ตอนที่4 เข้าหา

1968 คำ
ทุก ๆ วันที่อยู่ห่างไกลกันคงมีเพียงแค่หน้าจอโทรศัพท์เท่านั้นที่จะใช้พูดคุยสื่อสารถึงกันได้ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนเข้าสู่หนึ่งปี ห่างไกลกันแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกรักและคิดถึงกันมากขึ้นกว่าเดิม เอวิกาไม่เคยระแวงหรือคิดมากให้ปวดหัว เพราะกฤษณ์ดนัยไม่เคยทำอะไรให้รู้สึกกังวลเลยสักครั้ง เขาจะคอยรายงานเธอเสมอวันนี้ทำอะไร ไปไหนมาบ้าง ถ้าวันไหนที่เขาว่างจะต้องนอนคุยกันจนหลับคาหน้าจอไปเลยด้วยซ้ำ มันคือความสุขทางไกลที่ทำได้ในทุก ๆ วัน "เอวี่มาเที่ยวหาพี่ไหม สักอาทิตย์ก็ได้ พี่คงไม่ได้กลับไปหา ครั้งนี้ถ้าคิดถึงเอวี่ต้องมาเองแล้วล่ะ" คำชักชวนของสามีเมื่อเดือนก่อน ทำให้วันนี้และตอนนี้เอวิกาลงทุนนั่งเครื่องมาเยี่ยมไกลถึงลอนดอน เพราะช่วงนี้ทางบ้านไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงมาก บิดาที่ป่วยก็เริ่มสุขภาพแข็งแรงขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว ถ้าหากความสุขเพียงน้อยนิดที่สามารถมีร่วมกันได้เธอก็ไม่รีรอที่จะทำตามที่ใจปรารถนา จากกรุงเทพฯถึงลอนดอนใช้เวลา 11ชั่วโมง ก่อนที่เอวิกาจะเดินลากกระเป๋าออกมายังจุดนัดพบ ร่างสูงในชุดเสื้อโค้ทตัวยาวสีดำยืนโบกมือยิ้มทักให้ได้เห็น ก่อนที่คนทั้งคู่จะวิ่งโผเข้ากอดกันและกันด้วยความคิดถึงจับหัวใจ "พี่ดีใจมากเลยที่เอวี่มาเยี่ยมถึงที่นี่" "จะมาดูให้เห็นกับตาต่างหากล่ะคะว่าพี่กฤษณ์อยู่คนเดียวจริงหรือเปล่า" "พันเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ็นต์ พี่รักเมียพี่คนเดียวอยู่แล้ว แวะทานข้าวกันก่อนไหมหรืออยากกลับห้องพักผ่อนเลย" "กลับไปนอนดีกว่าค่ะ เหนื่อยมาก ๆ เอวี่ไม่เคยเดินทางไกลหลายชั่วโมงขนาดนี้เลยในชีวิต" "ดีเลย พี่ก็อยากนอนกอดเมียให้หายคิดถึงเหมือนกัน ไปกันเถอะรถพี่จอดอยู่ตรงโน้นแหนะ" สองหนุ่มสาวเดินจับจูงมือกันออกจากสนามบินไปอย่างมีความสุข ระหว่างทางที่เดินไปยังลานจอดรถ กลับมีผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนและชนไหล่เอวิกาแทบจะเซล้มไปอีกทาง "อุ๊ย! ขอโทษทีนะคะไม่ทันมอง" ทั้งเอวิกาและกฤษณ์ดนัยหันไปมองผู้หญิงคนนั้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วมุ่น จ้องมองหน้าเพื่อนร่วมคลาสที่เป็นอีกหนึ่งคนไทย ส่งยิ้มทักทายเพียงเล็กน้อย "นึกว่าใคร จะไปไหนน่ะพลอย" "กฤษณ์นั่นเอง พอดีพลอยรีบกลับไทยด่วนค่ะ แล้วนี่...." พลอยพัชชาจับจ้องมองคนที่ยืนเคียงข้างผู้ชายที่เธอหมายตาเขาแต่เขาไม่เคยสนใจมองเธอด้วยความอิจฉา แต่ยังคงฝืนยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเช่นเดิม "แฟนผมเองน่ะ เอวี่นี่พลอยเพื่อนร่วมคลาสเดียวกับพี่" "สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณพลอย" เอวิกายิ้มทักทายด้วยความเป็นมิตร ไม่ได้เสแสร้งเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายกำลังฝืนทำอยู่ "ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ พลอยต้องขอโทษด้วยนะที่เดินชนเมื่อกี้ ยังไงพลอยไม่รบกวนแล้วค่ะ ไว้มีโอกาสดีกว่านี้ก็คงได้ไปนั่งจิบกาแฟด้วยกันสักครั้งนะคะ" "ค่ะ เชิญคุณพลอยตามสบายเลย" "ไปนะคะกฤษณ์ ขอตัวนะคะคุณเอวี่" ก่อนลาจากพลอยพัชชายังคงส่งสายตาหวานซึ้งจ้องมองกฤษณ์ดนัยเช่นเคย ไม่ว่าเขาจะสนใจเธอหรือไม่แต่เธอสนใจเขามาก อยากได้เขามาครอบครองเป็นของตัวเองในสักวัน ทั้งเอวิกาและกฤษณ์ดนัยเข้ามานั่งภายในรถก่อนที่เขาจะขับเคลื่อนออกไปช้า ๆ "คุณพลอยเธอสวยมากเลยนะคะ ไม่เห็นพี่กฤษณ์เล่าให้ฟังเลยว่ามีเพื่อนคนไทยเรียนร่วมคลาสด้วย" "เขาเพิ่งย้ายมาได้ไม่นานน่ะ ไม่ได้สำคัญพี่เลยไม่ได้เล่าให้เอวี่ฟัง" "แต่เธอดูสนใจพี่อยู่นะ มองพี่กฤษณ์แปลก ๆ ด้วยเอวี่เริ่มใจคอไม่ดีแล้วสิแบบนี้" เอวิกาจับจ้องมองหน้าสามีที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ด้วยความรู้สึกสับสน เธอไม่ได้จะคิดมากแต่เพราะดูพลอยพัชชาออกต่างหาก สายตาที่อีกคนจ้องมองสามีเธอ เหมือนกับว่าหล่อนคนนั้นอยากจะกลืนกินให้ได้ถ้ามีโอกาส "เอวี่หึงพี่สินะ ฮ่า ๆ ๆ ดีเลยพี่ชอบให้เมียหึง หึงเยอะ ๆ แสดงว่าเมียรักเมียหลง" "กลัวแต่พี่กฤษณ์น่ะสิจะหลงไปเล่นกับเขาด้วย ยิ่งเอวี่อยู่ไกลแบบนี้ เฮ้อ..." "พูดเหมือนไม่รู้จักพี่งั้นแหละเอวี่ ตั้งแต่คบกันมาจนถึงวันนี้เอวี่ก็รู้ว่าพี่มั่นคงกับความรู้สึกของตัวเองมากแค่ไหน อย่ากังวลไปเลย เอวี่จะไม่เสียใจเพราะพี่อย่างแน่นอน" ฝ่ามือเรียวข้างซ้ายของเอวิกาถูกยกขึ้นจรดที่ริมฝีปากหนาจูบซับอย่างแผ่วเบา ทำให้เอวิกาคลี่ยิ้มและหายกังวลกับสิ่งที่คิดวิตกเมื่อครู่นี้ทันที เธอเชื่อใจเขาว่าเขารักเธอมากพอ เธอจะไม่กังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น จะใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ที่มีครั้งนี้อยู่ร่วมกันให้มีความสุขมากที่สุด °°°°°° หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่ได้ทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกัน ไปเที่ยวด้วยกัน เดินจับจูงมือกัน เป็นเหมือนคู่รักที่ดูอบอุ่นและรักกันมาก เหมือนกับว่าทริปนี้ของเอวิกาเธอบินมาเพื่อฮันนีมูนกับสามีหลังแต่งงานกัน บรรยากาศดี ๆ กับสถานที่สวย ๆ ให้ได้ไปเยือนมากมายหลายที่ เหมือนกับมาชาร์จพลังกายพลังใจกับสถานที่แปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้น "ทำไมนาฬิกาเดินเร็วขนาดนี้นะ ครบ 1 อาทิตย์แล้วเหรอที่เอวี่ต้องเดินทางกลับไทย" เสียงทุ้มถามขึ้น ร่างเปลือยเปล่าที่กำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียงสั่งลากับความสุขที่ผ่านพ้นไปไวเหมือนโกหก เป็นแบบนี้ทุกครั้งไม่ว่าเขาจะเดินทางกลับไปที่ประเทศไทย ก่อนลาจากกันหนึ่งวันแทบไม่มีใครอยากลุกออกจากเตียงนอนไปไหนเลยแม้แต่นาทีเดียว "ผ่านมาได้เป็นปีแล้ว อีกไม่นานก็ได้กลับไปอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วนะคะพี่กฤษณ์" "นั่นสิ พี่เองก็นับวันรอ ถ้าไม่ติดว่าต้องเก็บเกี่ยวความรู้เพื่อไปบริหารงานสานต่อธุรกิจพ่อ พี่คงไม่ต้องมาอยู่ไกลกันกับเมียแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะอีกแค่ไม่กี่เดือนเอง พี่จะอดทนแล้วเราจะกลับไปอยู่เป็นครอบครัวที่มีความสุขด้วยกันตลอดไป" "ค่ะ เอวี่ก็รอวันนั้นอย่างใจจดจ่อ" นิ้วชี้เรียวของเอวิกาลากไล้สัมผัสไปบนหน้าอกแกร่งของสามี ใบหน้าสวยหวานแนบชิดกับแผงอกกว้าง ความสุขในชีวิตก็คงมีแค่นี้ ได้อยู่กับคนที่รักแม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ แต่มันก็คือความสุขที่ไม่มีวันลืม สนามบิน หลังจากที่ไปส่งเอวิกาเช็คอินเสร็จ ไม่ทันที่กฤษณ์ดนัยจะกลับไปขึ้นรถ เสียงทักทายที่ดังมาจากทางด้านหลังทำเอาเขาต้องหันหน้ากลับไปมอง "กฤษณ์คะ เดี๋ยวก่อนสิ รอพลอยด้วย" "อ้าว นี่พลอยเพิ่งกลับมาจากเมืองไทยเหรอครับ?" ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงฉีกยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่มตรงหน้าที่ตัวเองแอบชอบ "ใช่ค่ะ พลอยกำลังหารถกลับอพาร์ตเม้นต์พอดี กฤษณ์มาส่งแฟนเหรอ?" "ครับ เอวี่กลับบ้านวันนี้พอดี ถ้าไม่รังเกียจเดี๋ยวผมขับรถไปส่งพลอยที่อพาร์ตเมนต์ก็ได้นะ" "อุ๊ย! จะดีเหรอคะ พลอยเกรงใจน่ะสิไม่ได้ไปทางเดียวกันด้วย" "ไม่เป็นไรหรอกพลอย ยังไงก็อยู่ในเมืองเหมือนกันนี่นาจะห่างไกลกันกี่ถนนเชียว" "งั้นพลอยไม่เกรงใจนะคะ รบกวนกฤษณ์ด้วยก็แล้วกัน" พลอยพัชชายิ้มปลื้ม อยากอยู่ใกล้กับกฤษณ์ดนัยสองต่อสองมานานแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ได้ 3 เดือน เธอต้องยอมรับกับตัวเองว่ากฤษณ์ดนัยถูกตาต้องใจมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะชอบทำตัวห่างเหินกับผู้หญิงทุกคน แบบนี้คงจะรักแฟนมากแต่จะมากพอกับสิ่งที่เธอจะรุกเขากลับในเร็ว ๆ นี้หรือเปล่าก็อยากจะรู้เหมือนกัน หญิงสาวได้แต่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "มาครับเดี๋ยวผมลากกระเป๋าให้" พลอยพัชชารีบยื่นส่งกระเป๋าเดินทางให้กับชายหนุ่ม เขาเดินนำหน้าเธอไปไม่ไกลก่อนที่เธอจะรีบสาวเท้าก้าวเดินตามไปติด ๆ "ทำไมต้องรีบกลับไทยกะทันหันล่ะครับ?" "พอดีว่าคุณแม่ของพลอยท่านเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลค่ะ" "โอ้...แล้วตอนนี้อาการดีขึ้นหรือยังครับ?" "ดีขึ้นแล้วค่ะไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง พลอยถึงได้ต้องรีบกลับมาเรียน เรียนจบจะได้กลับไปสานต่องานที่บ้านแทนท่าน" "ที่บ้านพลอยทำธุรกิจอะไรครับ เอ่อ...ขอโทษที่เสียมารยาทถาม แต่ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับผมไม่ว่า" "ทำอสังหาฯ ค่ะ ทำหมู่บ้าน สร้างคอนโดไว้ขายอะไรประมาณนี้" "ว้าว งั้นก็ธุรกิจเหมือนกับครอบครัวผมเลยสินะ ไม่น่าล่ะคุณถึงต้องมาเรียนไกลที่นี่เหมือนผมเลย" "ค่ะ ก็มาเรียนเอาความรู้เพื่อจะได้กลับไปทำงานให้กับที่บ้าน พลอยโชคดีมากเลยนะที่ได้มาเจอกฤษณ์ที่นี่" แม้ว่ากฤษณ์ดนัยจะไม่ได้หันหน้ามามองเธอเพราะเขามัวแต่สนใจถนนตรงหน้าและตั้งหน้าตั้งตาขับรถอย่างระมัดระวัง เป็นเธอต่างหากที่ได้แต่นั่งมองผู้ชายที่หน้าตาดี น่าสนใจและน่าค้นหาอย่างเขาไม่วางสายตา ในหัวมีแต่ความคิดว่าถ้าอยากได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครองเธอควรจะทำอย่างไร เขาถึงจะสนใจเธอได้มากกว่านี้ที่เป็นอยู่ "กฤษณ์กับแฟนทำไมไม่มาเรียนด้วยกันคะ?" ที่ถามเพราะอยากรู้ความเป็นมาเป็นไปถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่มากกว่า จะได้รู้ว่าควรรับมือกับเขาและเธอได้อย่างไรในวันข้างหน้า "พอดีเอวี่ก็ต้องอยู่ดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราน่ะ" "ว้า...อยู่ไกลกันแบบนี้คงคิดถึงกันแย่เลยสินะคะ" "ก็เป็นธรรมดาของคนรักกันนี่ครับ แต่ถ้าผมมีเวลาผมก็ไปหา ถ้าเอวี่มาได้เขาก็มาอย่างที่พลอยเห็นนั่นล่ะ" "หือ...น่าอิจฉาจังเลยนะคะ กฤษณ์ดูท่าจะรักแฟนมากเลย คุณเอวี่เป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก ๆ" หึ! สักวันฉันคงจะได้เป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นบ้าง พลอยพัชชายิ้มส่งให้เมื่อกฤษณ์ดนัยหันหน้ากลับมายิ้มให้เล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อที่จะไปส่งเธอให้ถึงที่หมาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม