“อื้อ หนูเจ็บ” น้ำตาไหลอาบแก้มนวล
“ทนหน่อยเธอจะเสียวแทน” เสียงกระเส่ากระซิบข้าง ๆ ใบหู ความอดทนสิ้นสุดทันที ภาคินเริ่มขยับสะโพกจากเนิบ ๆ ช้า ๆ ก่อนจะเพิ่มจังหวะตามความต้องการ คนใต้ร่างเป็นเพียงที่รองรับอารมณ์ความใคร่ของคนแปลกหน้า ที่ย่ำยีเธอไม่มีชิ้นดี แหมอยากจะขัดขืนแต่ไม่สามารถขัดได้อารมณ์บางอย่างเข้าแทนที่
“อื้อ อือ อือ” สองมือบางกำเข้าหากันเพื่อข่มอาการ
“อย่าเกร็ง” คำสั่งจากชายหนุ่มมือหนาบีบเคล้นเต้าทั้งสอง เพื่อให้คนใต้ร่างหายเกร็ง ขณะเดียวกันสะโพกหนายังส่งขยับไม่หยุด เขาสอดแขนใต้รักแร้หญิงสาวในท่ากอด ปากหนาลากลิ้นไปตามกรอบใบหน้า กลิ่นความสาวความสดทำให้เขาต้องฝากรอยตามลำคอ หน้าอกและหน้าท้องอันแบนราบ
“อ่า... อื้อ โอ้ว” คนน่าสงสารสั่นคลอนตามจังหวะที่ชายหนุ่มกระแทกกระทั้น รองรับความโหดร้ายของอีกฝ่าย เมื่อทนความเสียวซ่านไม่ไหวเสียงหวาน ๆ จึงถูกปล่อยออกมา
“อ่า” ชายหนุ่มจับคนตัวเล็กพลิกไปมาตามแต่จะทำ ปกติเขาหลับนอนกับคู่ขาก็ใช้เวลานานพอสมควร แต่วันนี้เขาถูกวางยาความต้องการจึงมีมากกว่าทุกครั้ง หญิงสาวสดใหม่และที่สำคัญเขาไม่รู้จัก
“อื้อ... หนู… เหนื่อยหนูเจ็บ พอเถอะนะ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” เสียงหอบเหนื่อยพูดกระท่อนกระแท่นให้เขาเห็นใจ หากมีแสงสว่างจะมองเห็นใบหน้าหญิงสาวขึ้นสีแดงจนถึงแดงจัด
“นอนเฉย ๆ แค่ครางหวาน ๆ เป็นพอ ที่เหลือหน้าที่ฉัน”
ไม่พูดเปล่าเขาเพิ่มจังหวะเข้าออกแรงขึ้นและถี่ แรงขย่มของชายหนุ่มทำให้รถที่อยู่ถึงกับสั่นไหวตามแรง คงมีเฉพาะชายหนุ่มเท่านั้นแหละที่รู้ ส่วนอีกคนหมดเรี่ยวแรงต่อสู้
ความต้องการยังไม่หมดลงกิจกรรมเข้าจังหวะอันเนิ่นนาน หญิงสาวอ่อนหัดเกิดความเสียวซ่าน มือทั้งสองข้างจิกลงบนต้นแขนแกร่ง ก่อนส่งเสียงหวาน ๆ พร้อมกับปล่อยน้ำหวานอาบแท่งเอ็นร้อน เสียงหายใจเหนื่อยหอบยังกับวิ่งมานาน สองแขนทิ้งข้างลำตัวหลับตาเธอเหนื่อย
“พอเถอะหนูขอร้อง ไม่ไหว” คำอ้อนวอนไร้ผลเมื่อเขาไม่อาจให้ได้
“เฉยน่า” เสียงเข้มคำรามน่ากลัว หญิงสาวได้ยินเสียงหายใจติดขัดของอีกฝ่ายเมื่อยามที่เขาขยับ
“หนูเจ็บ ปล่อยเถอะจะตายอยู่แล้ว”
“ไม่มีใครตายขณะเขาเอากันหรอกยายเด็กโง่ และคืนนี้เธอต้องรองรับอารมณ์ฉันอีกนานแม่เด็กน้อย” แม้ตัวเขาเองยังอดที่จะหัวเราะในความอ่อนหัดของคนใต้ร่างกว่า
บทรักจะจบหญิงสาวหมดแรงและสลบลง พร้อมกับเสียงกรีดร้องสุดท้ายยามได้ปลดปล่อย
“อ่า โอ่ว ๆ แม่งเธอมันเด็กบ้า บ้าที่สุด” และแล้วเขาได้ฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่ภายในมดลูกคนสลบโดยไม่ตั้งใจ เขาทาบทับลงบนคนตัวเล็กพร้อมหอมแก้มนวลอยู่เนิ่นนาน จากนั้นลุกทำความสะอาดและใส่เสื้อผ้า เปิดประตูลงไปยืนสูบบุหรี่ข้าง ๆ รถ
“นี่เธอ ตื่นได้แล้ว” ภาคินเปิดประตูเรียกคนหลับ และเขาเรียกอยู่นานกว่าเธอจะตื่น
“อื้อ... อูย… เจ็บ…” ยามที่เธอส่งเสียงอู้อี้ ๆ พร้อมขยับตัวความเจ็บปวดเมื่อยล้าก่อตัวขึ้นพร้อมกัน ตามด้วยอาการปวดหัว
“ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยหรือจะให้ลูกน้องฉันต่อก็ได้นะ” แม้ไฟจะสลัวแต่เขาก็เห็นสัดส่วนและอื่น ๆ ทุกซอกทุกมุม ด้วยความกลัวหญิงสาวรีบสวมใส่เสื้อผ้าขาด ๆ เพราะฝีมือชายหนุ่มกระชากขาดเธอกัดฟันข่มเสียงไม่ให้หลุดจากปาก น้ำตาพรั่งพรูหลั่งไหลไม่ขาดสาย
หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเธอนั่งก้มหน้าชิดประตู
“เอาไป” ภาคินยื่นเช็คจำนวนหกหลักแก่เธอ มือที่สั่นเทารับกระดาษแผ่นนั้นมาโดยไม่ได้มอง น้ำตาที่เอ่อล้นไหลเป็นทางไร้เสียงตอบโต้ จนทำให้ชายหนุ่มโมโหหงุดหงิด
“กลับโว้ย” เขาเรียกลูกน้องทั้งสอง
“เอ่อ”
“ที่เดิม” ภาคินรู้ว่าลูกน้องจะถามอะไรเขาชิงบอกก่อน
ระหว่างทางสองลูกน้องมองกระจกดูหญิงสาวสลับเจ้านาย ซึ่งหญิงสาวยกมือเช็ดน้ำตาตลอดทางพร้อมกระชับเสื้อที่ขาด
“พรึบ” ชายหนุ่มโยนเสื้อสูทลงบนตักหญิงสาว
“ใส่ซะ”
จุดหมายที่ไม่น่าจดจำ ทางทางเท้าที่เธอโดนฉุดลากขึ้นรถ รถคันหรูจอดนิ่งให้หญิงสาวลงก่อนที่หนึ่งในลูกน้องจะเอ่ยขึ้น
“เจ้านายครับ ให้เธอลงตรงนี้จริง ๆ เหรอครับ” กฤษชำเลืองมองหญิงสาวเขาเกิดความสงสารขึ้นมาดื้อ ๆ
“ลงตรงนี้ เผื่อเธอรับแขกต่อ” คนใจดำปากร้ายบอกลูกน้อง
“นายครับ”
“หุบปาก” สองมือเปิดประตูรถ ครั้นหย่อนขาลงพื้นความปวดร้าวแทบยืนไม่ไหว
เธอฝืนก้าวเดินกลับห้องพัก โดยไม่คิดหันหลังเหลียวมองในมือกำกระดาษจนยับ สองมือกระชับเสื้อสูทที่เขาโยนให้ไว้แน่น เธอไม่สนใจว่ารถขับออกไปตอนไหน หญิงสาวเปิดประตูได้รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ชำระคราบเปรอะเปื้อนที่ชายแปลกหน้าฝากไว้
เพียงขวัญ ฤทัยบดิน หรือ ขวัญ อายุยี่สิบสามปี เป็นเด็กสาวต่างจังหวัด ฐานะครอบครัวพอกินพอใช้ พ่อแม่แยกทางกัน โดยเธออาศัยอยู่กับแม่ที่บ้านมีสวนมะลิ ครั้นเรียนจบ ม.หก หญิงสาวได้เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ และทำงานไปด้วยเพื่อลดภาระให้กับผู้เป็นแม่ เมื่อเรียนจบเธอจึงสมัครงานที่ร้านสะดวกซื้อ
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดหลังจากเลิกงานช่วงกลางดึก เธอถูกฉุดไปย่ำยีอย่างไม่มีชิ้นดี แม้จะเจ็บปวดเพียงใดแต่ชีวิตคงต้องดำเนินต่อไป และจะไม่มีใครได้ล่วงรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เธอให้แม่รู้ไม่ได้เพราะแม่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
ร่างบางยืนใต้ฝักบัวปล่อยน้ำชะล้างคราบไคลไม่น่าปรารถนา ตั้งแต่หัวยันเท้า พร้อมตาแดงก่ำผ่านการร้องไห้อย่างหนัก เมื่อทำอะไรไม่ได้เธอจึงได้แต่ทำใจ
สองเท้าก้าวออกจากห้องน้ำรีบหาเสื้อผ้าสวมใส่ เธอเดินไปยังตู้เย็นหยิบน้ำและคว้ายาแก้ไข้แก้ปวดกรอกลงปากตามด้วยน้ำ ตอนนี้อาการครั่นเนื้อครั่นตัวกำลังเล่นงานเธอ และนี่ก็ใกล้สว่างเต็มที หญิงสาวรีบทิ้งตัวลงนอนทันที