครั้งเล่ากับความอยากรู้อยากเห็นของนักศึกษาคนนี้ เธอไม่ตอบแต่เดินนำทุกคนออกมาเพื่อแนะนำแต่ละคนให้รู้จัก “นี่พี่ขวัญ พี่อ้อม พยาบาลประจำเค้าน์เตอร์กะนี้ ยังมีอีกสองคนที่จะมาสลับเอาไว้พวกเธอมาเข้ากะแล้วค่อยแนะนำอีกที” “สวัสดีค่ะพี่อ้อม พี่ขวัญ” “สวัสดีค่ะทุกคน” “คุณหมอประจำในแผนกเรามีสามท่าน หมอชลดา หมอนิรุตน์ และคุณหมอตะวัน” “คุณหมอชลดาคะ เด็กฝึกงานค่ะ” “หมอชลดา หมอหญิงเพียงคนเดียวในแผนกออกมายืนยิ้มเพื่อรับไหว้ทุกคนที่เข้ามาฝึกงาน เธอเป็นคุณหมอใจดีที่ยิ้มให้ทุกคน กล่าวทักทายเล็กน้อยและกลับเข้าห้องเพื่อรอตรวจคนไข้” “คุณหมอนิรุตน์คะ เด็กฝึกงานค่ะ” “อ้อ สวัสดีทุกคน ตามสบายนะ คนสวยฝากดูแลด้วยนะ ผมไปห้องผ่าตัดก่อน คุณหมอตะวันล่วงหน้าไปแล้ว” “ได้ค่ะคุณหมอ” “ว๊า คุณหมอตะวันไม่อยู่ น่าเสียดายจัง” “ส้ม สำรวมหน่อย” “อะไรละน้ำ กระทุ้งอยู่ได้เป็นบ้าอะไร” “เอาละ บอกไว้อีกอย่าง กฎระเบียบของพวกเธอไม่ต่างกับเจ้าหน้าที่ที่นี่ อ่านและจำให้ขึ้นใจอย่าสร้างความวุ่นวายและอย่าเสียมารยาท..กับคุณหมอ และขอเตือนว่าอย่าได้ถามเรื่องส่วนตัวกับคุณหมอเป็นอันขาด” พวกเธอเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานและนั่งอ่านกฎระเบียบของโรงพยาบาลรวมไปถึงงานที่ต้องแบ่งหน้าที่กันดูแล ส้มเริ่มอิดออดและรู้สึกว่าเบื่อกับการที่จะต้องดูแลระบบนี้ขึ้นมา “แย่จังเลย เรื่องอะไรต้องมาทำหน้าที่เฝ้าเครื่องส่งฉี่ละเนี่ย เฮ้อ” “นี่ตันหยงเที่ยงนี้ไปกินข้าวที่ไหนเหรอ” “นัดกับแคทเอาไว้ว่าจะลองไปกินที่ห้องอาหารน่ะ ไปด้วยกันไหมกิต” “เอาสิ ๆ พวกเธอละ ไปไหม” “ไป ๆ เราไปด้วย” “นี่พวกเธอไม่เบื่อบ้างเหรอ อยู่ในโรงบาลทั้งวันแล้วยังต้องกินข้าวในห้องอาหารโรงบาลอีก ไม่เอาด้วยหรอก เหม็นกลิ่นยาฆ่าเชื้อ ไปกินข้างนอกดีกว่าอยากกินสเต๊ก” “เราไปด้วยนะตันหยง” “น้ำ!!” ส้มมองหน้าเพื่อนที่จู่ ๆ ก็จะทิ้งเธอไปกับตันหยง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คอยตามเธออยู่ตลอดเวลา น้ำหันมามองหน้าส้มที่ยังไม่พอใจและเอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก “ส้ม เราว่าจะลองกินที่นี่ดู มันสะดวกและไม่เสียเวลา อีกอย่างช่วงนี้คงต้องรัดเข็มขัดเรื่องการใช้จ่ายแล้วด้วย” “แต่ว่า..แค่สเต๊กเองนะ” “ไม่ละ เราไม่ไป ส้มไปเองเถอะนะมื้อนี้เราขอตัว ไปกันเลยไหม” “ไปสิ” ส้มถูกเพื่อนทิ้งเป็นครั้งแรก เธอเริ่มหันมามองหน้าตันหยงและเริ่มไม่พอใจนิด ๆ “ตามใจพวกเธอเถอะ” ห้องอาหารชั้น 11 “ตันหยง ทางนี้ ๆ” แคทมาถึงก่อนแล้วและยังจองโต๊ะเอาไว้แล้ว เธอแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนอีกสองคนตามมาด้วย “เธอชื่อ..น้ำ และนายก็กิตติสินะ” “ว๊าว ยอดไปเลย แคทจำชื่อเพื่อนในคลาสแม่นจังเลย” “แน่นอนสิ แม้ว่าจะไม่ค่อยสนิทกับใครแต่เรื่องจำชื่อคนน่ะเราแม่นมากเลยละ เอาละไปสั่งข้าวกันเถอะ อาหารที่นี่น่ากินทุกอย่างเลย” พวกเขาผลัดกันไปสั่งอาหาร ตันหยงกับแคทนั่งรอน้ำและกิตที่เดินไปซื้อข้าวอยู่ที่โต๊ะและเริ่มแลกเปลี่ยนกันว่าแต่ละคนได้ดูแลเรื่องอะไร “ก็ดูไม่น่าเบื่อดีนะ แต่ออกจะเหมาะกับคนที่ใจแข็งนิดหนึ่ง เพราะคนไข้ที่เข้ามาแต่ละคนคือ…ช่างเถอะ ว่าแต่เห็นพวกนั้นคุยกันว่าหมอที่แผนกหล่อมากเลยนี่ เจอหรือยังละ ที่แผนกฉุกเฉินมองใครก็เหมือนกันหมดเพราะทุกคนใส่แต่แมส” “เป็นความบังเอิญที่วินาศสันตะโรเลยละแก” “ว่ายังไงนะ แกจะบอกว่า….” ตันหยงกระซิบบอกบางอย่างกับแคทจนเธอตกใจจนหลายคนเริ่มหันมามอง “แก โลกมันกลมหรือพรหมลิขิตละนี่” “พรหมลิขิตบ้าอะไร เขายังไม่เห็นหน้าฉัน จำไม่ได้และ…บุคลิกนั่นผิดกับที่เคยเจอเลย เขาด่ายัยส้มไปชุดใหญ่ที่เดินไปถามเขาเรื่องเอกสาร” “แกแน่ใจนะว่าเขาจะจำแกไม่ได้” “แก อยากสลับแผนกกับฉันไหม” “เอ้อ…ถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงได้แหละ แต่ตอนนี้รายงานตัวแล้วนี่” ""เฮ้อ…."" “ถอนหายใจอะไรกันทั้งสองคน ไปเถอะ อาหารน่ากินมากเลยเดี๋ยวเราเฝ้าโต๊ะให้ เราซื้อเสร็จแล้ว” “เอาวะ กองทัพเดินด้วยท้อง ไป” กิตมองหน้าสองสาวที่เรียกความฮึดขึ้นมาอย่างน่าประหลาดจนเขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อทั้งคู่เดินออกไปเลือกอาหาร ซึ่งเรียกได้ว่าเรียกความสนใจให้คนที่ห้องอาหารได้มากพอสมควรเพราะทั้งคู่เป็นนักศึกษาที่หน้าตาดี แคทแม้ว่าจะไม่ได้มีตำแหน่งดาวคณะหรือดาวมหาลัยแต่เธอแค่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยไม่ได้ลงแข่งเท่านั้น ตันหยงเองก็เช่นกัน “นี่ ดูสิ น่ารักมากเลยว่ะ” “อ๋อน้องคนนั้นอยู่แผนกฉุกเฉิน” “ไม่ อีกคนสิคนที่ผมสั้นนั่นน่ะ ขาวอย่างกับเจ้าหญิงหิมะ” “ไม่รู้ว่ะ” “เหมือนจะอยู่ชั้นสี่ หรือชั้นเจ็ดนี่แหละ” “ต้องสืบ ๆ” “พอเถอะ จัดการในสต๊อกให้เรียบร้อยก่อนเถอะ” ดูเหมือนว่าสองคนที่ถูกพูดถึงจะไม่รู้เรื่องเลยว่าในตอนนี้พวกเธอล้วนเป็นที่พูดถึงทั้งโรงพยาบาล สองสัปดาห์ผ่านไป “โอ๊ย ไม่ไหวแล้วนะ วันๆใช้แต่เอาเอกสารไปให้คนโน้นคนนี้ นี่มันงานอะไรกัน” “ส้ม เราเป็นแค่เด็กฝึกงาน เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำเถอะน่า” “นั่นสิครับ ทุกงานก็สำคัญหมดนั่นแหละ” “นี่พวกเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเหรอ ตันหยง เธอเองก็ยอมทำงานเบ๊นี่เหรอ” “เบ๊ ส้มเธอก็พูดเกินไป งานทุกงานมันก็เกี่ยวข้องกันทั้งนั้นแหละ” “ใช่สิ เธอไม่เคยเอา…อีพวกนั้นไปส่งที่ห้องแล็บนี่” “ก็เครื่องไม่เคยมีปัญหานี่ แล้วจะให้ฉันเอาไปส่งได้ยังไง” “ย่ะ ไม่ต้องอวดก็ได้มั้งว่าเก่งน่ะ” “ส้ม เราว่าไปสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ” “แหมน้ำ พอมีเพื่อนเรียนเก่งเป็นเด็กเนิร์ดนี่เถียงเก่งขึ้นเยอะเลยเนอะ” “ว่าไงนะ พูดใหม่สิ” “ทำไม เธอมีปัญหาอะไร” “ตันหยง” วิชุดาเข้ามาห้ามสงครามครั้งนี้ได้ทัน เธอสังเกตถึงความผิดปกติได้ในทันทีแต่ก็ไม่พูดออกมา “ตันหยง ออกมานี่หน่อย” “ค่ะพี่ออย” ตันหยงยังมองส้มอย่างไม่พอใจเมื่อเดินตามออยออกไป ก่อนถึงเค้าน์เตอร์ ออยจึงหันมา “เกิดอะไรขึ้น” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะก็แค่เรื่องไร้สาระ พี่ออยมีอะไรให้หยงทำเหรอคะ หยงกำลังเบื่อเลยค่ะ” “อะไรกัน คนอื่นชอบบ่นว่าไม่ใช่หน้าที่โปรแกรมเมอร์ แต่เรากลับของานทำเหรอ” “อย่าพูดถึงเลยค่ะ ว่าแต่พี่ออยมีอะไรเหรอคะ” “มานี่สิ มาดูคอมพิวเตอร์ให้พี่ทีสิพี่จนปัญญาแล้วละ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม