EP.4 เด็กดื้อต้องโดนอะไรน้า?

1374 คำ
เวลาผ่านไปสี่ทุ่ม ฉันเดินมายังหน้าบาร์แต่ไม่มีที่ว่าง จึงคิดบางอย่างก่อนจะกระซิบสาวชุดสีขาว "สวัสดีค่ะ หนูทราบว่าพี่ชื่อไทเกอร์อายุยี่สิบห้าปี ส่วนหนูชื่อเยลลี่อายุสิบเก้าปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสองคณะมนุษยศาสตร์" ฉันมั่นหน้าแนะนำตัว "และที่สำคัญโสดนะคะ" "ก็ไม่แปลกใจ ผู้หญิงอย่างเธอใครจะเอา" "แรงอยู่นะพี่ ฮ่าๆ" "แล้วเมื่อตะกี้เธอกระซิบอะไรกับลูกค้าของฉัน" ท่าทางเยลลี่เลิ่กลั่ก เธอนิ่งไปสักพักเพื่อตัดสินใจ "ตอบมา!" ผมเห็นท่าทางของเด็กนี่คงจะใช่ย่อยแต่ก็คงไม่พ้นการใช้เงินฟาดหัวคนอื่นล่ะมั้ง "บอกว่าถ้าให้หนูนั่งตรงนี้ก็รับเงินไปเลยห้าพัน พอยัดใส่มือเขาก็ลุกออกไปงงมาก อิอิ" "เป็นลูกคนรวยที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยสินะแถมยังทำตัวไร้สาระ" "หนูแค่อยากจะมาขอบคุณพี่ที่ช่วยเหลือเมื่อคืน อีกอย่างพี่ต้องรับผิดชอบด้วยนะคะ" "รับผิดชอบทำไม" พึก! ไทเกอร์โยนผ้าเช็ดบาร์ทิ้งเพื่อแสดงอาการหงุดหงิดใส่ แต่ใบหน้านี้กลับไม่สะทกสะท้านแถมยังดูร่าเริงสดใสผิดปกติ "ก็เมื่อคืนพี่พาหนูกลับและพนักงานต้อนรับแคชเชียร์บอกว่าพี่จอดมอเตอร์ไซค์เอาไว้" จะพูดก็อายแต่ก็นะ "แสดงว่าหนูต้องนั่งซ้อนท้ายแล้วเมื่อคืนหนูใส่ชุดโป๊ หน่มน๊มของหนูก็คง..ชิดติดแผ่นหลังของพี่ หนูเสียหายนะคะ" "ไม่ต้องกลัวเรื่องเสียหายหรอกนะ" "แปลว่าพี่จะรับผิดชอบ" "เปล่า! เพราะของเธอมันเล็กจนฉันไม่รู้สึกอะไร อ๋อ..ที่จริงเธอต้องจ่ายเงินให้ฉันถึงจะถูก อย่าเรียกสองเต้านั้นว่านมเลย ให้เรียกว่ากระดูกงอกดีกว่า ทั้งแข็งทั้งน้อยนิด" เหมือนกับโลกนี้ถูกสกัดแช่แข็ง เยลลี่แน่นิ่งจนไม่ไหวติงสักเล็กน้อย ผู้คนนั่งรอบข้างก็ขำกันคิกคัก "พี่หยาบคายชะมัด! ชิ! งั้นหนูขอพูดตามตรงว่าหนูชอบพี่ค่ะ" เป็นไงเป็นกันฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด "ไปซะอย่าเสียเวลาเลย" "ทำไมล่ะคะ?" "เพราะการโดนไล่จับมันไม่สนุก" "แล้วทำยังไงหนูถึงจะโดนพี่จีบ" ฉันยังคงตะโกนแข่งกับเสียงเพลงในร้านที่ดังกึกก้อง ขณะเดียวกันเขาก็ยังคงชงค็อกเทลส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์ และแทบไม่มองหน้าฉันเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันส่งสายตากดดันจ้องรอคำตอบ รอแล้วรอเล่ากระทั่ง ผ่านไปครึ่งชั่วโมง "อย่ามานั่งจ้องหน้าฉันแบบนี้รำคาญ" ผมพูดอย่างหงุดหงิด "ถ้าอย่างนั้นพี่ไทเกอร์ก็ตอบมาก่อนสิว่าต้องทำยังไงหนูถึงจะโดนพี่จีบ!" "แซ่บให้มากกว่านี้สิ เพราะดูๆ แล้วเธอก็เหมือนแกงจืดที่ลืมใส่คนอร์" "โอ้โห!! พี่โคตรบูลลี่เลย" คำตอบที่เจ็บทั้งใจเจ็บจี๊ดไปถึงทรวงใน ทำให้เยลลี่ยกมือขึ้นมากุมอกพร้อมกับหายใจหลายเฮือกเหมือนคล้ายจะเป็นลม หมั๊บ! ทันทีก็ถูกเพื่อนอีกสองคนลากกลับโต๊ะไปเพราะเห็นท่าทางที่โดนเหวี่ยงใส่ "พอเถอะเยลลี่" นินิวพูดปลอบใจ "บอกแล้วไงว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงแรงๆ พวกไปจีบก่อนถูกปัดร่วงทุกราย" "คนใจร้าย" อึก!อึก! เยลลี่ยกแก้วเหล้าที่วางบนโต๊ะกระดกดื่มด้วยอารมณ์เหวี่ยง มีนเห็นท่าทีจึงรีบปลอบใจ "เอาเถอะน่าเยลลี่ถือว่าไม่ใช่เนื้อคู่กัน" "ไม่" "หมายความว่าจะสู้ต่อเหรอ" "ใช่! ผู้หญิงที่ชื่อเยลลี่คนนี้ไม่มีคำว่าถอย..ใส่เกียร์เดินหน้าเท่านั้นค่ะ จะเร่งเครื่องให้ไมล์พังเลยคอยดู" แววตามุ่งมั่นทำให้เพื่อนทั้งสองเป็นห่วงแต่ก็ขัดใจอะไรไม่ได้ เยลลี่ ลูกของนักธุรกิจใหญ่ที่พ่อแม่ตั้งรกรากอยู่เยอรมัน เธอเติบโตมากับพี่เลี้ยงจึงมีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่ทว่า..ความเข้มแข็งและดูแลตัวเองได้ก็ทำให้เธอไม่คิดที่จะยอมแพ้กับปัญหาใด หลายวันผ่านไป วันแล้ววันเล่าที่สาวน้อยวัยสิบเก้าอย่างเธอเข้าออกคลับนี้เป็นว่าเล่น ที่ประจำคือหน้าบาร์เพื่อให้ได้เห็นลีลาเขย่าค็อกเทลของไทเกอร์อย่างชิดใกล้ "พี่เท่จังเลย" ฉันปรบมือให้ "ทั้งหล่อทั้งเก่ง" "เคยมีใครบอกไหมว่าเธอน่ารำคาญแค่ไหน จะมาเฝ้ามองดูฉันทำงานทุกวันทำไม" "ก็ที่หนูมาทุกวันพี่จะได้เห็นว่าหนูแซ่บขึ้นไหม วันนี้หนูใส่เกาะอกสีขาวแถมยัดซิลิโคนนมบึ้มๆ คนอื่นเขามองตาเป็นมันแต่พี่เบือนหน้าหนีหนูน้อยใจนะ" พูดจบไทเกอร์ก็มองต่ำลง เขาจ้องตาเขม็งจดจ่อไปยังสองเต้าทะลัก แต่นั่น...ทำให้เยลลี่อายจนต้องรีบดึงมือขึ้นมาปกปิด "พะ พี่มองอะไร" แววตานิ่งเรียบแต่เขาเป็นผู้ชายที่จ้องคล้ายจะสิง "เห็นแล้วว่านมเธอใหญ่ขึ้น" "แปลว่า..หนูแซ่บพอให้พี่จีบแล้วใช่ไหม?!" "ที่ฉันบอกว่าแซ่บมันหมายถึงเอนเนอร์จี ไม่ใช่สไตล์แต่งตัว อย่างบางครั้งสั่งแกงเผ็ดแต่พอกินก็หวาดจัด" "เขาใส่พริกน้อยหรือเปล่าคะ" ท่าทางยียวนตอบโต้ยิ่งเหมือนจะทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจ "ขอโทษทีค่ะมุกฝืด แต่ยังไงก็ไม่สนหรอกค่ะเพราะหนูถือคติที่ว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก" ไม่ยอมถอยฉันพูดต่ออย่างมุ่งมั่น "ฉันก็ถือคติไม่ยึดติด ไม่ชอบตื้อ โดยเฉพาะเด็กดื้ออย่างเธอ" "เป็นเด็กดื้อต้องโดนอะไรน้า..." "โดนตีน!!!" "พี่ไทเกอร์หยอกแรงตลอด ฮ่าๆ" สองหนุ่มผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่ด้วยถึงกับกลั้นขำไม่ไหวในความตลกและความกล้าแสดงออกของเยลลี่สาวน้อยหน้าใส คงมีเพียงไทเกอร์ที่ไม่ชอบใจ คิ้วหนาผูกปมจ้องดุดันใส่ก่อนจะสบถออกมา "โคตรน่ารำคาญเลยว่ะ!!" เวลาผ่านไปจนร้านเกือบจะปิด ผมสังเกตเห็นบางอย่างจึงเอ่ยถาม "ทำไมเธอดื่มเหล้าน้อยผิดปกติ" "ผิดปกติยังไงคะ?" "ถ้าหากดื่มเหล้าผสมมิกเซอร์อาจจะใช้เวลาแต่เหล้าค็อกเทลดื่มแค่ไม่กี่แก้วก็คงจะมึน จากนั้นก็คงจะอยากดื่มต่อ แต่นี่เธอดื่มไปแค่สามแก้วเองล่ะมั้ง" "อุ๊ยยย..พี่ใส่ใจหนู" ดวงตาเล็กลุกวาวเปล่งประกาย ฉันทำท่าอมยิ้มก่อนที่จะขยับตัวลุกจากโต๊ะสูงหน้าบาร์เข้าไปใกล้ๆ "พี่สนใจหนูแล้วล่ะสิ" "เธอมานั่งตรงหน้าฉันแบบนี้ถ้าไม่ตาบอดก็คงจะมองเห็นแก้วเล็กใสที่วางอยู่" "ชิ!! ขอคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยก็ไม่ได้" "คออ่อนสินะถึงดื่มน้อย" ผมเช็ดโต๊ะหน้าบาร์รีบเก็บแก้วมาไว้ในถังเพื่อรอให้พนักงานทำความสะอาดมาเก็บ ใบหน้าจัดจ้านที่แต่งเติมเครื่องสำอางดูโตเกินวัยของเด็กนี่แน่นิ่งไป แต่สักพักก็ตอบกลับ "หนูแค่แพ้แอลกอฮอล์ หากดื่มเกินลิมิตร่างกายรับไม่ไหวหนูจะอาเจียนเป็นเลือด แต่หนูชอบดื่มนะเพราะมันทำให้รสชาติชีวิตที่แสนน่าเบื่อตลอดที่ผ่านมามีสีสัน" "____" "บางครั้งคนเราก็ต้องยอมแลกกับบางสิ่งเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง อาการเจ็บของหัวใจถูกแอลกอฮอล์ไหลผ่านลงคอเข้าไปล้างก็คงจะบรรเทาได้แม้จะระยะสั้นก็ตาม" "อย่าบอกว่าอกหักมานะ" เรื่องราวดูเหมือนจะเศร้าทำให้ผมรู้สึกผิดเล็กน้อย ตอนนี้ยืนในบาร์รอลุ้นคำตอบ "เปล่าหรอกพี่ หนูไม่เคยมีแฟนสักหน่อยแต่แค่ติดเอฟวิชาหลัก" "วุ้ววว!! จะดึงไปเศร้าทำไมวะ" "จะได้รู้ว่าพี่ห่วงใยหนูหรือเปล่า แต่พี่ตั้งใจฟังมากเลยนะ ใบหน้าของพี่ดูกังวลด้วย แสดงว่าพี่..เริ่มสนใจหนูแล้วล่ะสิ" "!!!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม