ทุก ๆ วันที่อยู่ห่างไกลกันคงมีเพียงแค่หน้าจอโทรศัพท์เท่านั้นที่จะใช้พูดคุยสื่อสารถึงกันได้ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนเข้าสู่หนึ่งปี ห่างไกลกันแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกรักและคิดถึงกันมากขึ้นกว่าเดิม
เอวิกาไม่เคยระแวงหรือคิดมากให้ปวดหัว เพราะกฤษณ์ดนัยไม่เคยทำอะไรให้รู้สึกกังวลเลยสักครั้ง เขาจะคอยรายงานเธอเสมอวันนี้ทำอะไร ไปไหนมาบ้าง ถ้าวันไหนที่เขาว่างจะต้องนอนคุยกันจนหลับคาหน้าจอไปเลยด้วยซ้ำ มันคือความสุขทางไกลที่ทำได้ในทุก ๆ วัน
"เอวี่มาเที่ยวหาพี่ไหม สักอาทิตย์ก็ได้ พี่คงไม่ได้กลับไปหา ครั้งนี้ถ้าคิดถึงเอวี่ต้องมาเองแล้วล่ะ"
คำชักชวนของสามีเมื่อเดือนก่อน ทำให้วันนี้และตอนนี้เอวิกาลงทุนนั่งเครื่องมาเยี่ยมไกลถึงลอนดอน เพราะช่วงนี้ทางบ้านไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงมาก บิดาที่ป่วยก็เริ่มสุขภาพแข็งแรงขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว ถ้าหากความสุขเพียงน้อยนิดที่สามารถมีร่วมกันได้เธอก็ไม่รีรอที่จะทำตามที่ใจปรารถนา
จากกรุงเทพฯถึงลอนดอนใช้เวลา 11ชั่วโมง ก่อนที่เอวิกาจะเดินลากกระเป๋าออกมายังจุดนัดพบ ร่างสูงในชุดเสื้อโค้ทตัวยาวสีดำยืนโบกมือยิ้มทักให้ได้เห็น ก่อนที่คนทั้งคู่จะวิ่งโผเข้ากอดกันและกันด้วยความคิดถึงจับหัวใจ
"พี่ดีใจมากเลยที่เอวี่มาเยี่ยมถึงที่นี่"
"จะมาดูให้เห็นกับตาต่างหากล่ะคะว่าพี่กฤษณ์อยู่คนเดียวจริงหรือเปล่า"
"พันเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ็นต์ พี่รักเมียพี่คนเดียวอยู่แล้ว แวะทานข้าวกันก่อนไหมหรืออยากกลับห้องพักผ่อนเลย"
"กลับไปนอนดีกว่าค่ะ เหนื่อยมาก ๆ เอวี่ไม่เคยเดินทางไกลหลายชั่วโมงขนาดนี้เลยในชีวิต"
"ดีเลย พี่ก็อยากนอนกอดเมียให้หายคิดถึงเหมือนกัน ไปกันเถอะรถพี่จอดอยู่ตรงโน้นแหนะ"
สองหนุ่มสาวเดินจับจูงมือกันออกจากสนามบินไปอย่างมีความสุข ระหว่างทางที่เดินไปยังลานจอดรถ กลับมีผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนและชนไหล่เอวิกาแทบจะเซล้มไปอีกทาง
"อุ๊ย! ขอโทษทีนะคะไม่ทันมอง"
ทั้งเอวิกาและกฤษณ์ดนัยหันไปมองผู้หญิงคนนั้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วมุ่น จ้องมองหน้าเพื่อนร่วมคลาสที่เป็นอีกหนึ่งคนไทย ส่งยิ้มทักทายเพียงเล็กน้อย
"นึกว่าใคร จะไปไหนน่ะพลอย"
"กฤษณ์นั่นเอง พอดีพลอยรีบกลับไทยด่วนค่ะ แล้วนี่...."
พลอยพัชชาจับจ้องมองคนที่ยืนเคียงข้างผู้ชายที่เธอหมายตาเขาแต่เขาไม่เคยสนใจมองเธอด้วยความอิจฉา แต่ยังคงฝืนยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเช่นเดิม
"แฟนผมเองน่ะ เอวี่นี่พลอยเพื่อนร่วมคลาสเดียวกับพี่"
"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณพลอย" เอวิกายิ้มทักทายด้วยความเป็นมิตร ไม่ได้เสแสร้งเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายกำลังฝืนทำอยู่
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ พลอยต้องขอโทษด้วยนะที่เดินชนเมื่อกี้ ยังไงพลอยไม่รบกวนแล้วค่ะ ไว้มีโอกาสดีกว่านี้ก็คงได้ไปนั่งจิบกาแฟด้วยกันสักครั้งนะคะ"
"ค่ะ เชิญคุณพลอยตามสบายเลย"
"ไปนะคะกฤษณ์ ขอตัวนะคะคุณเอวี่"
ก่อนลาจากพลอยพัชชายังคงส่งสายตาหวานซึ้งจ้องมองกฤษณ์ดนัยเช่นเคย ไม่ว่าเขาจะสนใจเธอหรือไม่แต่เธอสนใจเขามาก อยากได้เขามาครอบครองเป็นของตัวเองในสักวัน
ทั้งเอวิกาและกฤษณ์ดนัยเข้ามานั่งภายในรถก่อนที่เขาจะขับเคลื่อนออกไปช้า ๆ
"คุณพลอยเธอสวยมากเลยนะคะ ไม่เห็นพี่กฤษณ์เล่าให้ฟังเลยว่ามีเพื่อนคนไทยเรียนร่วมคลาสด้วย"
"เขาเพิ่งย้ายมาได้ไม่นานน่ะ ไม่ได้สำคัญพี่เลยไม่ได้เล่าให้เอวี่ฟัง"
"แต่เธอดูสนใจพี่อยู่นะ มองพี่กฤษณ์แปลก ๆ ด้วยเอวี่เริ่มใจคอไม่ดีแล้วสิแบบนี้"
เอวิกาจับจ้องมองหน้าสามีที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ด้วยความรู้สึกสับสน เธอไม่ได้จะคิดมากแต่เพราะดูพลอยพัชชาออกต่างหาก สายตาที่อีกคนจ้องมองสามีเธอ เหมือนกับว่าหล่อนคนนั้นอยากจะกลืนกินให้ได้ถ้ามีโอกาส
"เอวี่หึงพี่สินะ ฮ่า ๆ ๆ ดีเลยพี่ชอบให้เมียหึง หึงเยอะ ๆ แสดงว่าเมียรักเมียหลง"
"กลัวแต่พี่กฤษณ์น่ะสิจะหลงไปเล่นกับเขาด้วย ยิ่งเอวี่อยู่ไกลแบบนี้ เฮ้อ..."
"พูดเหมือนไม่รู้จักพี่งั้นแหละเอวี่ ตั้งแต่คบกันมาจนถึงวันนี้เอวี่ก็รู้ว่าพี่มั่นคงกับความรู้สึกของตัวเองมากแค่ไหน อย่ากังวลไปเลย เอวี่จะไม่เสียใจเพราะพี่อย่างแน่นอน"
ฝ่ามือเรียวข้างซ้ายของเอวิกาถูกยกขึ้นจรดที่ริมฝีปากหนาจูบซับอย่างแผ่วเบา ทำให้เอวิกาคลี่ยิ้มและหายกังวลกับสิ่งที่คิดวิตกเมื่อครู่นี้ทันที เธอเชื่อใจเขาว่าเขารักเธอมากพอ เธอจะไม่กังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น จะใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ที่มีครั้งนี้อยู่ร่วมกันให้มีความสุขมากที่สุด
°°°°°°
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก
เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่ได้ทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกัน ไปเที่ยวด้วยกัน เดินจับจูงมือกัน เป็นเหมือนคู่รักที่ดูอบอุ่นและรักกันมาก เหมือนกับว่าทริปนี้ของเอวิกาเธอบินมาเพื่อฮันนีมูนกับสามีหลังแต่งงานกัน บรรยากาศดี ๆ กับสถานที่สวย ๆ ให้ได้ไปเยือนมากมายหลายที่ เหมือนกับมาชาร์จพลังกายพลังใจกับสถานที่แปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้น
"ทำไมนาฬิกาเดินเร็วขนาดนี้นะ ครบ 1 อาทิตย์แล้วเหรอที่เอวี่ต้องเดินทางกลับไทย"
เสียงทุ้มถามขึ้น ร่างเปลือยเปล่าที่กำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียงสั่งลากับความสุขที่ผ่านพ้นไปไวเหมือนโกหก เป็นแบบนี้ทุกครั้งไม่ว่าเขาจะเดินทางกลับไปที่ประเทศไทย ก่อนลาจากกันหนึ่งวันแทบไม่มีใครอยากลุกออกจากเตียงนอนไปไหนเลยแม้แต่นาทีเดียว
"ผ่านมาได้เป็นปีแล้ว อีกไม่นานก็ได้กลับไปอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วนะคะพี่กฤษณ์"
"นั่นสิ พี่เองก็นับวันรอ ถ้าไม่ติดว่าต้องเก็บเกี่ยวความรู้เพื่อไปบริหารงานสานต่อธุรกิจพ่อ พี่คงไม่ต้องมาอยู่ไกลกันกับเมียแบบนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะอีกแค่ไม่กี่เดือนเอง พี่จะอดทนแล้วเราจะกลับไปอยู่เป็นครอบครัวที่มีความสุขด้วยกันตลอดไป"
"ค่ะ เอวี่ก็รอวันนั้นอย่างใจจดจ่อ"
นิ้วชี้เรียวของเอวิกาลากไล้สัมผัสไปบนหน้าอกแกร่งของสามี ใบหน้าสวยหวานแนบชิดกับแผงอกกว้าง ความสุขในชีวิตก็คงมีแค่นี้ ได้อยู่กับคนที่รักแม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ แต่มันก็คือความสุขที่ไม่มีวันลืม
สนามบิน
หลังจากที่ไปส่งเอวิกาเช็คอินเสร็จ ไม่ทันที่กฤษณ์ดนัยจะกลับไปขึ้นรถ เสียงทักทายที่ดังมาจากทางด้านหลังทำเอาเขาต้องหันหน้ากลับไปมอง
"กฤษณ์คะ เดี๋ยวก่อนสิ รอพลอยด้วย"
"อ้าว นี่พลอยเพิ่งกลับมาจากเมืองไทยเหรอครับ?"
ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงฉีกยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่มตรงหน้าที่ตัวเองแอบชอบ
"ใช่ค่ะ พลอยกำลังหารถกลับอพาร์ตเม้นต์พอดี กฤษณ์มาส่งแฟนเหรอ?"
"ครับ เอวี่กลับบ้านวันนี้พอดี ถ้าไม่รังเกียจเดี๋ยวผมขับรถไปส่งพลอยที่อพาร์ตเมนต์ก็ได้นะ"
"อุ๊ย! จะดีเหรอคะ พลอยเกรงใจน่ะสิไม่ได้ไปทางเดียวกันด้วย"
"ไม่เป็นไรหรอกพลอย ยังไงก็อยู่ในเมืองเหมือนกันนี่นาจะห่างไกลกันกี่ถนนเชียว"
"งั้นพลอยไม่เกรงใจนะคะ รบกวนกฤษณ์ด้วยก็แล้วกัน"
พลอยพัชชายิ้มปลื้ม อยากอยู่ใกล้กับกฤษณ์ดนัยสองต่อสองมานานแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่ได้ 3 เดือน เธอต้องยอมรับกับตัวเองว่ากฤษณ์ดนัยถูกตาต้องใจมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะชอบทำตัวห่างเหินกับผู้หญิงทุกคน แบบนี้คงจะรักแฟนมากแต่จะมากพอกับสิ่งที่เธอจะรุกเขากลับในเร็ว ๆ นี้หรือเปล่าก็อยากจะรู้เหมือนกัน หญิงสาวได้แต่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
"มาครับเดี๋ยวผมลากกระเป๋าให้"
พลอยพัชชารีบยื่นส่งกระเป๋าเดินทางให้กับชายหนุ่ม เขาเดินนำหน้าเธอไปไม่ไกลก่อนที่เธอจะรีบสาวเท้าก้าวเดินตามไปติด ๆ
"ทำไมต้องรีบกลับไทยกะทันหันล่ะครับ?"
"พอดีว่าคุณแม่ของพลอยท่านเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลค่ะ"
"โอ้...แล้วตอนนี้อาการดีขึ้นหรือยังครับ?"
"ดีขึ้นแล้วค่ะไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง พลอยถึงได้ต้องรีบกลับมาเรียน เรียนจบจะได้กลับไปสานต่องานที่บ้านแทนท่าน"
"ที่บ้านพลอยทำธุรกิจอะไรครับ เอ่อ...ขอโทษที่เสียมารยาทถาม แต่ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับผมไม่ว่า"
"ทำอสังหาฯ ค่ะ ทำหมู่บ้าน สร้างคอนโดไว้ขายอะไรประมาณนี้"
"ว้าว งั้นก็ธุรกิจเหมือนกับครอบครัวผมเลยสินะ ไม่น่าล่ะคุณถึงต้องมาเรียนไกลที่นี่เหมือนผมเลย"
"ค่ะ ก็มาเรียนเอาความรู้เพื่อจะได้กลับไปทำงานให้กับที่บ้าน พลอยโชคดีมากเลยนะที่ได้มาเจอกฤษณ์ที่นี่"
แม้ว่ากฤษณ์ดนัยจะไม่ได้หันหน้ามามองเธอเพราะเขามัวแต่สนใจถนนตรงหน้าและตั้งหน้าตั้งตาขับรถอย่างระมัดระวัง เป็นเธอต่างหากที่ได้แต่นั่งมองผู้ชายที่หน้าตาดี น่าสนใจและน่าค้นหาอย่างเขาไม่วางสายตา ในหัวมีแต่ความคิดว่าถ้าอยากได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครองเธอควรจะทำอย่างไร เขาถึงจะสนใจเธอได้มากกว่านี้ที่เป็นอยู่
"กฤษณ์กับแฟนทำไมไม่มาเรียนด้วยกันคะ?"
ที่ถามเพราะอยากรู้ความเป็นมาเป็นไปถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่มากกว่า จะได้รู้ว่าควรรับมือกับเขาและเธอได้อย่างไรในวันข้างหน้า
"พอดีเอวี่ก็ต้องอยู่ดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราน่ะ"
"ว้า...อยู่ไกลกันแบบนี้คงคิดถึงกันแย่เลยสินะคะ"
"ก็เป็นธรรมดาของคนรักกันนี่ครับ แต่ถ้าผมมีเวลาผมก็ไปหา ถ้าเอวี่มาได้เขาก็มาอย่างที่พลอยเห็นนั่นล่ะ"
"หือ...น่าอิจฉาจังเลยนะคะ กฤษณ์ดูท่าจะรักแฟนมากเลย คุณเอวี่เป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก ๆ"
หึ! สักวันฉันคงจะได้เป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นบ้าง พลอยพัชชายิ้มส่งให้เมื่อกฤษณ์ดนัยหันหน้ากลับมายิ้มให้เล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อที่จะไปส่งเธอให้ถึงที่หมาย